วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

เชิญ‘สันตะปาปา’เยือนเปียงยาง

On October 22, 2018

ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์ว่า ประธานาธิบดีมุน แจ-อิน และนางคิม จอง-ซุก ภริยา เข้าเฝ้าฯสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสที่กรุงวาติกัน โดยทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนของที่ระลึกแก่กัน และในโอกาสนี้ผู้นำเกาหลีใต้ได้ถวายจดหมายฉบับหนึ่งแด่สมเด็จพระสันตะปาปาที่ระบุว่าเป็นของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ แสดงความปรารถนาดีในการเชิญโป๊ปฟรานซิสเสด็จเยือนกรุงเปียงยาง

ทั้งนี้ สมเด็จพระสันตะปาปาทรงแสดงความพอพระทัยต่อความคืบหน้าของกระบวนการสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี พระองค์ทรงมีพระดำรัสด้วยว่า แม้ถ้อยความในจดหมายของนายคิมถือว่าเพียงพอสำหรับการเป็นคำเชิญ แต่จะเหมาะสมกว่านี้หากรัฐบาลเกาหลีเหนือจะส่งหนังสืออย่างเป็นทางการตามขั้นตอน พระคาร์ดินัลปิเอโตร ปาโรลิน เลขาธิการด้านกิจการแห่งรัฐของวาติกัน ซึ่งเทียบเท่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่สมเด็จพระสันตะปาปาจะเสด็จเยือนกรุงเปียงยาง ซึ่งจะถือเป็นประมุขแห่งคริสตจักรโรมันคาทอลิกพระองค์แรกในประวัติศาสตร์

ในเวลาเดียวกันวาติกันออกแถลงการณ์ว่า สมเด็จพระสันตะปาปาทรงไม่มีแผนการเสด็จเยือนกรุงไทเป แม้ทรงได้รับสาสน์เชิญอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีไช่ อิง-เหวิน ผ่านรองประธานาธิบดีเฉิน เจี้ยน-เหริน ซึ่งเยือนกรุงวาติกันเมื่อวันที่ 14 ตุลาคมที่ผ่านมา

นายไมเคิล กรีน อดีตเจ้าหน้าที่สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ กล่าวว่า เกาหลีเหนือเป็นประเทศที่กดขี่ศาสนามากที่สุด หากสมเด็จพระสันตะปาปาเสด็จเยือนและพบผู้นำเกาหลีเหนือเกรงว่าจะเป็นการสร้างความชอบธรรมให้แก่ผู้นำเกาหลีเหนือ โดยเชื่อว่าผู้นำเกาหลีเหนือเชิญสมเด็จพระสันตะปาปาเพราะหวังผลสร้างภาพลักษณ์ ชูความเป็นรัฐบุรุษ และบั่นทอนจุดยืนนานาชาติที่คว่ำบาตรเกาหลีเหนือเรื่องโครงการนิวเคลียร์

ขณะที่กลุ่มโอเพ่นดอร์สยูเอสเออ้างว่า เกาหลีเหนือคุมขังคริสตชนมากถึง 50,000 คนไว้ในเรือนจำ ค่ายใช้แรงงานหนัก ค่ายล้างสมอง และศูนย์กักกัน ด้านคณะกรรมการเพื่อสิทธิมนุษยชนในเกาหลีเหนือซึ่งเป็นองค์กรนอกภาครัฐในสหรัฐมองว่า หากสมเด็จพระสันตะปาปาตัดสินพระทัยเสด็จเยือนเกาหลีเหนือ พระองค์จะทรงทำให้เกิดผลในเชิงบวกได้หากทรงย้ำเรื่องเกาหลีเหนือกดขี่คริสตชนและผู้นับถือศาสนาอื่นๆ


You must be logged in to post a comment Login