วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

“เดียร์-เนย”คว้าทอง หนแรกมวยยูธอลป.

On October 18, 2018
2 นักชกคนเก่ง “เจ้าเดียร์” อธิชัย เพิ่มทรัพย์ และ “น้องเนย” พัณพัชรา สมนึก ช่วยกันคว้าทองประวัติศาสตร์แรกมวยสากลยูธโอลิมปิกเกมส์ 2018 ที่อาร์เจนติน่า “บิ๊กชาย” สมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคฯ สุดปลื้มขอบคุณทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทุกคนที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก จนประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่ยังเหลือลุ้นอีก 1 เหรียญทองจาก “น้องจูน” พรทิพย์ บัวป่า ที่จะพบกับแชมป์โลกของสหราชอาณาจักร 
  การแข่งขันมวยสากลมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 17 ต.ค.ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่นที่ช้ากว่าเมืองไทยกว่า 10 ชม.) ณ เมืองบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนติน่า เป็นการชิงชัยในรอบชิงชนะเลิศ โดย 4 นักชกเยาวชนไทยที่ผ่านมาถึงรอบนี้ได้ ประกอบด้วย รุ่น 52 กก. ชาย “เจ้าตี๋” ศราวุฒิ สุขเทศ จะพบกับ อีวาน ไพรส์ จากสหราชอาณาจักร, รุ่น 60 กก. ชาย “เจ้าเดียร์” อธิชัย เพิ่มทรัพย์ ดีกรีแชมป์โลกคนล่าสุด พบ บอนดาซุก ทาราส ของยูเครน, รุ่น 57 กก.หญิง “น้องเนย” พัณพัชรา สมนึก พบ คาริโร่ เจนนิเฟอร์ ยาสมิน จากเม็กซิโก และ รุ่น 60 กก. หญิง “น้องจูน” พรทิพย์ บัวป่า พบกระดูกชิ้นโต คาโรลาย ซาร่า ดูโบส ของสหราชอาณาจักร ในฐานะมือวางอันดับ 1 ซึ่งจะลงทำการแข่งขันในวันถัดไป (18 ต.ค.) ขณะที่นักชกไทยหนึ่งเดียวของเราต้องไปแย่งชิงเหรียญทองแดง คือ รุ่น 75 กก.ชาย “เจ้าเกมส์” วีระพล จงจอหอ พบกับ แจนเซ่น เปอร์โต้ จากซามัว
01 02
ปรากฏว่า นักชกเยาวชนไทยคนแรกที่คว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์ให้กับสมาคมกีฬามวยสากลฯ คือ รุ่น 57 กก. หญิง “น้องเนย” พัณพัชรา ที่อาศัยการเดินหน้าออกหมัดได้อย่างดุดัน แถมยังแข็งแกร่งคลุกวงทำแต้มได้อย่างต่อเนื่องเป็นฝ่ายชนะคะแนน คาริโร่ ไปแบบขาดลอย 5-0 เสียง ส่วนเหรียญทองที่ 2 ได้จาก รุ่น 60 กก.ชาย “เจ้าเดียร์” อธิชัย ใช้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมเป็นฝ่ายเดินหน้าออกอาวุธได้สมราคาเต็ง 1 ไล่ทุบชนะคะแนน บอนดาซุก ไปอย่างหายห่วงอีกคน 5-0 เสียง ท่ามกลางความดีใจจากองเชียร์เป็นจำนวนมาก
ขณะที่รุ่น 52 กก. ชาย “เจ้าตี๋” ศราวุฒิ โชคไม่ดีเพียงแค่เริ่มต้นยกแรกไปได้ 2 นาทีเท่านั้น พลาดไปถูก อีวาน ออกหมัดชุดใหญ่ก่อนจะโดนท่อนแขนซ้ายของคู่ต่อสู้กระแทกไปที่ท้ายทอยอย่างจัง จน ศราวุฒิ มีอาการมึนบริเวณศรีษะและหันไปมาไม่ได้ จนผู้ตัดสินต้องเข้ามาเช็คอาการและให้เป็นฝ่ายแพ้อาร์เอสซีแค่ยกนี้ไป ส่งผลให้ ศราวุฒิ ได้เพียงแค่เหรียญเงินไปครองแบบน่าเสียดาย
ปิดท้ายกันที่รุ่น 75 กก.ชาย “เจ้าเกมส์” วีระพล หลานคนโปรดของ “เจ้าน้อย” สมจิตร จงจอหอ อดีตเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ปี 2008 ที่จีน อาศัยรูปร่างที่สูงใหญ่และการออกอาวุธที่ครบเครื่องทั้งตัดลำตัวและใบหน้าชนะคะแนน แจนเซ่น ไปแบบสบาย 5-0 เสียง 
สรุปผลงานนักชกเยาวชนทีมชาติไทยเวลานี้คว้ามาได้แล้ว 2 เหรียญทองจาก. รุ่น 60 กก.ชาย อธิชัย และ รุ่น 57 กก.หญิงพัณพัชรา ส่วน 1 เหรียญเงินได้จากรุ่น 52 กก. ชาย ศราวุฒิ และ 1 เหรียญทองแดงจาก วีระพล โดยในวันที่ 18 ต.ค.นี้ เวลา 16.00 น. (ตามเวลาประเทศอาร์เจนติน่า) นักชกไทยคนสุดท้ายจะลงชิงเหรียญทองคือ รุ่น 60 กก.หญิง “น้องจูน” พรทิพย์ บัวป่า ดีกรีแชมป์เอเชียคนล่าสุด 
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมฯ เปิดเผยว่า การแข่งขันรายการนี้มีความยากลำบากยิ่งนักกว่าเด็กแต่ละคนจะมายืนถึงจุดนี้ได้ เพราะจะต้องผ่านการคว้า “แชมป์” จากรายการชิงแชมป์โลก, ชิงแชมป์เอเชีย และ การควอลิฟายในทวีปต่างๆทั่วโลก เพื่อเอาคนที่ดีที่สุดมารอบสุดท้ายในยูธโอลิมปิก ที่สำคัญแต่ละประเทศจะส่งนักมวยเข้าร่วมได้ไม่เกินชาติละ 5 รุ่นเท่านั้นเอง และนักชกไทยก็ได้พิสูจน์ให้คนทั่วโลกได้เห็นแล้วว่า เราเก่งกาจแค่ไหน จากทั้งหมด 5 คนเราสามารถผ่านเข้ารอบ 4 คนสุท้ายได้ครบทุกรุ่น ล่าสุดเวลานี้เราได้คว้า 2 เหรียญทองประวัติศาสตร์แรกให้กับสมาคมฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ที่จริงน่าเสียดาย ศราวุธ หากไม่ประสบอุบัติเหตุโดนท่อนแขนกระแทกไปเสียก่อนก็น่าจะได้เหรียญทองเป็นคนที่ 3 แต่ทุกอย่างบนเวทีอะไรมันก็เกิดขึ้นได้ ส่วน วีระพล ทำผลงานได้ดีจึงได้เหรียญทองแดงเป็นคนสุดท้าย ส่วนตัวต้องขอขอบคุณทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่ช่วยกันทุ่มเทจึงประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่เช่นนี้ จากนี้ไปเรายังเหลือลุ้นเหรียญทองสุดท้ายจาก พรทิพย์ แม้ว่า จะพบกับคู่แข่งดีกรีแชมป์โลก แต่ถ้าหาก “น้องจูน” ชกได้ตามแผนที่โค้ชวางไว้เป้าหมายก็ไม่ไกลเกินจริง อนาคตนักกีฬาชุดนี้จะเป็นกำลังสำคัญของสมาคมฯต่อไป และอยากขอให้ทุกคนส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาชุดนี้กันด้วย
หลังการชก พัณพัชรา เปิดเผยว่า รู้สึกกดดันในช่วงแรกเพราะคู่แข่งค่อนข้างครบเครื่องและแข็งแกร่งมาก แต่ก็ฟังคำสั่งโค้ชฮวน ฟอนตาเนี่ยล ชาวคิวบาให้ขยันออกหมัดตัดลำตัวและคลุกวงในมากๆเพื่อให้คู่แข่งอ่อนแรง ก่อนทุกอย่างจะเป็นผลเอาชนะไปในที่สุด ดีใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถเป็นนักชกไทยคนแรกคว้าเหรียญทองให้กับสมาคมฯ ส่วนตัวต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่ให้การสนับสนุนมาถึงจุดนี้ได้ จากนี้ไปคงจะต้องพัฒนาตัวเองให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อย ส่วนเงินรางวัล 2 ล้านบาทที่จะได้มานั้น คงเอาไปฝากให้พ่อและแม่ดูแล เพื่อเป็นค่าการศึกษาต่อไป
ด้าน อธิชัย ได้กล่าวว่า ดีใจมากที่ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายในการคว้าเหรียญทองรายการใหญ่ระดับโลกเช่นนี้ เกมชกในวันนี้เป็นไปตามแผนที่ได้รับคำสั่งจากโค้ช แม้ว่า คู่แข่งจะชกยากในช่วงแรกก็ตามแต่พอหลังจับทางได้จึงเข้าทางที่ศึกษามา จากนี้ไปคงตั้งใจฟิตซ้อมดูแลตัวเองให้ดี เพื่ออยากรักษามาตรฐานและผลงานให้นานที่สุด โดยเฉพาะทัวร์นาเม้นส์ต่างๆหลังจากนี้ 
ส่วน ศราวุธ เปิดเผยว่า ตั้งแต่เสียงระฆังดังขึ้นมาตัวเองชกตามแผนที่โค้ชวางไว้ให้ คือ ไม่รีบเร่งและคอยดักจังหวะสองทำแต้มแต่ช่วงที่หยุดช็อตไปเดื้อๆนั้นเพราะโดนท่อนแขนของคู่แข่งมากระแทกตรงท้ายทอย จนทำให้เกิดอากาชาและไม่สามารถหันศรีษะไปด้านซ้ายได้ แม้ว่า จะพยายมกัดฟันบอกกรรมการว่า ยังไหว แต่คนบอกมันดูอันตรายเลยต้องพ่ายแพ้ไป ซึ่งถ้าหากตัวเองไม่โดนอุบัติเหตุเช่นนี้ก่อน หากชกครบทั้ง 3 ยกเชื่อว่า ได้เหรียญทองแน่นอน เพราะตัวเองแทบจะไม่โดนหมัดคู่แข่งเลย ส่วนเหรียญเงินที่ได้มานั้นต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่านที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ คงจะนำข้อเสียที่ได้รับไปพัฒนาตัวเองต่อไป   
            สำหรับทัพมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยชุดนี้จะเดินทางกลับมาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ด้วยเที่ยวบิน อีเค 376 ถึงเวลา 13.15 น.ภายใต้การนำของ “บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิคสมาคมฯ 

You must be logged in to post a comment Login