วันพฤหัสที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

ปัจจัยแทรกซ้อน

On December 31, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 31 ธ.ค. 61)

การฟันธงของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคงว่าเสียงระเบิดที่สงขลาเป็นระเบิดทางการเมือง ทำให้จากนี้ไปต้องเฝ้าคอยจับตา โดยเฉพาะช่วงฉลองปีใหม่ว่าจะมีเสียงตูมตามดังขึ้นที่ไหนอีกหรือไม่ ถ้ามีแน่นอนว่าส่งผลกระทบไปถึงบรรยากาศการเลือกตั้งที่กำลังคึกคักอยู่ในตอนนี้ ซึ่งจะมีหลายระดับตั้งแต่คุมเข้มการหาเสียงไปจนถึงชะลอการเลือกตั้ง เพราะอยู่ในขอบเขตอำนาจที่ยังสามารถทำได้ แม้สัญญาณเลือกตั้งยังเด่นชัดแต่ต้องเฝ้าระวังปัจจัยแทรกซ้อน ให้ลุ้นไปทีละสเต็ปตั้งแต่ลุ้นให้มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ลุ้นให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด ลุ้นให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ ฯลฯ ตราบใดที่ยังไม่มีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ ทุกอย่างยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา

เสียงระเบิดตูมที่จังหวัดสงขลาในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนเปลี่ยนศักราชใหม่มีประเด็นให้น่าจับตาอยู่พอสมควร

น่าสนใจเพราะทันทีที่เสียงระเบิดดังขึ้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ฟันธงทันทีว่าเป็นระเบิดการเมือง

“ยืนยันว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่ใช้คนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก่อเหตุ” คือคำกล่าวของรองนายกฯฝ่ายความมั่นคง

เมื่อคนระดับ พล.อ.ประวิตรฟันธงว่าเป็นระเบิดการเมือง ก็ต้องตามดูต่อว่าใครทำ ทำเพื่ออะไร และจะส่งผลอย่างไรต่อไป

คอการเมืองที่ความจำดีคงจำกันได้ว่าก่อนหน้านี้ “ทั่นผู้นำ” พูดอยู่เสมอว่าถ้าไม่สงบไม่มีเลือกตั้ง

แม้วันนี้ทิศทางการไปสู่การเลือกตั้งยังเด่นชัด แต่ไม่ใช่ว่าจะมีใครมาถอดปลั๊กออกไม่ได้

ต่อให้มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นวันที่ 2 มกราคม ออกมาแล้ว

ต่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกาศกำหนดวันเลือกตั้งออกมาแล้ว

แต่ด้วยอำนาจของรัฐบาลทหาร คสช. และอำนาจของหัวหน้า คสช. ที่ยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม ทุกอย่างยังอยู่ในข่ายที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถทำได้หลายระดับ ตั้งแต่สั่งให้เลื่อนเลือกตั้งออกไป จนกระทั่งให้งดจัดการเลือกตั้งไปก่อนโดยไม่มีกำหนดใหม่ที่แน่ชัด

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นได้หากเกิดความไม่สงบ

อย่างไรก็ตาม หากจะชะลอหรือเลื่อนเลือกตั้งโดยใช้ระเบิดที่จังหวัดสงขลามาเป็นข้ออ้างย่อมดูไม่สมเหตุสมผลมากนัก

เสียงระเบิดจะมีน้ำหนักเมื่อเกิดในเมืองใหญ่

ช่วงฉลองปีใหม่จึงเป็นช่วงที่น่าจับตาเป็นอย่างยิ่งว่าจะมีเสียงตูมตามเกิดขึ้นที่ไหนอีกหรือไม่ โดยเฉพาะตามหัวเมืองใหญ่

ยิ่งในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯยิ่งน่าจับตา เพราะเป็นเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง

บรรยากาศการเมือง การเลือกตั้งที่กำลังคึกคักอาจถูกปรับโทนให้เบาลง แม้ไม่ถึงกับชะลอหรือเลื่อน แต่ก็มีเหตุผลที่จะให้ฝ่ายความมั่นคงออกไปคุมเข้มการหาเสียง

แน่นอนว่าการคุมเข้มย่อมส่งผลต่อการหาเสียงของพรรคการเมืองบางขั้วที่อาจโดนคุมแจเป็นพิเศษ โดยใช้เรื่องการรักษาความปลอดภัยมาเป็นข้ออ้าง

ดังนั้น เสียงระเบิดการเมืองลูกต่อไปถ้าดังขึ้นถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะมีอะไรหลายอย่างตามมา

ได้แต่ภาวนาขอให้ไม่มี

สถานการณ์การเมืองถึงชั่วโมงนี้ต้องบอกว่าไม่มีอะไรแน่นอน ให้ลุ้นไปทีละสเต็ป ลุ้นให้มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ลุ้นให้มีการเลือกตั้งตามกำหนด ลุ้นให้ผลการเลือกตั้งเป็นที่ยอมรับ ฯลฯ

อะไรก็ยังเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ


You must be logged in to post a comment Login