วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

วิญญาณขาเข้า

On May 10, 2018

คอลัมน์สันติธรรม “วิญญาณขาเข้า”

โดย บรรจง บินกาซัน

(โลกวันนี้วันสุข วันที่11-18 พฤษภาคม 2561)

ปลาตายมีกลิ่นเน่าเหม็น แต่ปลาเป็นยังว่ายน้ำอยู่ มนุษย์ก็ไม่ต่างอะไรไปจากปลา

มนุษย์สังเกตมาตลอดเวลาว่าคนเป็นกับคนตายต่างกันตรงที่คนเป็นมีชีวิต และสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตคือวิญญาณ เมื่อวิญญาณออกจากร่างมนุษย์ไป ร่างกายของมนุษย์ก็รอวันเน่าเปื่อยยุ่ยสลายกลายเป็นธุลีในที่สุด

แต่เมื่อวิญญาณออกจากร่างไปแล้ว สติปัญญาทำให้มนุษย์สงสัยว่าวิญญาณออกจากร่างมนุษย์ไปทางไหน ออกไปอย่างไร ออกจากร่างแล้วไปอยู่ที่ไหน ชะตากรรมของวิญญาณเป็นอย่างไร ไม่เพียงแต่สงสัยเรื่องขาออกเท่านั้น มนุษย์ยังสงสัยย้อนไปอีกว่าวิญญาณคืออะไร วิญญาณเข้ามาในตัวมนุษย์ตั้งแต่เมื่อใด เข้ามาทางไหน และอื่นๆอีกสารพัด

664สันติธรรม

มนุษย์มีความเชื่อในเรื่องการมีอยู่ของวิญญาณมานานแล้วแม้จะมองไม่เห็นวิญญาณด้วยตา ฟาโรห์เชื่อว่าวิญญาณคือชีวิต เขาเชื่อว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างของเขาแล้ว มันจะกลับมาอยู่ในร่างของเขาอีกครั้งหนึ่ง เขาจึงสั่งให้เก็บร่างของเขาและร่างของสัตว์ตัวโปรดที่เขารักไว้ในรูปของมัมมี่

ด้วยความเชื่อเช่นนี้เขาจึงสะสมทรัพย์สมบัติไว้มากมายและซ่อนไว้ในพีระมิดโดยหวังว่าจะกลับมาใช้ในชีวิตหลังความตาย แต่จนทุกวันนี้กว่า 3,000 ปีแล้ว วิญญาณของฟาโรห์ยังไม่กลับมาสู่ร่างของเขา แต่ร่างของเขาและทรัพย์สมบัติที่เขาสะสมไว้ถูกนำมาแสดงให้มนุษย์ได้รู้ว่าเมื่อวิญญาณออกจากร่างมนุษย์ในโลกนี้ไปแล้วมันจะไม่กลับมาอีก

ชาวอาหรับสมัยก่อนหน้าอิสลามไม่มีความรู้และความคิดในเรื่องวิญญาณ แต่ชาวอาหรับเชื่อในสิ่งที่เรียกว่า “ญิน” ซึ่งเป็นสิ่งเร้นลับที่มนุษย์มองไม่เห็น ชาวอาหรับเชื่อว่าความตายของมนุษย์มิต่างอะไรไปจากความตายของสัตว์ เมื่อตายแล้วก็จบกัน ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรหลังความตาย ด้วยความเชื่อเช่นนี้เองที่เป็นพื้นฐานของการทำความชั่วสารพัดรูปแบบ

ในทางตรงข้าม ชาวยิวและชาวคริสเตียนมีความเชื่อในเรื่องวิญญาณและต้องการรู้ว่าวิญญาณคืออะไร เมื่อมุฮัมมัดประกาศตัวเป็นนบีและเริ่มเผยแผ่อิสลาม ชาวยิวดูถูกนบีมุฮัมมัดว่าเป็นชาวอาหรับที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ และต้องการจะทำลายความน่าเชื่อถือของนบีมุฮัมมัด ชาวยิวกลุ่มหนึ่งจึงได้ให้ชาวอาหรับถามนบีมุฮัมมัดว่าวิญญาณคืออะไร เพราะคิดว่าถึงอย่างไรนบีมุฮัมมัดไม่สามารถตอบได้แน่

เมื่อถูกถามเช่นนี้พระเจ้าจึงได้สั่งด้วยการดลใจนบีมุฮัมมัดให้ตอบผู้ถามไปว่า ความรู้เรื่องวิญญาณมนุษย์นั้นอยู่ที่พระเจ้า ท่านมีความรู้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น นั่นหมายความว่าถ้าพระเจ้าไม่ให้ความรู้เรื่องใด มนุษย์จะไม่มีความรู้เรื่องนั้น นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมจนทุกวันนี้มนุษย์ยังไม่สามารถให้คำตอบได้ว่าวิญญาณคืออะไร

อย่างไรก็ตาม ในคัมภีร์กุรอานได้ให้ความรู้แก่เราว่าก่อนอาดัมมนุษย์คนแรกจะถูกสร้างขึ้น วิญญาณของมนุษย์มีอยู่แล้ว ก่อนที่พระเจ้าจะส่งวิญญาณมาอยู่ในร่างของมนุษย์ในโลกนี้ พระองค์ได้ถามวิญญาณเหล่านั้นว่าใครคือพระเจ้าของมัน ดวงวิญญาณทั้งหมดตอบว่าพระองค์คือพระเจ้าของมัน ดังนั้น วิญญาณของมนุษย์จึงรู้จักพระเจ้ามาก่อนแล้ว

เมื่อพระเจ้าสร้างอาดัมจากดิน พระองค์ได้เป่าวิญญาณเข้าไปในดิน ดินจึงเป็นมนุษย์ที่มีชีวิต ดังนั้น เมื่อวิญญาณออกจากร่างไป มนุษย์จึงต้องกลับไปสู่สภาพเดิม นั่นคือดิน

คัมภีร์กุรอานยังให้ความรู้ต่อไปว่า หลังจากอาดัมกับอีฟมายังโลกนี้เพื่อแพร่ขยายเผ่าพันธุ์มนุษย์ กระบวนการกำเนิดมนุษย์มิได้เป็นไปเหมือนตอนพระเจ้าสร้างอาดัม แต่ต้องอาศัยกระบวนการปฏิสนธิของตัวสเปิร์มจากฝ่ายชายกับไข่ของผู้หญิง ในช่วงเวลาที่การปฏิสนธิเป็นก้อนเลือดเกาะอยู่บนผนังมดลูกนี้เองที่พระเจ้าจะส่งวิญญาณมาปฏิสนธิกับก้อนเลือดเพื่อพัฒนาเป็นก้อนเนื้อและเป็นชีวิต

 


You must be logged in to post a comment Login