วันพฤหัสที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

อบายมุขกับความเสื่อม / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On September 17, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

พูดถึงวงการดารา นักร้อง นักแสดงต่างๆ ทุกยุคทุกสมัยมีดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ละเลยเรื่องศีลธรรม ขี้เหล้าเมายา ติดยาเสพติด จนเสียชื่อเสียง เสียงาน ชีวิตตกต่ำ อย่างสมัยก่อนนักร้องดัง “คำรณ สัมบุญณานนท์” ก็ติดกัญชา หมดเนื้อหมดตัว ตอนตายไม่มีเงินซื้อกระทั่งโลงศพ

ดาราหลายคนที่มีสภาพจมอยู่กับอบายมุขต่างๆ เหมือน “โอ” วรุฒ วรธรรม ที่เพิ่งเสียชีวิต เพราะติดสุรา เป็นโรคพิษสุราเรื้อรัง ทั้งที่เคยมีชื่อเสียงโด่งดัง มีรายได้ แต่เมื่อติดสุราก็ทำให้เสียงานและเสียรายได้ ศีลธรรมตกต่ำ คนก็ไม่จ้างงาน จึงมีความเครียด ร่างกายก็เจ็บป่วยจนทรุดหนัก

เพราะฉะนั้นคนเราต้องตระหนักรู้ ตระหนักคิดว่าอะไรควรอะไรไม่ควร จะมีชื่อเสียงโด่งดังอย่างไรหากไม่มีสติ ไม่มีปัญญาที่จะทำให้ตัวเองมั่นคงก้าวหน้า ยิ่งไม่มีศีลธรรมก็ยิ่งเสื่อมและส่งผลร้ายต่อตัวเอง จึงมีข่าวคนรวย คนมีชื่อเสียง ฆ่าตัวตายเพราะทุกข์และไม่รู้ทางที่จะดับทุกข์อย่างไร

ดังแล้วดับ ไม่ใช่ดังแล้วเด่นดี แต่ดังแล้วล้มเซซวน อยู่อย่างยากไร้ เป็นทุกข์ หากคนเรามีสติก็จะระมัดระวังไม่ให้ตัวเองตกต่ำ แม้จะยากจนก็มีความสุข เพราะรู้จักความพอดีของชีวิต มืดมาแล้วมาสว่าง ไม่ใช่สว่างแล้วมามืด ติดเหล้า ติดยา ติดการพนัน ติดอบายมุขสารพัด

การเดินทางผิดของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเพราะอบายมุขหรือศีลธรรมตกต่ำ ก็เหมือนสมองที่ไม่ติดเครื่องกรอง ไม่รู้อะไรควรกินอะไรไม่ควรกิน ไม่รู้จักรักษาชีวิตตัวเองอย่างไร เสียทรัพย์ เสียสุขภาพ และเสียภาพลักษณ์ของตัวเอง เป็นดารา เป็นศิลปินที่โด่งดัง กลับต้องมาพังเพราะอบายมุข

พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า อบายมุขเป็นปากทางของความเสื่อม เสื่อมทั้งสุขภาพ เสื่อมทั้งทรัพย์ เสื่อมทั้งหน้าที่การงาน ยิ่งเป็นพระไปดื่มเหล้า ติดยา ยิ่งเสื่อมหนัก

ดังนั้น ก็ขอให้ทุกคนที่ยังมีชีวิต ไม่ว่าจะร่ำรวยหรือโด่งดังอย่างไร ต้องยึดมั่นในความดี ในศีลธรรม อย่าให้อบายมุขดึงให้ตกต่ำ เสียคน เสียชื่อเสียง เสียการงาน ยิ่งเป็นดารามีชื่อเสียงยิ่งต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เป็นไอดอลที่ดี ทำความดี ทำความชอบ รักษาความดีเหมือนเกลือรักษาความเค็ม ส่วนคนที่ติดอบายมุขเมื่อรู้ตัวไหวทันก็รีบถอนตัวเถอะ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login