วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

กรมการค้าภายในดันเที่ยวตลาดประชารัฐ หนุนความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานราก

On March 11, 2019

z1
กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำคณะสื่อมวลชน ร่วมสัมผัส มนต์เสน่ห์ตลาดประชารัฐต้องชม ยลถิ่นแดนใต้ เส้นทางพัทลุง – สงขลา หวังกระตุ้นการท่องเที่ยวตลาดประชารัฐต้องชม สร้างรายได้ให้ท้องถิ่น

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมการค้าภายในเดินหน้าผลักดันการพัฒนาตลาดชุมชนอย่างต่อเนื่อง ผ่านโครงการ “ตลาดประชารัฐต้องชม” ภายใต้แนวคิด “เอกลักษณ์พาณิชย์
อัตลักษณ์ของชุมชน” ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2559 ปัจจุบันกรมส่งเสริมเป็นตลาดประชารัฐต้องชมแล้ว จำนวน 2129 แห่ง ทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้ผู้ประกอบการจำนวน 32,245 แผงราย ทั่วประเทศ โดยปี 2561 ตลาดประชารัฐต้องชมมีมูลค่าการซื้อขาย กระจายรายได้สู่ชุมชนกว่า 1,276 ล้านบาท นอกจากนี้กรมฯ ได้ขยายผลและยกระดับตลาดประชารัฐต้องชมโดยเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว เพื่อให้คนทุกเพศทุกวัย ทั้งไทยและต่างชาติ ได้สัมผัสถึงเสน่ห์และอัตลักษณ์ของแต่ละท้องถิ่นที่น่าสนใจ ภายใต้แนวคิด “ตลาดเที่ยวได้…สไตล์ไทยๆ” เมืองไทยมีดี วิถีชุมชน เพื่อกระตุ้นระบบเศรษฐกิจจากการบริโภคภายในประเทศ พัฒนาเศรษฐกิจฐานแรกรากและชุมชนให้มีความเข้มแข็งในระยะยาว รวมทั้งสร้างช่องทางการจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน และเพิ่มขีดความสามารถให้กับชุมชนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้นz2

z3

z4
สำหรับครั้งนี้ กรมการค้าภายในได้นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมตลาดประชารัฐต้องชม ซึ่งได้สร้างความประทับใจในการได้สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน และสินค้าท้องถิ่น ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้าน ซึ่งแต่ละตลาดล้วนแล้วแต่มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ทั้งนี้ ตลาดประชารัฐต้องชมในจังหวัดพัทลุงและสงขลาล้วนแล้วแต่เป็นตลาดคุณภาพระดับเกรด A ซึ่งเป็นตลาดที่มีความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่ โครงสร้างตลาดและทัศนียภาพ ความสะอาด การมีส่วนร่วมของชุมชน มีกิจกรรมของตลาดที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตในท้องถิ่น โดยในทั้ง 2 จังหวัด มีตลาดประชารัฐต้องชม จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ หลาดใต้โหนด ตลาดป่าไผ่สร้างสุข ตลาดกรีนมุ้งมิ้ง และตลาดนัดต้นไม้ชายคลอง จังหวัดพัทลุง และตลาดริมน้ำคลองแดน ตลาดน้ำคลองแห ตลาดเกษตร มอ. และหลาดสยาม จังหวัดสงขลา สำหรับการเดินทางครั้งนี้ กรมการค้าภายในนำสื่อมวลชนสำรวจเยี่ยมชมตลาดประชารัฐต้องชม เกรด A (เอ) ซึ่งเป็นตลาดที่มีความพร้อมในทุกด้าน ได้แก่ โครงสร้าง ทัศนียภาพ ความสะอาด การมีส่วนร่วมของชุมชน มีกิจกรรมของตลาดซึ่งที่แสดงออกถึงศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตในท้องถิ่น รวมทั้งมีกิจกรรมเชื่อมโยงการท่องเที่ยว ในพื้นที่จังหวัดพัทลุงและสงขลา จำนวน 8 แห่ง ได้แก่ หลาดใต้โหนด ตลาดป่าไผ่สร้างสุข ตลาดกรีนมุ้งมิ้ง และตลาดนัดต้นไม้ชายคลอง จังหวัดพัทลุง และ ตลาดริมน้ำคลองแดน ตลาดน้ำคลองแห ตลาดเกษตร มอ. และหลาดสยาม จังหวัดสงขลา Z10
ตลาดประชารัฐต้องชมเหล่านี้ล้วนมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน เช่น ตลาดริมน้ำคลองแดนในอดีตเป็นศูนย์กลางทางการค้าขายทางน้ำที่ยิ่งใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ 3 คลอง 2 จังหวัด และที่มีรุ่งเรืองมาก แต่เมื่อมีถนนตัดผ่านรูปแบบการค้าและการขนส่งจึงเปลี่ยนแปลงไป เจ้าอาวาส และคนในชุมชนจึงได้ฟื้นฟู จุดเด่นดั้งเดิมให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในนาม “ชุมชนวิถีพุทธคลองแดน” โดยภายในตลาดมีห้องแถวเก่าเรียงรายริมแม่น้ำ มีสะพานไม้เชื่อมสองฝั่งคลอง และมีสินค้าอาหารมากมาย ตลาดน้ำคลองแห ซึ่งเป็นตลาดน้ำเชิงวัฒนธรรมแห่งแรกของภาคใต้ ตั้งอยู่ริมฝั่งคลองตรงข้ามกับ
วัดคลองแห ภายในตลาดผสมผสานระหว่างตลาดน้ำที่จำหน่ายสินค้าในเรือและตลาดโบราณที่จำหน่ายสินค้า
บนบก เป็นตลาดที่นำเอาอาหารพื้นเมือง สินค้าที่ผลิตในท้องถิ่น และผลิตผลทางการเกษตรมาจำหน่าย โดยมีชาวบ้านภายในท้องถิ่นเป็นผู้จำหน่ายและให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มเสน่ห์กลิ่นอาย เสน่ห์กลิ่นอายโบราณด้วยการแต่งกายชุดไทยพื้นบ้านและภาชนะธรรมชาติ อาทิ ภาชนะใส่อาหารจำพวก กะลา กระบอกไม้ไผ่ หม้อดินเผา ที่ไม่เป็นพิษเป็นมิตรต่อ สิ่งแวดล้อม
หลาดใต้โหนด ตลาดนัดพื้นบ้านสีเขียวสุดเก๋ไก๋ให้ชาวบ้านนำสินค้าปลอดสารพิษ อาหารพื้นเมือง ที่มีความสดสะอาด และสินค้าแฮนด์เมคมาจำหน่ายภายใต้คอนเซ็ปต์ “กินดี มีสุข“ สอดคล้องกับวิถีชีวิตภูมินิเวศน์ ป่า นา เล ของชาวใต้ ตลาดกรีนมุ้งมิ้ง ตลาดชุมชนในพื้นที่ร้านค้าแบบไทย โดยทีมงานเครือข่ายกินดี มีสุข พัทลุง ร่วมกับร้านค้าแบบไทยที่พร้อมเปิดพื้นที่ อาคารแบบไทยและอำนวยความสะดวก โดยมีเจตนาเป็นการให้เพื่อเป็นการคืนกำไรสู่สังคมและร่วมกับชุมชนเพื่อกำหนดทิศทางพัฒนาตลาด โดยเน้นสุขภาพ ธรรมชาติ และการอนุรักษ์วิถีไทย พร้อมกันนี้ยังร่วมกันอนุรักษ์ขนมพื้นบ้าน อาหารพื้นเมือง เอกลักษณ์ถิ่นปักษ์ใต้ และรณรงค์การปรุงอาหารปลอดผงชูรส และหลีกเลี่ยงการรับประทานสัตว์ใหญ่ และจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ซึ่งชุมชนเป็นผู้ผลิต มีพืชผัก ผลไม้พื้นบ้าน งานทำมือ หัตถกรรมประยุกต์ร่วมสมัย เป็นต้นz5

z6

Z8

z9

Z10

อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่าส่วน หลักเกณฑ์การพิจารณาเป็น “ตลาดประชารัฐต้องชม” ประกอบด้วย ใน 5 องค์ประกอบ คือ
1.) สถานที่ โดยพิจารณาถึงทำเล ที่ตั้ง ต้องความสะอาด สาธารณูปโภคพื้นฐาน ถูกสุขาภิบาลตลาด 2.) สินค้า เป็นสินค้าพิ้นถิ่น มีความหลากหลาย และเป็นผลผลิตจากคนในชุมชน 3) . การประกอบการค้า มีความเป็นธรรมทางการค้า 4.) ความพร้อมของตลาด การให้ความร่วมมือกับภาครัฐ และ 5) .ลักษณะเฉพาะที่เป็นจุดเด่นของตลาดทั้งด้านวัฒนธรรม การท่องเที่ยวหรือกิจกรรมสนับสนุนวัฒนธรมท้องถิ่น รวมทั้งซึ่งกรมฯ ได้มีการจัดเกรดตลาดประชารัฐต้องชม เพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาแต่ละตลาดแตกต่างกัน ตามการจัดแบ่งกลุ่มตลาดออกเป็น 3 เกรด คือ เกรด A เกรด B และเกรด C ตามสภาพแวดล้อม สิ่งอำนวยความสะดวก และความพร้อมของตลาดและความต้องการของตลาด โดยได้พร้อมกับกำหนดกรอบแนวทางในการพัฒนาตลาดแต่ละเกรดไว้ด้วยแล้ว
อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 2562 กรมฯ มีแผนส่งเสริมจัดตั้งตลาดประชารัฐต้องชมแห่งใหม่ จำนวน 10 แห่ง พร้อมจัดกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์ต่างๆ อาทิ กิจกรรมกระตุ้นและเชื่อมโยงการซื้อขายสินค้าชุมชน การประชาสัมพันธ์ตลาด วิถีชีวิต ตลอดจนศิลปวัฒนธรรมของชุมชนในตลาดต้องชมให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การจัดงานตลาดนัดประชารัฐต้องชม EXPO การประชาสัมพันธ์ตลาดประชารัฐต้องผ่านช่องทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆ นอกจากนี้ได้การส่งเสริม ปรับปรุง และพัฒนาตลาด การจัดกิจกรรมเสริมสร้างศักยภาพการเป็นตลาดท่องเที่ยว การจัดกิจกรรมเส้นทางท่องเที่ยวตลาด การจัดกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาองค์ความรู้และศักยภาพผู้ประกอบการในตลาด และการประชาสัมพันธ์ตลาดประชารัฐต้องผ่านช่องทางสื่อออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆ โดยการจัดอบรมให้แก่ผู้ประกอบการ และผู้ค้าในตลาดในด้านต่างๆ เพื่อสร้างความแตกต่างและตอบสนองความต้องการของตลาดในยุคปัจจุบัน แต่ยังความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชนไว้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
กรมฯ ตั้งใจดำเนินโครงการนี้ โดยมุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวได้มีสถานที่ท่องเที่ยวที่จะได้สัมผัสวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของคนในชุมชน ได้ชมสินค้าของดีของเด่นของจังหวัด ได้ชิมอาหารพื้นถิ่นที่บางรายการหาทานได้ยาก และได้อิ่มกับศิลปวัฒนธรรมผ่านการแสดงของเยาวชนในชุมชน จึงขอเรียนเชิญทุกท่านเข้ามาเที่ยวเที่ยวชมตลาด และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีรายได้ และสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชน


You must be logged in to post a comment Login