วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

สถ.แจงอปท.ใช้รถฉุกเฉินต้องเป็นผู้ป่วยจริงตามกฎระเบียบทางราชการ

On October 19, 2018

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยถึงกรณีที่กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) สั่งห้ามองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) นำรถฉุกเฉินรับผู้ป่วยกลับบ้าน นั้น กรมฯ ต้องขอเรียนว่า การดำเนินการของ อปท. ต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งกำหนดไว้ว่า “ผู้ป่วยฉุกเฉิน” คือ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหัน ซึ่งเป็นภยันตรายต่อการดำรงชีวิต หรือการทำงานของอวัยวะสำคัญ จำเป็นต้องได้รับการประเมินการจัดการ และการบำบัดรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการบาดเจ็บหรือการป่วยนั้น นั่นคือรถฉุกเฉินของอปท.มีวัตถุประสงค์การใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยที่ฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น ดังนั้น หาก อปท. นำรถฉุกเฉินซึ่งมีอยู่เพียงคันเดียวไปให้บริการรับส่งผู้ป่วยตามนัด ซึ่งในปัจจุบันมี อปท. หลายแห่ง ได้ให้บริการรับส่งประชาชนในท้องถิ่นในการเดินทางไปพบแพทย์ตามใบนัดที่กำหนดวันเวลาไว้แล้ว ซึ่งไม่ได้เป็นกรณีฉุกเฉินแต่อย่างใด และถ้าเกิดมีผู้ป่วยฉุกเฉินก็จะทำให้ไม่มีรถฉุกเฉินให้บริการ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิตได้ ประกอบกับปัจจุบันได้มี อปท. ถูกหน่วยตรวจสอบทักท้วงและเรียกเงินคืน กรณีนำรถฉุกเฉินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งไม่เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉินอีกด้วย

อย่างไรก็ดี กรณีที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ( อปท.) นำรถฉุกเฉินไปส่งผู้ป่วยฉุกเฉินที่โรงพยาบาลแล้ว ก็ถือว่าเสร็จสิ้นภารกิจ หาก อปท. จะนำรถฉุกเฉินรับผู้ป่วยอื่นที่อยู่ที่โรงพยาบาลนั้นกลับบ้าน ก็สามารถทำได้ เนื่องจากรถฉุกเฉินของ อปท. จะต้องเดินทางกลับอยู่แล้ว แต่จะต้องไม่ใช่กรณีอยู่พักรักษาตัวจนหายป่วยสามารถกลับบ้านได้แล้ว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึงจัดรถไปรับกลับบ้าน

อีกกรณีหนึ่งคือ กรณีที่ผู้ป่วยนั้นเป็นผู้ที่ยากไร้ หรือผู้ป่วยติดเตียง อปท. ก็สามารถให้การช่วยเหลือได้ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2560 โดยผู้ป่วยที่ยากไร้สามารถขอรับการสงเคราะห์จาก อปท. ในการเดินทางไปโรงพยาบาลตามใบนัดของแพทย์ ซึ่ง อปท. ก็สามารถให้ความช่วยเหลือในการรับส่งผู้ป่วยดังกล่าวได้ด้วย

“ขอยืนยันว่ากรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่มีอยู่ ซึ่งหากท่านใดมีข้อสงสัยหรือไม่เข้าใจขอให้สอบถามท้องถิ่นอำเภอหรือท้องถิ่นจังหวัดก่อนได้ ดีกว่าไปด่วนสรุปโดยไม่รู้สาเหตุ อย่างไรก็ตามเราก็น้อมรับเสียงติติงหรือคำแนะนำอย่างสร้างสรรค์ บนพื้นฐานการใช้งบประมาณแผ่นดินอย่างคุ้มค่าและเป็นไปตามกฎระเบียบทางราชการ ตลอดจนการใช้งบประมาณในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ของคนไทยอย่างถูกต้องและเป็นมาตรฐานเดียวกัน” อธิบดีกล่าว


You must be logged in to post a comment Login