วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ไม่พ้นนักการเมือง

On October 26, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

การปรับเปลี่ยนหัวหน้าทีมโฆษกรัฐบาลจาก พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด มาเป็นนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ไม่ว่าจะปฏิเสธอย่างไรมองมุมไหนก็ไม่พ้นความเกี่ยวโยงกับการนับถอยหลังสู่เลือกตั้ง เพราะยิ่งใกล้เลือกตั้งฝ่ายการเมืองจะยิ่งมีความเคลื่อนไหว และแน่นอนว่ารัฐบาลทหาร คสช. จะตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในเรื่องการทำงานและความเป็นกลางในการจัดเลือกตั้ง การจะตอบโต้กับบรรดานักการเมืองฝีปากกล้าจำเป็นต้องใช้คนในระดับเดียวกัน ทันเหลี่ยมทันมุขกัน แม้ที่ผ่านมา “ทั่นผู้นำ” จะแสดงความไม่ชอบนักการเมืองออกนอกหน้า แต่เมื่อถึงเวลาก็ต้องเรียกใช้

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ หนึ่งในแกนนำม็อบนกหวีด กำลังขึ้นหม้อทางการเมือง

หลังยอมทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ไปรับตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองได้ไม่นาน ผลงานเข้าตา “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

ล่าสุดได้นั่งเก้าอี้โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีกหนึ่งตำแหน่ง

ส่วนเจ้าของตำแหน่งเดิมอย่างโฆษกไก่อู พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด ต้องไปทำหน้าที่อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์เพียงตำแหน่งเดียวหลังจากถ่างขานั่งควบมานาน

“บิ๊กตู่” ให้เหตุผลการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ว่า ที่ให้นายพุทธิพงษ์มาช่วยชี้แจงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และผลการดำเนินงานของรัฐบาลแทน พล.ท.สรรเสริญ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ และเปลี่ยนภาพลักษณ์ใหม่ให้ดีขึ้น ซึ่งได้พูดคุยกับ พล.ท.สรรเสริญแล้ว ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด การปรับเปลี่ยนให้นายพุทธิพงษ์เข้ามาทำหน้าที่ไม่เกี่ยวกับที่จะเข้าสู่ช่วงการเลือกตั้ง

แม้ “บิ๊กตู่” ยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับช่วงเวลานับถอยหลังสู่การเลือกตั้ง แต่ก็น่าจะเป็นเหตุให้เกิดการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้อยู่บ้างไม่มากก็น้อย

ทั้งนี้เพราะยิ่งใกล้การเลือกตั้งฝ่ายการเมืองจะยิ่งมีความเคลื่อนไหวคึกคักมากขึ้น และแน่นอนว่ารัฐบาลทหาร คสช. จะตกเป็นเป้าถูกวิพากษ์วิจารณ์ทั้งในเรื่องการทำงานและความเป็นกลางในการจัดเลือกตั้ง

การจะปะทะคารม ตอบโต้บรรดานักการเมืองฝีปากกล้าทั้งหลาย จำเป็นต้องใช้คนในระดับเดียวกัน ทันเหลี่ยมทันมุขกันทางการเมือง ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า พล.ท.สรรเสริญยังชั้นเชิงไม่ถึง อ่อนประสบการณ์ที่จะมาตอบโต้กับนักการเมือง ดูได้จากการทำหน้าที่โฆษกรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมา

ต่างจากนายพุทธิพงษ์ที่แม้จะเข้ามาเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองได้ไม่นาน แต่สามารถตอบโต้กับนักการเมืองแทนบิ๊กๆในรัฐบาลที่ส่วนมากเป็นนายทหารได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ นายพุทธิพงษ์มีแผนที่จะยกเครื่องการทำงานของทีมโฆษกรัฐบาลใหม่ โดยจะเพิ่มมิติการสื่อสารกับประชาชนทุกระดับให้ทั่วถึงมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย เพราะเข้าถึงประชาชนได้ในวงกว้าง

ว่ากันว่าการโดดมาเล่นสื่อโซเชียลแบบเต็มตัวของนายกรัฐมนตรีก็เป็นส่วนหนึ่งจากไอเดียของโฆษกรัฐบาลคนใหม่

แม้ก่อนหน้านี้ “บิ๊กตู่” จะแสดงท่าทีรังเกียจนักการเมืองอย่างชัดเจน แต่เมื่อถึงเวลาต้องทำศึกทางการเมืองก็ต้องใช้นักการเมืองเป็นมือเป็นไม้เพื่อปิดจุดอ่อนของตัวเอง

การตั้งนายพุทธิพงษ์เป็นหัวหน้าทีมโฆษกรัฐบาล ไม่ว่าใครจะมองอย่างไร จะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร ก็ถือว่าเป็นการเลือกใช้คนให้ถูกกับงาน เพราะมีประสบการณ์ทางการเมือง มีความแหลมคมในการใช้คำพูด ประดิษฐ์วาทกรรมในระดับที่ไว้ใจได้

แม้จะยังอ่อนพรรษาเมื่อเทียบกับนักการเมืองฝีปากกล้าที่อยู่ฝั่งตรงข้ามรัฐบาลทหาร คสช. หลายคน แต่เชื่อได้ว่าตอบโต้ได้ดีกว่าอดีตโฆษกไก่อูแน่นอน


You must be logged in to post a comment Login