หนักแผ่นดิน!

• Tweet
• 

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19 ก.พ. 62)

การเมืองร้อนฉ่าหลังฝ่ายคุมอำนาจรัฐทั้งผู้นำรัฐบาล ผู้นำกองทัพ หลุดแอ๊บวางตัวเป็นกลางทางการเมืองตอบโต้พรรคการเมืองที่เสนอนโยบายลดงบประมาณกองทัพ ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ด้วยคำว่า “หนักแผ่นดิน” แม้กรณีนี้เหมือนเป็นการเผชิญหน้าระหว่างพรรคการเมืองขั้วหนึ่งกับฝ่ายคุมอำนาจ แต่จะกระทบไปถึงพรรคการเมืองอีกขั้วหนึ่งที่ถูกมองว่าสนับสนุนกลุ่มอำนาจปัจจุบัน หาเสียงกันมาแทบตาย เสนอนโยบายออกมาเยอะแยะมากมาย แต่นโยบายเกี่ยวกับกองทัพจะกลายเป็นนโยบายชี้ขาดต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรื่องนี้ถูกปั่นให้ร้อนไกลเกินกว่าคำว่า “หนักแผ่นดิน”

“หนักแผ่นดิน หนักแผ่นดิน คนเช่นนี้เป็นคนหนักแผ่นดิน”

ท่อนฮุคเพลงย้อนยุคที่แต่งขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ. 2518 ถูกนำมากล่าวถึงอีกครั้งเพื่อใช้ตอบโต้กันทางการเมือง

แรกเริ่มเดิมทีเพลงนี้ถูกนำมากล่าวถึงเพื่อใช้ต่อต้าน สกัดกั้นความแรงของพรรคอนาคตใหม่ที่นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่นำเสนอนโยบายต่างๆในลักษณะก้าวหน้า จนทำให้รุ่นใหญ่หลายคนไม่พอใจและออกมาเคลื่อนไหวต่อต้าน

การใช้เพลงหนักแผ่นดินมาประกอบการแสดงความเห็นทางการเมืองยิ่งน่าสนใจขึ้นไปอีกเมื่อผู้มีอำนาจหลักในประเทศยกขึ้นมาพูดด้วย เมื่อถูกผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยและอีกหลายพรรคที่เสนอยกเลิกเกณฑ์ทหารและตัดลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมลง 10%

“เพลงอะไรที่กำลังฮิตตอนนี้ ก็เพลงหนักแผ่นดินไง…ก็ให้ไปฟังเพลงหนักแผ่นดินไง”

เป็นคำกล่าวของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) และเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับกรณีที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งและหนึ่งในแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พูดบนเวทีปราศรัยว่าจะตัดงบกระทรวงกลาโหม 10% และยกเลิกการเกณฑ์ทหาร

ไม่ต่างจากท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ที่พูดทำนองว่า

“อย่าหาเสียงเอาแค่สนุกปาก ต้องรับผิดชอบด้วย งบกลาโหม ทหาร และยุทโธปกรณ์ จำเป็นต้องมีเป็นศักย์สงคราม วันนี้มาพูดจาเอาดีเอาเด่น เราต้องทำให้ประเทศปลอดภัย สงบเรียบร้อย คนบางคนเคยทำความเสียหายให้ประเทศเยอะมาก แต่ก็ยังไปฟังเขา”

เช่นเดียวกับท่าทีของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ไม่ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนมาพักใหญ่ก็ยังอดไม่ได้ที่จะพูดถึงประเด็นร้อนในเรื่องนี้ โดยระบุว่า

“ให้ไปฟังเพลงที่ ผบ.ทบ. บอก เพลงหนักแผ่นดิน”

ถ้าประเมินจากฝ่ายคุมอำนาจจะเห็นว่านโยบายยกเลิกการเกณฑ์ทหารและปรับลดงบประมาณกระทรวงกลาโหมกลายเป็นประเด็นร้อนฉ่าทางการเมือง ถึงขนาดหลุดจากการสงวนท่าทีที่ต้องเป็นกลางทางการเมือง

ขณะที่ฝ่ายพรรคการเมืองที่นำเสนอนโยบายนี้ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ยอมลดราวาศอก หลายคนออกมาแสดงจุดยืนต่อนโยบายดังกล่าว แถมบางคนไปไกลถึงกับเสนอให้ลดขนาดกองทัพ ลดจำนวนนายพลที่มีมากเกินความจำเป็น และกองทัพต้องไม่อยู่เหนือรัฐบาลพลเรือน

ดูเหมือนว่าแนวรบทางการเมืองจะย้ายจากการเผชิญหน้าระหว่างพรรคการเมืองที่ชิงคะแนนเสียงเลือกตั้งจากประชาชนมาเป็นระหว่างพรรคการเมืองขั้วหนึ่งกับกลุ่มที่ถือครองอำนาจรัฐอยู่ในปัจจุบัน

แน่นอนว่าแม้พรรคการเมืองอีกขั้วหนึ่งจะสงวนท่าทีต่อนโยบายเกี่ยวกับกองทัพ แต่ย่อมหนีไม่พ้นที่จะได้รับผลกระทบจากประเด็นร้อนเรื่องนี้ เพราะการนิ่งเงียบจะทำให้ถูกมองว่ามีจุดยืนเดียวกับกลุ่มอำนาจในปัจจุบัน

หาเสียงกันมาแทบตาย เสนอนโยบายออกมาเยอะแยะมากมาย แต่นโยบายเกี่ยวกับกองทัพจะกลายเป็นนโยบายชี้ขาดต่อคะแนนเสียงเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเรื่องนี้ถูกปั่นให้ร้อนไกลเกินกว่าคำว่า “หนักแผ่นดิน”

You must be logged in to post a comment Login