วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

สบน.แจงหนี้สาธารณะGDPไม่เกินร้อยละ 60เอื้อเศรษฐกิจประเทศ

On January 11, 2019

นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ชี้แจงประเด็นการกำหนดสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ที่ไม่เกินร้อยละ 60 ของไทยในปัจจุบันสอดคล้องกับการกำหนดเพดานหนี้สาธารณะต่อ
GDP ในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะต่างประเทศ องค์กรระหว่างประเทศและสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ
สัดส่วนนี้เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่กระทรวงการคลังใช้ในการบริหารหนี้สาธารณะตลอดมา  โดยได้มีการทบทวนสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP
ตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจและนโยบายการบริหารประเทศของรัฐบาล

ทั้งนี้ ปัจจุบันรัฐบาลยังจำเป็นต้องดำเนินนโยบายการคลังแบบขยายตัวเพื่อรองรับการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจและสังคม
และเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ  รวมทั้งเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นและพื้นที่ทางการคลังกรณีเกิดวิกฤติเศรษฐกิจหรือความผันผวนในระบบเศรษฐกิจโลก  ทั้งนี้ จากการประมาณการในระยะ 5 ปีข้างหน้า พบว่า ระดับหนี้สาธารณะต่อ
GDP ก็ยังคงอยู่ภายใต้เพดานร้อยละ 60  โดยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561  มีผลบังคับและได้มีการกำหนดสัดส่วนทางการเงินต่างๆ เพื่อใช้เป็นกรอบในการบริหารหนี้สาธารณะ โดยสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP  ได้ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจน  ซึ่งแตกต่างจากเดิมที่กำหนดเป็นเพียงกรอบความยั่งยืนทางการคลังเพื่อเป็นแนวปฏิบัติเท่านั้น และยังมีการกำหนดสัดส่วนทางการเงินอื่นๆ อีกเพื่อรักษาวินัยทางการคลัง ได้แก่ สัดส่วนภาระหนี้ของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ  ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสามารถในการชำระหนี้ (Debt Affordability) และสัดส่วนหนี้สาธารณะที่เป็นเงินตราต่างประเทศต่อหนี้สาธารณะทั้งหมด
รวมทั้งกระทรวงการคลังได้เพิ่มเติมการวิเคราะห์สัดส่วนภาระดอกเบี้ยของรัฐบาลต่อประมาณการรายได้ประจำปีงบประมาณ
(Interest payment/Revenue) ซึ่งเป็นอีกตัวชี้วัดที่ธนาคารโลกได้แนะนำและใช้อย่างแพร่หลายในต่างประเทศเพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีความสามารถในการชำระหนี้ทั้งในปัจจุบันและระยะปานกลางอีกด้วย

นอกจากนี้ เพื่อส่งเสริมการมีวินัยทางการคลังให้มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐได้มีประกาศเพื่อกำหนดสัดส่วนงบประมาณเพื่อการชำระหนี้ภาครัฐ (เงินต้น) ไว้ที่ร้อยละ 2.5 – 3.5  ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบริหารหนี้สาธารณะของไทยที่ได้มีการกำหนดสัดส่วนดังกล่าวไว้ในกฎหมาย   เพื่อรักษาวินัยการเงินการคลังและสร้างความยั่งยืนทางการคลังในระยะปานกลางและระยะยาว

ด้วยเหตุผลข้างต้นนี้ ระดับเพดานหนี้สาธารณะต่อ GDP ที่ร้อยละ 60  เป็นระดับที่เอื้อต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ  รักษาวินัยทางการคลังและสามารถรองรับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ได้  รวมทั้งกรอบการบริหารหนี้สาธารณะต่างๆ ที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 จะช่วยให้การบริหารหนี้สาธารณะเป็นไปด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงความคุ้มค่า  ความสามารถในการชำระหนี้ และเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ ซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยเกิดความยั่งยืนทางการคลัง (Fiscal Sustainability) ในระยะยาว


You must be logged in to post a comment Login