วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

หยุดผลาญภาษีประชาชน

On January 23, 2019

คอลัมน์ : ฉุก(ละหุก)คิด

ผู้เขียน : นายหัวดี

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 23 ม.ค. 62)

แม้วันเลือกตั้งยังไม่ประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ทุกพรรคการเมืองก็ชูนโยบายสวยหรู เพ้อเจ้อ เพ้อฝัน ไม่ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ แต่ที่น่าสนใจคือ ฝ่ายที่ต่อต้านรัฐประหารและต่อต้าน “ลุงฉุน” สืบทอดอำนาจ ต่างต้องการแก้รัฐธรรมนูญและไม่เอา “ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี” รวมถึงการ “ปฏิรูปกองทัพ” เพื่อให้ “วงจรอุบาทว์” สิ้นซาก

“จาตุรนต์ ฉายแสง” พรรคไทยรักษาชาติ โพสต์เฟซบุ๊ค Chaturon Chaisang เสนอ “เปลี่ยนนโยบายการคลังและงบประมาณ” หลังมีข่าวกองทัพกำลังจะซื้อรถถังจากจีนอีก 14 คัน เป็นเงิน 2,300 ล้านบาท รวมทั้งหมด 5 ปีหลังรัฐประหาร กองทัพไทยซื้ออาวุธจากจีนไปแล้วทั้งสิ้นเกือบ 50,000 ล้านบาท ไม่รวมเรือดำน้ำอีก 2 ลำ ที่ใช้งบปี 2562 ประมาณ 27,000 ล้านบาท

ขณะที่เศรษฐกิจประเทศกำลังตกต่ำ ประชาชนทุกระดับรู้สึกถึงความเดือดร้อนทั่วกันหมด ที่สำคัญในรอบหลายปีที่ผ่านมางบประมาณรายจ่ายเพิ่มขึ้นเร็วกว่ารายได้ ขาดดุลเพิ่มสูงขึ้น และยังใช้วิธีอนุมัติงบประมาณที่มีผลผูกพันไปในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้าถึง 1,178,275 ล้านบาท ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม. เพิ่งเห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายของปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาท

ย้อนดูงบประมาณกระทรวงกลาโหมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องโดดเด่นเป็นพิเศษในรอบหลายปี (ปีงบประมาณ 2558-2562) จะพบว่างบประมาณกระทรวงกลาโหมที่สูงอยู่แล้วเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งปี 2562 เฉลี่ยเพิ่มขึ้นปีละ 3%

นอกจากนี้ยังมีการตั้งงบประมาณผูกพันสำหรับซื้ออาวุธเป็นจำนวนมากราว 43,860 ล้านบาท มีการผูกพันงบประมาณตั้งแต่ปี 2561-2565 และปีต่อๆไปรวม 1,229,937.1 ล้านล้านบาท และพบว่ามีการกระจุกตัวใน 3 กระทรวงใหญ่ การใช้จ่ายเงินงบประมาณของรัฐใน 5 ปีที่ผ่านมา ทำให้เป็นหนี้สะสมราว 6.5 ล้านล้านบาท จากการสร้างภาระผูกพันทำให้หนี้สาธารณะ 42% ต่อจีดีพีในปัจจุบัน เพิ่มเป็น 47.30% ในปี 2564

นโยบายการคลังและงบประมาณหลายปีที่ผ่านมามีลักษณะหลงทิศผิดทางและเป็นผลเสียทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลักษณะการทิ้งทวนเพื่อประโยชน์ทางการเมืองเพื่อฐานของรัฐบาลคือกองทัพกับข้าราชการและการหาเสียงต่อประชาชนโดยตรง

“จาตุรนต์” ประกาศว่าหากพรรคไทยรักษาชาติเป็นรัฐบาลจะเปลี่ยนนโยบายการคลังและงบประมาณใหม่ จะลดงบประมาณของกระทรวงกลาโหมให้สอดคล้องกับความจำเป็นในการป้องกันประเทศและสภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ ขยายโอกาสในภาคส่วนต่างๆ และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ

ไม่ใช่พรรคการเมืองหรือนักการเมืองล้ำเส้นกองทัพ แต่เป็นภาระหน้าที่โดยชอบในระบอบประชาธิปไตยที่ปฏิบัติกันอยู่ทั่วไปในอารยประเทศ


You must be logged in to post a comment Login