วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

ข้าวแดงแกงร้อน

On December 4, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

(โลกวันนี้รายวัน ประจำวันที่ 4 ธ.ค. 61)

การเปิดรับสมัคร ส.ว.ทั่วประเทศมียอดผู้สมัครรวม 7,210 คน จากนี้ไปจะเข้าสู่ขั้นตอนการคัดเลือกกันเองให้เหลือ 200 คน ก่อนส่งให้ คสช. เลือกเอาแค่ 50 คนทำหน้าที่ ส.ว. ในสภา แม้ คสช. จะเป็นผู้เลือกแต่พอพูดได้ว่ามีความเชื่อมโยงกับประชาชนเพราะมาจากการเปิดรับสมัคร แต่อีก 194 คนที่ คสช. จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาคัดเลือกอาจไม่เชื่อมโยงกับประชาชน เพราะมีข่าวว่าจะไม่เปิดรับสมัครเป็นการทั่วไป จะใช้วิธีทาบทามคืออยากให้ใครเป็น ส.ว. ก็ไปชวนมาเป็น และมีข่าวว่าจะไม่เปิดเผยชื่อก่อน ให้รู้พร้อมกันในวันประกาศแต่งตั้ง ที่เป็นเช่นนี้เพราะต้องการหลบเสียงวิจารณ์ และเพื่อให้แน่ใจว่าเป็น 194 เสียงที่คุมได้ ซึ่งเชื่อว่าทุกคนพร้อมสนองตอบ เพราะต้องทำงานตอบแทน ไม่ให้ใครมาทวงบุญคุณว่าไม่รู้จักข้าวแดงแกงร้อน

ปิดรับสมัครไปอย่างเงียบๆเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมาสำหรับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) รวมยอดผู้สมัครทั่วประเทศทั้งสิ้น 7,210 คน แบ่งเป็นเพศชาย 5,315 คน เพศหญิง 1,895 คน

จังหวัดที่มีผู้สมัครโดยยื่นใบสมัครมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อุบลราชธานี 431 คน, ขอนแก่น 377 คน, สกลนคร 296 คน, ร้อยเอ็ด 267 คน และเชียงใหม่ 265 คน จังหวัดที่มีผู้สมัครโดยยื่นใบสมัครน้อยที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ชุมพร 16 คน, พังงา 17 คน, สิงห์บุรีและระนองจังหวัดละ 18 คน, บึงกาฬ 23 คน

ขั้นตอนหลังจากนี้จะเป็นการคัดเลือกกันเองของแต่ละกลุ่มอาชีพในระดับอำเภอวันที่ 16 ธันวาคม และระดับจังหวัดวันที่ 22 ธันวาคม ก่อนจะคัดเลือกกันเองในระดับประเทศวันที่ 27 ธันวาคม

จากผู้สมัครทั่วประเทศ 7,210 คน เลือกให้เหลือ 200 คน จากนั้นคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะส่งรายชื่อให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จิ้มเลือกเอา 50 คน ไปเป็น ส.ว.ชุดแรกตามกติกาใหม่ที่ผู้มีอำนาจเคลมว่าเป็นกติกาเพื่อปฏิรูปการเมือง

ทั้ง 50 คนที่ผ่านการคัดเลือกจาก คสช. จะไปทำงานร่วมกับอีก 194 คนซึ่งก็มาจากการคัดเลือกของ คสช. โดยตรง และอีก 6 คนที่จะได้เก้าอี้ ส.ว. โดยตำแหน่ง ซึ่งล้วนเป็นแม่ทัพนายกองในกองทัพ

สำหรับการคัดเลือก ส.ว. อีก 194 คนนั้น ยังต้องรอให้ คสช. ตั้งคณะกรรมการคัดเลือกก่อน ซึ่งตามกระแสข่าวระบุว่าใกล้ได้เห็นหน้าตาของผู้ที่จะมาเป็นกรรมการคัดเลือกแล้วว่ามีใครบ้าง

ทั้งนี้ ตามรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. กำหนดให้ คสช. ตั้งกรรมการคัดเลือก ส.ว. ได้ไม่เกิน 12 คน และต้องไม่น้อยกว่า 9 คน โดยกฎหมายกำหนดคุณสมบัติของคนที่จะมาเป็นกรรมการคัดเลือกว่าจะต้องเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรู้ มีประสบการณ์ด้านต่างๆ และที่สำคัญคือต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง

ต้องรอดูว่าเมื่อ คสช. ประกาศแต่งตั้งออกมาแล้วผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจะมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องความเป็นกลางทางการเมือง

ทั้งนี้ มีกระแสข่าวว่าผู้ที่จะได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่คัดเลือก ส.ว. จะมาจากฝ่ายบริหารเป็นส่วนใหญ่

ส่วนวิธีการคัดเลือก ส.ว. ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะไม่เปิดรับสมัครเป็นการทั่วไปเหมือนการรับสมัคร ส.ว. ทั่วประเทศก่อนหน้านี้ แต่จะใช้วิธีทาบทามผู้ที่เห็นว่าเหมาะสมเป็น ส.ว. ให้มาทำหน้าที่ในสภา

เมื่อใช้วิธีทาบทามก็ชัดเจนว่าการคัดเลือก ส.ว. อีก 194 คนนั้นจะเป็นการคัดเลือกแบบเป็นไปตามอัธยาศัยของผู้เป็นกรรมการคัดเลือก อยากให้ใครเป็น ส.ว. ก็ไปเชิญมาเป็น

นอกจากอยากได้ใครเป็น ส.ว. ก็เชิญมาเป็นแล้ว ในทางปฏิบัติก็อาจจะมีรายชื่อที่ถูกส่งมาจากผู้มีอำนาจ และรายชื่อของผู้ที่เสนอตัวผ่านช่องทางต่างๆว่าอยากเป็น ส.ว. มาให้เลือกด้วยอีกส่วนหนึ่ง

ที่สำคัญคือคนที่จะมาเป็น ส.ว. ในส่วนนี้น่าจะมาจากคนในแม่น้ำ 5 สายของรัฐบาลทหาร คสช. เป็นหลัก และมีความเป็นไปได้ว่าจะมาตามโควตาของผู้มีอำนาจในแต่ละส่วน และก็มีข่าวด้วยว่าจะไม่มีการเปิดเผยรายชื่อผู้ที่จะมาเป็น ส.ว. ให้สังคมได้รับรู้ก่อนเพื่อไม่ให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ ให้รู้พร้อมกันครั้งเดียวในวันประกาศแต่งตั้งเลย เพราะถึงตอนนั้นไม่ว่าจะวิจารณ์อย่างไรก็ไม่มีผลเพราะแต่งตั้งไปแล้ว

ส.ว. 50 คนที่ได้มาจากการเปิดรับสมัครจากทั่วประเทศ แม้ คสช. จะเป็นคนเลือกเองจากบัญชีรายชื่อ 200 คนที่ กกต. ส่งมาให้ แต่อาจคุมไม่ได้ทั้งหมดเพราะไม่ได้คัดเลือกเองตั้งแต่แรก

แต่อีก 194 คนที่เลือกเองตั้งแต่ต้น รวมกับ ส.ว. ที่ได้มาโดยตำแหน่งอีก 6 คน จะสามารถคุมได้แน่นอน เพราะอย่างน้อยทุกคนก็ต้องทำงานตอบแทน ไม่ให้ใครทวงบุญคุณว่าไม่รู้จักข้าวแดงแกงร้อน


You must be logged in to post a comment Login