วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

ไร้สัจจะอยู่ยาก / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On September 11, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ข่าวอดีตคู่รักในวงการบันเทิง “มิ้งค์กับกัปตัน” คงจะเป็นอุทาหรณ์สอนใจทั้งคนในวงการบันเทิงและคนทั่วไปได้ว่าการโกหก ไม่พูดความจริง ไม่ซื่อสัตย์นั้น ส่งผลร้ายอย่างไรบ้าง

พระพุทธเจ้าบอกว่า เมื่อคนเราเริ่มโกหกได้แล้วจะไม่ทำความชั่วอย่างอื่นอีกเป็นไม่มี นี่เป็นเรื่องที่พอจะมองเห็นได้ อย่างกรณีนี้โกหกว่าท้องทั้งที่ไม่ได้ท้อง แม้จะอ้างภายหลังว่าเพราะความรัก แต่ก็เลิกรากันไปแล้ว

เขาจึงบอกว่าความรักเป็นเหมือนยาขม ยาพิษ รักขม ถ้ายืนหยัดอยู่ในความจริง ไม่หลอกใคร ก็ต่างคนต่างอยู่กันไป เมื่อโกหกจึงมีการฟ้องร้องเพื่อให้มีการพิสูจน์ จนฝ่ายหญิงยอมรับว่าโกหก

การโกหกเหมือน “น้ำกลิ้งบนใบบัว” กลับไปกลับมาอย่างนี้ ต่อไปก็จะไม่มีใครเชื่อถือในคำพูด ใครที่จะคบหาสมาคมด้วยก็ไม่มั่นอกมั่นใจ

เชื่อว่าเรื่องนี้จะเป็นบทเรียนให้เรา ไม่ว่าเป็นใครก็ตาม ยิ่งเป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็นคนที่มีอำนาจ ยิ่งต้องพูดจริง ทำจริง ไม่โกหกหรือตระบัดสัตย์ จะอ้างโน่นอ้างนี่ไม่ได้ โกหกก็คือโกหก ตระบัดสัตย์ก็คือตระบัดสัตย์

คนเรารู้จักกัน มีความสัมพันธ์กัน ก็หวังว่าจะมีความเชื่อใจ ผูกใจ เชื่อถือได้ เมื่อคนที่คบหาไม่ซื่อตรง เป็นคนโกหก ก็คบกันไม่ได้ ต้องเลิกร้างกันไป เพราะคนเราอยู่กันได้ด้วยความจริงใจ โดยเฉพาะคนที่รักกัน จะครองเรือนได้ดี ยั่งยืน มั่นคง ต้องมีสัจจะ มีความซื่อสัตย์ต่อกัน

พระพุทธเจ้าตรัสไว้ข้อแรกที่สำคัญที่สุดคือ สัจจะ ความจริง ต้องข่มจิต ข่มใจ และมีขันติ อดทน อดกลั้น จาคะคือรู้จักสละในสิ่งที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขอร้องต้องการ เป็นหลักของความรักที่จะอยู่กันอย่างยั่งยืน แต่ถ้าเริ่มต้นด้วยความไม่มีสัจจะ ไม่น่าเชื่อถือ ไม่ไว้วางใจแล้ว ก็อยู่ร่วมกันยาก

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login