วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

อาจมีเซอร์ไพรส์

On March 13, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 มี.ค. 62)

หากมองจากความดิ้นรนของพรรคการเมืองบางพรรคและขั้วการเมืองบางขั้วในตอนนี้ ทำให้พอประเมินสถานการณ์หลังการเลือกตั้งได้ว่าอาจมีเซอร์ไพรส์เกิดขึ้น แม้ไม่ถึงขั้นแลนด์สไลด์ แต่เมื่อประกาศผลออกมาคะแนนจะเอียงไปทางข้างหนึ่งอย่างชัดเจนจนทำให้พรรคเล็กที่พร้อมเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านหันมาสนับสนุนตั้งรัฐบาลได้ไม่ยาก ส่วนอีกฝ่ายที่ยังมีไพ่ในมือให้ตีหลังเลือกตั้งเมื่อทิ้งมาแล้วผลอาจไม่เป็นอย่างที่วาดภาพไว้ในหัว ยิ่งใกล้เลือกตั้งภารกิจอุ้ม “ลุง” กลับสู่อำนาจยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ

การเมืองหลังเลือกตั้งถือว่าน่าสนใจมาก

การจัดตั้งรัฐบาลที่ดูแล้วมีแนวโน้มว่าจะออกไปหลายหน้า แม้กระแสไม่เอา “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเริ่มดีกรีความแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนพรรคประชาธิปัตย์ต้องโหนกระแสนี้ด้วยการประกาศไม่สนับสนุน “ลุงตู่” เป็นนายกรัฐมนตรี

แต่การแทงกั๊กว่าพร้อมร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐหากไม่มี “ลุงตู่” เป็นนายกฯ ก็ทำให้ความโดดเด่นในฐานะที่เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ ความโดดเด่นที่พยายามสร้างภาพว่าเป็นพรรคที่ยืนข้างระบอบประชาธิปไตยลดน้อยลงไป เพราะใครก็รู้ว่าพรรคพลังประชารัฐตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายอะไร และองค์ประกอบในพรรคพลังประชารัฐนั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร

การตีไพ่แบบนี้ที่หวังว่าจะได้แต้มกลับอาจต้องเสียแต้ม เพราะจุดยืนไม่เอา “ลุงตู่” แต่พร้อมร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐไม่น่าจะถูกใจประชาชนสักเท่าไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประกาศชัดว่าไม่ร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยแต่ร่วมงานกับพรรคพลังประชารัฐได้นั้น ทำให้เกิดข้อสงสัยในท่าทีและเป้าหมายของพรรคประชาธิปัตย์พอสมควร

อย่างไรก็ตาม ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องการเป็น “ตาอยู่” คว้าเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไปนั่ง ทำให้ภารกิจอุ้ม “ลุงตู่” เป็นนายกฯรอบสองยากขึ้นเป็นทวีคูณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาความน่าจะเป็นของผลการเลือกตั้งที่จะออกมา

จากเดิมที่คาดว่ากติกาใหม่จะเอื้ออำนวยต่อพรรคเล็กพรรคน้อย ทำให้โควตา ส.ส. เป็นเบี้ยหัวแตกกระจายไปพรรคนั้นพรรคนี้

แต่อาจผิดจากที่คาดการณ์ก็เป็นได้

ทั้งนี้เพราะการแบ่งขั้วที่ฝังรากลึกในหมู่ประชาชน เมื่อผสมเข้ากับความผิดหวังในผลงานของรัฐบาลทหาร คสช. ความพยายามสร้างกระแสทิ้งลุงตู่หาพี่มาร์ค เหมือนไม่เลือกเราเขามาแน่คงเกิดขึ้นยาก

ดูแล้วพรรคประชาธิปัตย์จะได้คะแนนเสียงไม่มากไปกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาๆ และอาจน้อยกว่าเดิม เพราะมีพรรคลุงกำนันและพรรคอาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา ไปแชร์คะแนนเสียงในพื้นที่ภาคใต้ แม้จะมีพื้นที่ส้มหล่นจากการที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบไปหลายเขตก็ตาม

การเมืองวันนี้ต้องบอกว่าประชาชนจำนวนหนึ่งไม่ได้เลือกที่ตัวบุคคลและชื่อพรรคแล้ว แต่เลือกจากผลงานในอดีต ยิ่งเศรษฐกิจตกต่ำย่ำแย่ตลอดเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา ยิ่งทำให้คนนึกถึงพรรคการเมืองที่เคยบริหารประเทศแล้วทำให้เศรษฐกิจดี

เมื่อรวมเข้ากับเสียงของคนรุ่นใหม่ที่มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกกว่า 8 ล้านเสียง บางทีผลการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะมีเซอร์ไพรส์ คือคะแนนเทไปที่ข้างใดข้างหนึ่งแบบเห็นได้ชัด

แม้จะไม่มากเกินครึ่ง แต่น่าจะมากพอที่จะทำให้พรรคที่พร้อมเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้านตัดสินใจเข้าร่วมสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลได้ยาก

ส่วนไพ่ในมือที่เหลือให้เล่นอย่างยุบพรรค ตัดสิทธิกรรมการบริหาร หรือดำเนินคดีแกนนำบางพรรค เพื่อเปิดคอกให้ ส.ส. กรูกันออกมาแล้วไล่ต้อนมาอยู่ในคอกตัวเองอาจไม่ง่ายหากดูจากนักการเมืองที่ยังเลือกอยู่กับพรรคเดิมทั้งที่มีพลังดูดค่อนข้างแรงก่อนหน้านี้

ยิ่งใกล้วันประกาศผล ภารกิจอุ้ม “ลุงตู่” เป็นนายกฯยิ่งยากขึ้นทุกที


You must be logged in to post a comment Login