วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

วันมาฆบูชา

On February 19, 2019

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 19 ก.พ. 62)

วันมาฆบูชาถือเป็นวันที่สำคัญมากทางพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ประทานโอวาทเป็นหลักที่จำกันง่ายๆว่า “ละชั่ว ทำความดี” แล้วทำจิตให้ขาว

พระพุทธเจ้าสอนให้ละชั่วก่อน เพราะความชั่วต้องกำจัดก่อนที่จะทำความดี โดยเริ่มต้นด้วยการไม่ทำบาปทั้งปวง ละความชั่วที่เราเรียกว่าสลัดความชั่ว สลัดให้บาปและความชั่วออกจากตัว ออกจากใจ ถ้าใครไม่สลัดก่อน จะไปทำดี ทำบุญ ทำอะไรเท่าไรก็ไม่เกิดผล เพราะความชั่วยังไม่ออกจากตัวจากใจ

เหมือนคนใส่บาตรเสร็จกินเหล้า ใส่บาตรเสร็จเล่นไพ่ ใส่บาตรเสร็จเล่นหวย วนเวียนอยู่อย่างนี้ ก็ไม่สามารถลดละความชั่วต่างๆได้ เพราะไม่มีสติปัญญาที่จะประคองตัวให้อยู่ในความดีได้ มัวแต่หลงระเริงอยู่กับความชั่ว

ท่านจึงให้สลัดบาปออกจากตัว สลัดความชั่วออกจากใจให้ได้ก่อน แล้วก็ไปทำบุญ ทำความดีต่างๆต่อ หลวงพ่อชาท่านจับประเด็นดีมาก เคยพูดถึงเรื่องนี้ว่า โยมจากกรุงเทพฯไปทำบุญที่วัดท่านเยอะแยะ ท่านก็บอกโยมให้ละบาปดีกว่าทำบุญ ถ้าเป็นวัดอื่นใครมาทำบุญก็คงไม่พูดอย่างนี้

ที่จริงท่านเตือนสติว่า ถ้ายังทำบาปก็ไม่ได้บุญ ถ้าเริ่มข้อที่ 1 ไม่ถูกจะกระโดดไปข้อที่ 2 ที่ 3 ก็จะผิดเพี้ยนไปหมด ท่านชาญฉลาดแตกฉานเด่นชัดในหลักธรรมคำสอน หากพระในเมืองไทยคิดได้อย่างนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยม เตือนคนให้ละบาปสลัดบาปออกจากตัวก่อน สลัดชั่วออกจากใจได้ ตัวเองและครอบครัว รวมถึงประเทศก็จะมีความสุขที่สุด ไม่มีข่าวโกงแหลก ฆ่ากันตายทุกวัน ยาเสพติดและอบายมุขที่ชั่วร้ายก็คงไม่เกิด

จะทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า สร้างโน่นสร้างนี่ แต่บาปไม่ละก็ไม่มีประโยชน์ หลวงพ่อชาจึงบอกว่าละบาปดีกว่าทำบุญ เหมือนคนแต่งตัวไม่อาบน้ำ เหนียวเนื้อเหนียวตัว เพราะความชั่วยังไม่ออกจากตัวจากใจ ส่วนคนละบาปก็เหมือนอาบน้ำแล้วสบายตัว แต่งตัวก็สวยก็สบาย ท่านจึงให้ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ อย่ามีอะไรแอบแฝง

เหมือนเล่นการเมืองก็เล่นกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบใส่ร้ายป้ายสีกัน ชนะกันแบบบริสุทธิ์ ไม่ใช่ชนะแบบสกปรก เล่นการเมืองสกปรก ยิ่งเป็นพระก็ยิ่งต้องไม่มีเรื่องสกปรกให้เป็นข่าว คลิปทำชั่วอะไรต่างๆทำหมด บาปก็ไม่ละ บุญก็ไม่ทำ กรรมก็ก่อ จิตก็มัวหมองวุ่นวาย

วันมาฆบูชาที่พระสงฆ์เดินทางมาพบพระพุทธเจ้าเป็นพันองค์โดยไม่ได้นัดหมายกันอาจเรียกว่าเป็นวันวาเลนไทน์ของพระพุทธศาสนาก็ได้ แต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ให้ดอกกุหลาบ ไม่ได้ให้ของขวัญอะไรทั้งนั้น บอกแต่หัวใจของพระพุทธศาสนา ให้ละบาป ทำดี ทำจิตให้บริสุทธิ์ ไม่หลงบุญติดบุญ ไม่อวดบุญ ไม่ใช่ทำบุญแล้วฆ่าวัวฆ่าควายอย่างงานบวชลูกหลาน ผลาญชีวิตผู้อื่น กินเหล้าเมายา อย่างนี้งานบวชก็ไม่บริสุทธิ์

เมื่อมาถึงวันสำคัญทางพุทธศาสนาก็ขอให้เอา 3 ข้อที่พระพุทธเจ้ามอบให้แทนความรัก โดยเดินตามหลักธรรมคำสอน ซึ่งมีค่าเหนือกุหลาบหลายล้านเท่า เราก็จะชื่นใจไปตลอดชีวิตตลอดชาติ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login