วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

เชียร์ “บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลจับไกด์โหด“ผีอาไห่” สาวให้ถึง “ตู้ห่าว”มาเฟียจีนทัวร์ศูนย์เหรียญ

On May 20, 2018

จากกรณีไกด์จีนระเบิดอารมณ์ข่มขี่นักท่องเที่ยวชาวจีน ไล่ให้ลงจากรถอย่างป่าเถื่อน เหตุไม่พอใจลูกทัวร์ซื้อสินค้าหมอนยางพาราน้อยไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้กับร้านค้า ปรากฏเป็นข่าวดังกระหึ่ม ทั้งทางสื่อโซเชียลและสื่อมวลชนที่ประเทศจีน โดยเฉพาะที่เผยแพร่ทาง “เพจอ้ายจง”เวปเพจชื่อดังมีคนเข้าไปดูหลายล้านคน จุดกระแสชาวจีนผิดหวังเสียความรู้สึกต่อการมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นวงกว้าง บางรายถึงขั้นไม่ขอกลับมาเที่ยวประเทศไทอีกอย่างเด็ดขาด สร้างความเสียหายเสียชื่อเสียงให้แก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างมหาศาล

กระทั่งค่ำวันที่ 11พ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง.ผบช.ทท ”บิ๊กโจ๊ก”ได้นำตัวนายลี่ ไห่ (LI HAI) หรือฉายา “ผีอาไห่” อายุ 21 ปี มาแถลงข่าว “บิ๊กโจ๊ก” เปิดเผยว่านายลี่ไห่เป็นไกด์เถื่อนสัญชาติจีน เป็นไกด์พากลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวน 10 คน เดินทางมาเที่ยวไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. โดยมีบริษัท TYT (ไถ่หวันเถิง) จำกัด เอเย่นต์ทัวร์ในไทยเป็นผู้จัดโปรแกรมทัวร์ดังกล่าวให้ และมีนาย ลี่ไห่ เป็นไกด์นำเที่ยว กรุงเทพฯ ระยอง พัทยา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค. ขณะนักท่องเที่ยวกลับขึ้นรถหลังจากพาไปซื้อสินค้าหมอนยางพาราในเมืองพัทยา จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา นาย ลี่ ไห่ เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียน พร้อมจะขอศาลออกหมายจับนายเจริญพร สุขวิถี กับนาง รัตนา หงส์ทอง กรรมการบริษัท TYT (ไถ่หวันเถิง) จำกัด ในข้อกล่าวหาก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว1555789 20180515_100215 S__351027210

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระแสไกด์โหดดังกล่ายังคงร้อนแรงสื่อมวลชนที่ประเทศจีนยังคงติดตามเจาะลึกขุดคุ้ยที่มาที่ไป โดยเฉพาะตามเพจท่องเที่ยวและเพจของกลุ่มมัคคุเทศก์ทั้งไทยและจีน ต่างกล่าวไปทำนองเดียวกันว่า นายลี่ไห่ ไม่เกรงกลัวตำรวจโดยเฉพาะในวันแถลงข่าวปรากฏภายนายลี่ไห่ ยืนประจันหน้าจ้องตาบิ๊กโจ๊กอย่างไม่เกรงกลัวหรือสำนึกในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป เพราะนายลี่ไห ถือดีว่ามีลูกพี่เป็นมาเฟียจีนมีอิทธิพลสูง และการบังคับลูกทัวร์ซื้อสินค้าราคาสูงซึ่งไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เกิดขึ้นเป็นประจำจนเป็นที่เอื้อมระอาแก่สมาคมมัคคุเทศก์เป็นอย่างมาก พากันเรียกร้องให้ “บิ๊กโจ๊ก” ขยายผลหรือนำกำลังเข้าตรวจสอบจะพบว่าหมอนยางพารารวมทั้งสินค้าประเภทอื่นๆที่ซื้อจากร้านค้ากลุ่มนี้เป็นของปลอมของที่ไม่มีคุณภาพและถ้า “บิ๊กโจ๊ก”ติดตามขยายผลจะพบว่า กลุ่มร้านค้าที่ว่านี้เป็นของชาวจีน 100 เปอร์เซนต์เจ้าของคือ “ตู้ห่าว”เปลี่ยนสัญชาติเป็นไทยเพราะแต่งงานกับนายตำรวจหญิงระดับผู้กำกับการมีศักดิ์เป็นหลาน อดีต ผบ.ตร.และหลานสะใภ้ของ รอง.ผบ.ตร.คนหนึ่งใน สตช.มีการกู้ยืมเงิน 1,000 ล้านหยวนหรือ 5,000ล้านบาท จากนายทุนน้ำมันเถื่อนที่เมืองฝูเจิ้ง มณฑลแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นอดีตลูกพี่ของ “ตู้ห่าว”มาลงทุนสร้างร้านค้าหรูหราใหญ่โตและให้บริการเช่ารถรูปแบบเดียวกับกลุ่มโอเอ, สยามเจมส์ ,เจมส์แกลลอรี่ ,กลุ่มวังถลางหรือต้าลี่เก่า และกลุ่มแอ๊ปเปิ้ล กลุ่มไกด์จีนที่รวมตัวกันเปิดร้านค้าเองที่กำลังโด่งดังที่จังหวัดภูเก็ต นอกจากนี้นาย “ตู้ห่าว”หลบหนีหมายจับจากแต้จิ๋วจากเหตุการณ์ลอบวางระเบิดบ้านลูกหนี้น้ำมันเถื่อนที่เฝืองฝูเจี้ยน เข้มแฝงเป็นไกด์เถื่อนในประเทศไทยไทยร่วม 10 ปีจนเห็นช่องทางที่จะทำเงินมหาศาลได้ จึงติดต่อลูกพี่เก่าขอยืมเงินมาลงทุนดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไปว่า ที่น่าสนใจในเพจของกลุ่มมัคคุเทศก์พากันคอมเม้นท์ทำนองว่า “นาย “ลี่ ไห่” คนนี้ไม่ธรรมดาครับ วงการไกด์เรียกว่า “ผีอาไห่” เพราะความโหดร้าย ก้าวร้าว นักเลงโต จนคนในวงการไกด์เบื่อหน่าย ระอาใจ ไม่มีใครอยากมายุ่งเกี่ยวด้วย ชอบคุยโวโอ่อวดว่าไม่กลัวตำรวจ เพราะลูกพี่ของตัวเองจ่ายตำรวจทุกเดือน ลูกพี่ตัวเองเลี้ยงตำรวจ ลูกพี่เป็นญาติกับ ผบ.ตร.อยู่เมืองไทยจะทำอะไรก็ได้ด้วยเหตุนี้ “บิ๊กโจ๊ก”ถึงตัดตอนไม่ขยายผลลงไปถึงร้านค้าของ “ตู้ห่าว”เพราะเกรงบารมีอดีต ผบ.ตร และอดีตรัฐมนตรีพรรคเสื้อแดง ที่สำคัญบรรดามัคคุเทศก์ต่างเชื่อว่าร้านค้ากลุ่มของมาเฟีย “ตู้ห่าว”เข้าข่ายอั้งยี่ซ่องโจรแน่นอน เพราะมีการออกเป็นเอกสารเป็นคำสั่งมีลายเซนตู้ห่าว วางเป็นกฏข้อบังคับไกด์ทุกคนในสังกัดให้บังคับซื้อสินค้า ถ้าทำเป้าได้จะมีค่าตอบแทนที่สูงกว่ากลุ่มอื่น แต่หากไกด์คนใดกระด้างกระเดื่องพานักท่องเที่ยวไปจับจ่ายใช้สอยกับร้านค้านอกสังกัด จะกลั่นแกล้งให้ตำรวจจับ เพราะไกด์ในสังกัด  “ตู้ห่าว” เกือบทั้งหมดเป็นไกด์เถื่อนชาวจีนไม่มีใบอนุญาต นอกจากนี้ในเพจยังมีการลงรูปบัตรสีเหลืองที่ระบุว่าเป็นบัตรเมมเบอร์ประจำตัวไกด์ที่ออกให้โดยร้านค้าที่สังกัดอยู่ เพื่อแสดงถึงการนำลูกทัวร์เข้ามาซื้อสินค้าในกลุ่มบริษัทนั้นๆและเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันยอดเงินค่าน้ำหรือค่าคอมมิชชั่นของไกด์แต่ละคน บัตรดังกล่าวสีเหลืองคล้ายบัตรเครดิตมีรูปถ่ายผีอาไห่ มีตัวอักษรภาษาอังกฤษระบุชื่อ A hai No:MH090 มีโลโก้เป็นอักษร M อยู่กลางช่อมะกอก ด้านบนเป็นรูปมงกุฏ เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า “Modern Gams International”จึงไม่น่ายากที่บิ๊กโจ๊กจะขยายผลไปให้ถึงกลุ่มร้านค้าต้นเหตุ

ขณะที่นายสุวิทย์ บุตรพริ้ง ได้เปิดประเด็นร้อนดังกล่าวในเพจดัง “สืบจากข่าว”ว่า จริงๆแล้วเรื่องนี้ต้องปรบมือให้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก”ของเรา เพราะสามารถติดตามจับกุมนายลี่ไห่ หรือ “ผีอาไห่” ไกด์เถื่อนรายนี้ได้อย่างรวดเร็ว ตนไม่เชื่อว่านายตำรวจหนุ่มอนาคต ผบ.ตร.คนนี้จะยอมอยู่ใต้อิทธิพลของ “ตู้ห่าว” ถึงจะมีศักดิ์เป็นหลานเขยของอดีต ผบ.ตร.ก็ตามถ้าดูจากความมุ่งมั่นที่ บิ๊กโจ๊กประกาศมาตลอดที่จะกวาดล้างขบวนการทัวร์ศูนย์เหรียญให้หมดไปจากแผ่นดิน เชื่อว่าบิ๊กโจ๊กไม่เอาผลงานที่สะสมมาแลกกับการปกป้องมาเฟียกลุ่มนี้ ตนเชื่อมั่นว่ามาเฟียจีนแค่นี้ไม่เป็นอุปสรรคทำให้บิ๊กโจ๊กของเรายอมรามือง่ายๆ

สุวิทย์กล่าวต่อไปว่า พฤติกรรมของไกด์เถื่อนรายนี้ ต้องใช้คำว่า ถ่อยสถุน ต่ำตมมากสร้างความเสียหายแก่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างมหาศาล ตนคิดว่าหนักกว่า ครั้งที่บิ๊กโจ๊กขยายผลจากการจับกุมบริษัททัวร์ฝูอันและซินหยวน จนนำไปสู่การล่มสลายของอาณาจักรโอเอ ครั้งนั้นบิ๊กโจ๊กขยายผลจากการเดินตามเอกสารเช่ารถของบริษัทโอเอทรานสปอร์ต ทำให้เชื่อว่าเป็นเครือข่ายอั้งยี่ซ่องโจรแม้ศาลยกฟ้องไปแล้วก็ตาม  หรือเมื่อครั้งเรื่องเด็กสาวในชุดไทยฝืนยิ้มถ่ายรูปกับนักท่องเที่ยวจีน จนเกิดกระแสโซเชียลจีนทำคลิปออกมาล้อเลียนพฤติกรรมไม่จริงใจของบุคลากรแวดวงท่องเที่ยว เหตุการณ์ทั้งสองครั้งที่ตนพูดถึงยังไม่ถือว่าร้ายแรงหรือสร้างความเสียหายให้วงการท่องเที่ยวเท่าครั้งนี้เทียบกันไม่ติดจริงๆ พฤติกรรมของ “ผีอาไห่”ชัดเจนมากว่ามีการทำกันเป็นขบวนการเหมือนมาเฟีย มีการออกเอกสารเป็นคำสั่งมีลายเซนหัวหน้าแก๊งบีบบังคับนักท่องเที่ยวให้ซื้อสินค้า มีการข่มขู่ คุกคาม แก๊งนี้ปล่อยไว้ไม่ได้อย่างเด็ดขาดครับ

 


You must be logged in to post a comment Login