วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

ดาบสองหลัง24มีนาฯ

On March 11, 2019

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 11 มี.ค. 62)

การยุบพรรคไทยรักษาชาติได้ทำให้เกิดความรู้สึกร่วมของมวลชนว่าจะต้องออกไปเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดแลนด์สไลด์จนทำให้ 250 เสียงที่ตุนไว้ก่อนในมือทำอะไรไม่ได้ หรือทำได้ไม่ถนัด การเมืองหลังเลือกตั้งน่าสนใจมากว่าจะงัดอะไรมาสู้กันหากฝ่ายหนุน “ลุงตู่” แพ้เลือกตั้งหมดรูป อย่างไรก็ตาม ถ้าเหลือบมองคดีความที่รอการพิจารณาอยู่ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ ก็ทำให้มองเห็นว่ายังมีไพ่ในมืออีกหลายใบให้เลือกตีเพื่อพลิกเกม

ไปแอบประชุมกันตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าเมื่อวันที่ 9 มีนาคม รายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกว่าเหมาะสมเป็นสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 400 รายชื่อ ถูกส่งถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ขนาดชื่อกรรมการสรรหายังเปิดเผยไม่ได้ รู้แค่ว่ามี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ก็อย่าหวังว่าจะมีการเปิดเผยรายชื่อผู้เข้ารอบ 400 คน เพื่อให้สังคมร่วมกันตรวจสอบความเหมาะสม

แต่ที่แน่ๆตามข่าวที่มือกฎหมายอย่างนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนนั้น จะมีรายชื่อบุคคลที่เป็นเครือญาติของผู้สมัคร ส.ส. ร่วมอยู่ด้วย คงไม่ต้องบอกว่าพรรคการเมืองไหน

แต่ติดปัญหาตรงที่กฎหมายห้ามพ่อแม่หรือคู่สมรสของคนที่เป็น ส.ส. เป็น ส.ว. หมายความว่าถ้าคนที่ลงสมัคร ส.ส. ชนะเลือกตั้ง โควตานี้จะหลุดไปเป็นของคนอื่น แต่หากลงเลือกตั้งแล้วแพ้ก็จะมีเครือญาติได้เก้าอี้ ส.ว. เป็นรางวัลปลอบใจ

โอ้…เหมือนเป็นการตอบแทนที่มาลงสมัคร ส.ส. อย่างไรบอกไม่ถูก

ส่วนเครือญาติผู้สมัคร ส.ส. คนใดจะได้เก้าอี้ ส.ว. บ้างคงต้องรอดูหลังเลือกตั้ง เพราะการประกาศรายชื่อ ส.ว. จะเกิดขึ้นหลังการเลือกตั้ง ส.ส.

ข้ามมาที่เอฟเฟ็คจากการยุบพรรคไทยรักษาชาติที่หลายคนวิจารณ์ว่าเดินหมากผิด ทำให้แพ้ซ้ำซาก

แอบคิดไม่ได้ว่านี่อาจเป็นการจงใจเดินหมากให้ผลออกมาเป็นแบบนี้ เมื่อพิจารณาจากรายชื่อคณะกรรมการบริหารพรรคที่โดนตัดสิทธิทางการเมือง ซึ่งมีเพียงหัวหน้าพรรคอย่าง ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช เท่านั้นที่พอมีชื่อชั้นทางการเมือง ที่เหลือแม้จะพอมีชื่ออยู่บ้าง แต่บทบาทไม่เด่นชัด

ส่วนพวกบิ๊กเนมคนอื่นๆยังสามารถโลดแล่นบนถนนการเมืองได้ต่อไป และยังสามารถขึ้นเวทีหาเสียงได้ตามปรกติ แค่ไปยื่นใบสมัครเข้าพรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่งในเครือข่ายเดียวกัน

การที่พรรคไทยรักษาชาติถูกยุบน่าจะมีแผนรองรับเอาไว้ก่อนแล้ว เป็นการเดินหมากเสี่ยงแบบได้ก็เอา ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร

แต่ที่ได้แน่ๆคือความรู้สึกร่วมของมวลชนที่สนับสนุนที่ขณะนี้เกิดอุปาทานหมู่ว่าจะต้องออกไปเลือกตั้ง และลงคะแนนให้พรรคที่อยู่ฝ่ายเดียวกัน จากเดิมที่ 100 คน อาจออกไปใช้สิทธิ 60-70 คน แต่เมื่อเกิดความรู้สึกร่วมแบบนี้จะทำให้แห่กันออกไปใช้สิทธิมากขึ้น

ประเด็นอยู่ที่ว่าจากนี้ไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนเลือกตั้ง จะประคองความรู้สึกร่วมของคนเหล่านี้ให้ดำรงอยู่ได้หรือไม่ ยิ่งหากปั่นให้ความรู้สึกร่วมนี้พีคขึ้นไปได้อีกในช่วงก่อนเลือกตั้งก็จะเป็นไปตามเป้าคือแลนด์สไลด์ ไม่ใช่แค่ชนะ แต่มัดรวมกันหลายพรรคแล้วชนะอย่างถล่มทลาย ชนิดต่อให้มี ส.ว. 250 เสียงตุนอยู่ในมือก็ทำอะไรไม่ได้

การเมืองหลังเลือกตั้งน่าสนใจมากว่าจะงัดอะไรมาสู้กันหากฝ่ายหนุน “ลุงตู่” แพ้เลือกตั้งหมดรูป

อย่างไรก็ตาม ถ้าเหลือบมองคดีความที่รอการพิจารณาอยู่ทั้งในส่วนของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่ ก็ทำให้มองเห็นว่ายังมีไพ่ในมืออีกหลายใบให้เลือกตีเพื่อพลิกเกมหากแพ้เลือกตั้ง

 

 


You must be logged in to post a comment Login