วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ก.ล.ต.ใช้เทคโนโลยีวางรากฐานตลาดทุนไทย

On February 21, 2019

นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา ก.ล.ต. ดำเนินการตามเป้าหมายที่วางไว้ ทั้งในด้านการเปิดให้คนไทยเข้าถึงบริการคำแนะนำการลงทุนที่มีคุณภาพอย่างครบวงจร โดยเปิดตัวโครงการ “5 ขั้นมั่นใจลงทุน” เพื่อตอบโจทย์ของการดูแลผู้ลงทุนโครงการ “บริษัทเกษียณสุข” ร่วมกับหน่วยงานพันธมิตร ส่งเสริมลูกจ้างให้มีเงินใช้หลังเกษียณอย่างเพียงพอผ่านกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ การออกกฎหมายกำกับดูแลธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำของธุรกิจและคุ้มครองผู้ลงทุน พร้อมส่งเสริมการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืนโดยสร้างกลไกเชื่อมโยงการกำกับดูแลกับธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อดูแลความมั่นคง และป้องกันความเสี่ยงของทั้งระบบ และจัดทำความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อลดความซ้ำซ้อน อำนวยความสะดวกแก่ภาคเอกชน

ก.ล.ต. ได้ยกระดับมาตรฐานกำกับดูแลในหลายด้าน อาทิ การออกและเสนอขายตราสารหนี้ การสื่อสารความคาดหวังกับผู้ประกอบธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อสนับสนุนการให้บริการที่ได้มาตรฐานและคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้า (putting investors first) ส่งผลให้กระบวนการขายผลิตภัณฑ์ในตลาดทุนมีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้น รวมทั้งริเริ่มให้ข้อมูลตลาดทุนอยู่ในรูปแบบ machine readable และ open API เพื่อให้มีผู้นำไปวิเคราะห์และสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริการแก่ผู้ลงทุน ควบคู่กับการส่งเสริมรูปแบบการทำธุรกิจแบบ open architecture เพื่อคัดเลือกผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ตอบโจทย์สูงสุดสำหรับผู้ลงทุน

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมเข้ารับการประเมินประสิทธิภาพการกำกับดูแลตลาดทุนเทียบกับมาตรฐานสากลในโครงการ Financial Sector Assessment Program (FSAP) ทำให้มีการปรับปรุงและยกระดับตามมาตรฐานสากลในทางปฏิบัติเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ คาดว่าจะมีการเผยแพร่ผลการประเมินอย่างเป็นทางการในกลางปี 2562 ซึ่งจะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับแผนยุทธศาสตร์ 3 ปีถัดจากนี้ ก.ล.ต. จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้คนไทยในวงกว้างเข้าถึงคำแนะนำการวางแผนทางการเงินที่มีคุณภาพเพื่อสร้างอิสรภาพทางการเงินในระยะยาว เพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการระดมทุนและสร้างโอกาสให้แก่ภาคธุรกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขันและยกระดับโครงสร้างพื้นฐานตลาดทุนรองรับยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ

นอกจากนี้ ในการกำกับดูแลรองรับโลกอนาคต ก.ล.ต. จะเป็นผู้กำกับดูแลที่ปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และปรับปรุงประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และจัดการกับความเสี่ยงที่อาจเกิดกับผู้ลงทุนและระบบการเงินได้อย่างทันท่วงที โดยให้ความสำคัญกับการวางรากฐานองค์กรที่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงานของบุคลากร ก.ล.ต. และเน้นการวิเคราะห์และใช้เครื่องมือการกำกับดูแลที่หลากหลายที่ทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาการออกกฎเกณฑ์เพียงอย่างเดียว


You must be logged in to post a comment Login