วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

“เพื่อชาติ”ยก8เหตุผลที่ไม่ควรเลือก”ประยุทธ์”เป็นนายกฯต่อ

On February 11, 2019

น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เหตุผลที่ประชาชนไทยไม่ควรเลือก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นนายกฯอีกครั้งมี 8 ข้อคือ

1.พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้นำเผด็จการที่ใช้วิธีการจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน ห้ามแม้กระทั่งการคุยกัน 5 คน การชู 3 นิ้ว การกินแฮมเบอร์เกอร์ก็ไม่สามารถทำได้ ถ้าผู้ใดขัดขืนจะถูกทหารควบคุมตัวและส่งฟ้องศาลทหารข้อหาขัดคำสั่ง คสช. จะเห็นว่าเวลาผ่านไปเกือบ 5 ปี แต่พอมีประเด็นกระตุ้นที่คู่ขัดแย้งคิดว่าฝ่ายตนเองจะเพลี่ยงพล้ำก็ออกมาแสดงถ้อยคำรุนแรงว่าร้ายอีกฝ่ายทันทีโดยไม่ฟังข้อเท็จจริงและแยกแยะความถูกต้อง แสดงว่าสิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ทำไม่ได้ลดทอนความขัดแย้งในสังคมเลย วิธีการของ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาความขัดแย้ง เป็นการซุกปัญหาไว้ใต้พรม การแก้ปัญหาความขัดแย้งต้องใช้การเจรจาพูดคุยให้ตกผลึกแบบนโยบายทลายกำแพงใจของพรรคเพื่อชาติที่ทุกคนต่างแสดงความคิดเห็นจนยอมรับข้อดีของคู่ขัดแย้งและข้อผิดพลาดของตนเองจนความขัดแย้งหมดไป ซึ่งเป็นวิธีการสากลที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถขจัดความขัดแย้งได้

2.บุคลิกภาพและลักษณะนิสัย พล.อ.ประยุทธ์จากการชี้หน้าผู้สื่อข่าว ขว้างเปลือกกล้วยใส่ศีรษะผู้สื่อข่าว กล่าวถึงเหยื่อชาวต่างชาติที่ถูกข่มขืนเสียชีวิตว่าเป็นเพราะการแต่งตัวของเหยื่อ การออกกฎการแต่งกายของสตรีในเทศกาลสงกรานต์ จะเห็นได้ว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนก้าวร้าว เหยียดเพศ ดูถูกสตรี มีความเป็นเผด็จการสู งไม่รับฟังความเห็นคนคิดต่าง ดูถูกคนคิดต่าง และเป็นผู้ที่ระงับอารมณ์ตนเองไม่ได้ ไม่เหมาะสมอย่างยิ่งในการเป็นผู้นำประเทศ

3.พล.อ.ประยุทธ์กล้าตัดสินใจในเรื่องที่คนอื่นไม่กล้าทำเพราะมีกฎหมายนิรโทษกรรมตัวเองทั้งอดีต ปัจจุบัน อนาคต ซึ่งคนที่มีจริยธรรมและมีความละอายจะไม่กล้าเขียนกฎหมายเช่นนี้ไว้ปกป้องการกระทำของตนเอง

4.ผลงานตลอด 4 ปีที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีทำดัชนีชี้วัดประเทศร่วงลงทุกด้าน ทั้งความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ความโปร่งใสทางกระบวนการยุติธรรม ความเป็นประชาธิปไตย คุณภาพการศึกษา คุณภาพอากาศของประเทศ

5.พล.อ.ประยุทธ์ตัองการสืบทอดและเสพติดอำนาจ ทั้งที่การบริหารประเทศที่ผ่านมาทำให้ประชาชนฐานรากทั้งประเทศลำบากยากแค้นแสนสาหัส ถ้า พล.อ.ประยุทธ์เห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติจริง เมื่อบริหารประเทศมา 4 ปี ประชาชนส่วนใหญ่มีรายได้ไม่เพียงพอเลี้ยงชีพ คนจนเพิ่มขึ้น 963,000 คน ถ้าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยบริหารงานผิดพลาดจนเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขนาดนี้โดนตรวจสอบไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว แต่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์จำกัดเสรีภาพสื่อมวลชนและประชาชน ทำให้ประชาชนทั้งประเทศรับรู้ความยากลำบากแต่ไม่รู้สาเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ต้องพิจารณาว่าการที่แก้ปัญหาให้ประชาชนไม่สำเร็จควรจะวางมือให้โอกาสผู้อื่น ไม่ใช่สร้างกฏกติกาในรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองได้เปรียบคู่แข่งอื่น เพื่อสืบทอดอำนาจโดยผ่านการเลือกตั้งเช่นนี้

6.พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกรัฐมนตรีที่ประชาชนพึ่งพาไม่ได้ ไม่มีวิสัยทัศน์คิดแก้ไขปัญหา ไม่รับฟังปัญหาจากประชาชน อย่างกรณีที่ไปเดินตลาดเพื่อหาเสียง ถ้ามีพ่อค้าแม่ค้าบอกว่า “ขายของไม่ได้” พล.อ.ประยุทธ์จะโต้กลับทันทีว่า “เป็นเรื่องของผมเหรอ” เป็นคำตอบที่ปัดปัญหาให้พ้นตัว แล้วก็บอกให้ไปขายออนไลน์ กระทั่งแม่ค้าข้าวแกงก็ได้รับคำตอบเช่นนี้ ซึ่งเป็นคำตอบที่แสดงว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่เข้าใจการตลาดดิจิทัลและการตลาดพื้นฐานเรื่องกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดเลย การไม่มีความสามารถในการหารายได้ทำให้บริหารงานผิดพลาดจนเกิดวิกฤตเศรษกิจ คสช.

7.พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ที่คับแคบ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ดังเห็นได้จากยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่ทำไว้เพื่อกีดกันรัฐบาลใดๆที่เข้ามาใหม่เพื่อให้ทำตามความต้องการของ คสช. และคณะ ตนและคนรุ่นใหม่ขอเลือกกำหนดแนวทางในการพัฒนาประเทศเอง เพราะผู้ที่กำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีบางคนอาจจะมีชีวิตอยู่ไม่ถึง 20 ปี ตนขอร้องอย่าสร้างบาปให้ลูกหลานไทยด้วยการถ่วงรั้งความเจริญเพื่อเห็นแก่ความต้องการอยู่ในอำนาจของตนเอง

8.การที่ พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศได้สร้างค่านิยมเผด็จการปลูกฝังให้สังคมไทยคือ ไม่สามารถฟังความคิดเห็นที่แตกต่างได้ ทำให้ก้าวร้าวและระงับอารมณ์ไม่ได้เมื่อได้ยินคำถามที่แสดงความคิดเห็นแตกต่าง ค่านิยมในการไม่รักษาคำพูด อย่างเช่นการรับปากว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้งที่เลื่อนมาถึง 5 ครั้ง รวมทั้งการประดิษฐ์วาทกรรมว่า “ขอเวลาอีกไม่นาน” ซึ่งใช้เวลามาเกือบ 5 ปี ยังไม่ต้องการให้มีการเลือกตั้ง ค่านิยมเห็นแก่ตน และไม่มีน้ำใจนักกีฬา สร้างกฏกติกาที่เอาเปรียบเพื่อสืบทอดอำนาจเสร็จก่อนจึงจัดให้มีการเลือกตั้งแบบไม่เต็มใจนัก


You must be logged in to post a comment Login