วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

‘มะเร็งลำไส้ใหญ่’ป้องกันได้ / โดย ผศ.นพ.จุลจักร ลิ่มศรีวิไล

On July 26, 2018

คอลัมน์ : พบหมอศิริราช

ผู้เขียน : ผศ.นพ.จุลจักร ลิ่มศรีวิไล

(โลกวันนี้วันสุข ประจำวันที่ 27 กรกฎาคม- 3 สิงหาคม 2561)

มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นภัยเงียบ เนื่องจากเป็นมะเร็งที่พบบ่อย และระยะแรกไม่มีอาการ กว่าจะรู้ตัวเมื่อเกิดอาการชัดเจนโรคก็อาจลุกลามไปแล้ว การตรวจพบตั้งแต่ระยะแรกๆหรือระยะก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็งย่อมรักษาได้

ปัจจุบันสาเหตุของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ยังไม่ทราบแน่ชัด พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่จะส่งเสริมให้เกิดโรค โดยปัจจัยเสี่ยงอาจเป็นปัจจัยที่เกิดจากภายในที่ควบคุมไม่ได้ และปัจจัยภายนอกที่ควบคุมได้ ปัจจัยภายใน ได้แก่ อายุที่มากขึ้น หรือการที่คนในครอบครัวหลายๆคนมีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ ส่วนปัจจัยภายนอก ได้แก่ ภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน โรคเบาหวาน การกินอาหารบางชนิด เช่น เนื้อแดง คือเนื้อวัวหรือเนื้อหมู เนื้อแปรรูปต่างๆ เช่น ไส้กรอกหรือแฮม การดื่มสุรา และการสูบบุหรี่

อาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ ได้แก่ อาการที่เกิดจากก้อนนั้นมีเลือดออก ถ่ายเป็นเลือด ซีด โลหิตจาง ถ้าก้อนนั้นโตขึ้นจนกดเบียดลำไส้ใหญ่จะทำให้ลำไส้ใหญ่มีขนาดเล็กลง จึงมีอาการปวดท้อง ท้องผูก ท้องผูกสลับท้องเสีย หรือท้องโตขึ้น เนื่องจากมีอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้

อย่างไรก็ตาม อาการต่างๆเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อมะเร็งลุกลามไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่แนะนำให้มีอาการเหล่านี้แล้วค่อยมาตรวจ เนื่องจากเป็นมะเร็งที่พบบ่อย จึงแนะนำให้มาตรวจคัดกรองตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีอาการ เพื่อจะทำให้พบโรคในระยะต้นหรือตอนที่ยังไม่กลายเป็นมะเร็ง ลักษณะนี้จะเหมือนกับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกที่เรามักไปตรวจคัดกรองตอนที่ยังไม่มีอาการ

ปัจจุบันมีวิธีการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่หลักๆ 2 วิธี ซึ่งแต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันคือ

1.การตรวจอุจจาระ เป็นการตรวจหาเลือดออกแฝง มีข้อดีคือสะดวก แต่ความแม่นยำในการตรวจหารอยโรคน้อย ถึงแม้ผลตรวจจะเป็นปรกติแต่ต้องมาตรวจซ้ำทุกปี ถ้าผิดปรกติก็ต้องตรวจต่อด้วยการส่องกล้องลำไส้ใหญ่

2.การตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เป็นการตรวจดูว่าในลำไส้มีก้อนเนื้อหรือติ่งเนื้อหรือไม่ การตรวจวิธีนี้มีความแม่นยำในการตรวจหารอยโรคสูงมาก แต่ต้องใช้เวลาเตรียมตัว ถ้าตรวจแล้วผลเป็นปรกติก็สามารถสบายใจได้ อีก 5-10 ปีข้างหน้าค่อยมาตรวจซ้ำ

การวินิจฉัยจะใช้การตรวจส่องกล้องเป็นหลัก ถ้าส่องกล้องไปแล้วพบรอยโรคที่ผิดปรกติ คุณหมอจะตัดชิ้นเนื้อไปตรวจและทำการวินิจฉัยเพื่อรักษาต่อไป

การรักษา ส่วนใหญ่จะใช้การผ่าตัดเพื่อตัดก้อนเนื้อนั้นออก ส่วนการให้ยาเคมีบำบัดหรือการฉายแสงจะขึ้นอยู่กับระยะและตำแหน่งของโรค

การปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงและป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่มีดังนี้ การออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกิน รับประทานอาหารคลีน อาหารไฟเบอร์ เนื้อสัตว์ควรเป็นเนื้อปลา แต่ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ไม่ได้ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ทั้งหมด อย่างไรก็ตาม การตรวจคัดกรองยังคงเป็นสิ่งสำคัญ แนะนำให้ทุกท่านที่อายุ 50 ปีขึ้นไป ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจคัดกรองโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่


You must be logged in to post a comment Login