งมงายไสยศาสตร์

• Tweet
• 

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 13 มี.ค. 62)

เรื่องมนต์ขลังมนต์ดำอย่างกุมารทอง ขโมยศพเด็กเอาไปเสกเอาไปทำไสยศาสตร์ตามความเชื่อ ซึ่งกุมารทองก็คือเด็กที่ตายตั้งแต่เล็กๆแล้วเอามาทำพิธีตามความเชื่อ ส่วนเรื่องมนต์ขลังมนต์ดำจะช่วยคนได้หรือไม่ มันเป็นแค่ความเชื่อความงมงาย เป็นเรื่องอุปสงค์อุปทาน คนทำจะเชื่อไม่หรือคิดแต่จะทำเพื่อขายให้ได้เงิน มีฐานะร่ำรวย จึงขโมยซากศพทารกไป

ไม่น่าเชื่อว่าโลกที่เจริญไปถึงไหนแล้ว แต่ความเชื่อเรื่องไสยศาสตร์ยังมีอยู่ ความเชื่อความงมงายยังไม่หมดไปจากแผ่นดินไทย เรื่องแปลกๆต่างๆจึงโผล่ขึ้นมาเป็นครั้งคราว เพราะตราบใดที่คนยังยึดติดแน่นกับไสยศาสตร์ การปลุกเสกต่างๆก็ยังมีอยู่ เอาศพเด็กมาเสกเพราะหลงเชื่อ ก่อนหน้านี้ก็มีเณรแอที่เอากุมารทองมาสร้างความนิยม ความเชื่อ จนร่ำรวย แต่ในที่สุดก็ต้องหมดอนาคต มันเป็นเรื่องสวนกระแสความเจริญของโลกปัจจุบันที่วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก้าวหน้า แต่ไสยศาสตร์เป็นแค่ความเชื่อที่พิสูจน์ไม่ได้ คนไทยจำนวนไม่น้อยยังหลงเชื่อและหลงงมงายกับความลึกลับ ถึงกับมีคำพูดว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” จนคนที่ไม่เชื่อก็ไม่กล้าพูด ไม่กล้าต่อต้าน

เรื่องไสยศาสตร์มีมานานแล้ว บางประเทศก็เหมือนประเทศไทยที่ยังเชื่อ อย่างเขมรที่ขึ้นชื่อเรื่องนี้ เณรแอก็ไปบวชและเรียนไสยศาสตร์ที่เขมร ไม่เรียนพระไตรปิฎก ตอนนี้ออกจากคุกแล้ว และประกาศเลิกทำน้ำมันพรายจากศพเด็กแล้ว หันไปทำอาชีพดูดวงแทน

ไม่น่าเชื่อว่ากุมารทองเดี๋ยวนี้มีการซื้อขายกันแพงๆ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ จนกลายเป็นธุรกิจไสยศาสตร์ แม้จะเป็นแค่ความเชื่อก็ตาม คนซื้อก็ยอมถูกหลอก เรื่องไสยศาสตร์จึงยังไม่หมดไปจากโลก เพราะยังมีคนที่หมกมุ่นงมงายอยู่

ก็หวังว่าคนไทยที่นับถือพุทธศาสนาจะไม่เชื่อไม่หลงเรื่องไสยศาสตร์ ประเทศชาติจะได้เจริญก้าวหน้าด้วยเหตุด้วยผล ไม่ใช่งมงายหลงใหลกับไสยศาสตร์ กุมารทอง คนเอาศพเด็กมาทำก็ผิดกฎหมาย ต้องติดคุก ลูกเขาร่างเขามาแงะมางัดเอาไปก็ผิดทั้งกฎหมาย ทั้งศีลธรรม ผิดหลักธรรมทางศาสนาอย่างยิ่ง

เจริญพร

You must be logged in to post a comment Login