วันพุธที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567

หาเสียงล่วงหน้า

On April 9, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้านของรัฐบาลทหารคสช.ถูกประกาศใช้อย่างเป็นทางการแล้วภายใต้ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี วงเงินงบประมาณเบื้องต้น 131,519.6 ล้านบาท หากพิจารณาจากแผนจะเห็นว่าไม่มีเรื่องใหม่ ไม่ต่างจากนโยบายพรรคการเมืองที่ขายฝันกันมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา แผนปฏิรูป 11 ด้านจึงเป็นเหมือนนโยบายของรัฐบาลทหารคสช.ที่แถลงหาเสียงเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อขอโอกาสกลับมาสานต่อภารกิจให้สำเร็จลุล่วงอีก 5 ปี หรือหากไม่ได้กลับมาก็ยังมีแต้มต่อ เพราะแผนปฏิรูปเป็นนโยบายภาคบังคับ หลังการเลือกตั้งไม่ว่าใครได้ครองอำนาจก็ต้องทำตามบิดพลิ้วไม่ได้ ไม่ได้ลงมือทำเองแต่ยังได้เครดิตในฐานะผู้คิดเข้าตำรา “คสช.คิด พรรคการเมืองทำ”

เผลอแป๊บเดียวอีกไม่กี่วันคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็จะนั่งทับอำนาจครบ 4 ปีบริบูรณ์นับแต่เข้ายึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือนมาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

ก่อนหน้านี้รัฐบาลทหารคสช.ตั้งท่าจะแถลงผลการดำเนินการในช่วงที่ผ่านมา แต่เรื่องเงียบหายไป แต่เนื่องในโอกาสครบ 4 ปีบริบูรณ์ของการยึดอำนาจต้องมีการแถลงความคืบหน้าผลดำเนินงานเรื่องต่างๆให้ประชาชนได้รับทราบ โดยมีพล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี เป็นแม่งาน ส่วนจะใช้วิธีการอย่างไร แถลงเมื่อไหร่ยังไม่มีกำหนดการออกมาชัดเจน

แต่ที่ชัดเจนแน่นอนแล้วคือการเชิญพรรคการเมืองมาหารือเพื่อกำหนดวันเลือกตั้งที่แต่เดิมกำหนดไว้เดือนมิถุนายน ล่าสุดอาจมีอันต้องเลื่อนออกไปก่อนเพื่อรอฟังผลการตีความร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) จากศาลรัฐธรรมนูญก่อน

ที่ชัดเจนแล้วอีกเรื่องหนึ่งคือแผนการปฏิรูปประเทศ 11 ด้าน ที่ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้วเมื่อวันที่ 6 เมษายนที่ผ่านมา

แผนปฏิรูปประเทศ 11 ด้านนี้ถูกกำหนดระยะเวลาดำเนินการเอาไว้ 5 ปี กำหนดวงเงินงบประมาณเอาไว้ 131,519.6 ล้านบาท ดังนี้

1.แผนปฏิรูปประเทศด้านการเมือง ใช้งบประมาณ 221.85 ล้านบาท เน้นการสร้างวัฒนธรรมการเมือง เพิ่มหลักสูตรบังคับในสถาบันการศึกษาเรื่องสร้างวัฒนธรรมการเมืองในระบอบประชาธิปไตย จัดหลักสูตรอบรมผู้นำท้องถิ่น ฯลฯ

2.แผนปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ใช้งบประมาณ 33,408.15 ล้านบาท เน้นยกระดับบริการภาครัฐให้ทันสมัย และโปร่งใส ให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับความสะดวกจากการใช้บริการภาครัฐ

3.แผนปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ใช้งบประมาณเบื้องต้น 991 ล้านบาท และกำหนดใช้งบต่อปี 528 ล้านบาท ในระยะ 5 ปี รวมเป็นเงิน 2,640 บาท เน้นปรับปรุงกฎหมายให้มีความทันสมัย สร้างความเป็นธรรมลดการเหลื่อมล้ำ

4. แผนปฏิรูปประเทศด้านกระบวนการยุติธรรม งบประมาณ 1,990.60 ล้านบาท เน้นเพิ่มประสิทธิภาพหน่วยงานตรวจสอบ สร้างช่องทางตรวจสอบใหม่ๆ พัฒนามาตรฐานคุ้มครองผู้เสียหาย

5.แผนปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ กำหนดแผนดำเนินการไว้ 15 แผนวงเงินมากกว่า 22,413 ล้านบาท เน้นพัฒนาประสิทธิภาพด้านการแข่งขัน และสร้างระบบการค้าเสรีที่เป็นธรรม

6. แผนปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วงเงินประมาณ 34,766 ล้านบาท เน้นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่ป่า ที่ดิน รวมถึงส่งเสริมเกษตรอินทรีย์

7. แผนปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข งบประมาณ 13,574 ล้านบาท เน้นการปรับระบบบริหารจัดการด้านสาธารณสุข เพิ่มจำนวนบุคคลากรด้านสาธารณสุข นำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาใช้เพื่อป้องกันและรักษาโรค

8. แผนปฏิรูปประเทศด้านสื่อสารมวลชนและเทคโนโลยีสารสนเทศ ไม่ระบุตัวเลขงบประมาณที่ชัดเจน โดยให้ใช้งบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเงินสนับสนุนจาภาคเอกชน เน้นสร้างองค์กรสื่อในรูปแบบประชารัฐ

9. แผนปฏิรูปประเทศด้านสังคม งบประมาณ 12,545 ล้านบาทบวกกับงบประมาณปรกติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เน้นการสร้างจิตอาสาประชารัฐ เพิ่มความรู้ในระดับชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ

10. แผนปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน กำหนดแผนดำเนินการไว้ 17 ด้าน ไม่ระบุวงเงินงบประมาณที่ชัดเจน โดยให้ใช้งบประมาณปรกติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

11.แผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ประมาณ 8,970 ล้านบาท โดยดึงมาจากประมาณปรกติ และงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งปีละไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของงบประมาณของท้องถิ่น เน้นให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการคอร์รัปชันตั้งสถาบันวิชาการต่อต้านทุจริตประพฤติมิชอบที่เป็นอิสระและประชาชนมีส่วนร่วม สร้างพิพิธภัณฑ์ต้านทุจริต 5 แห่งในภูมิภาค สร้างเครือข่ายต้านทุจริตในทุกจังหวัดๆ ละไม่น้อยกว่า 5 กลุ่ม

หากพิจารณาจากแผนปฏิรูปประเทศทั้ง 11 ด้านที่ออกมาจะเห็นว่าไม่มีเรื่องใหม่ และไม่มีอะไรต่างไปจากนโยบายของพรรคการเมืองที่พูดกันมาตลอดในช่วงเวลาที่ผ่านมา

แผนปฏิรูป 11 ด้านจึงไม่ต่างอะไรไปจากแนวนโยบายของรัฐบาลทหารคสช.ที่แถลงหาเสียงเอาไว้ล่วงหน้า เพื่อขอโอกาสกลับมาสานต่อภารกิจให้สำเร็จลุล่วงอีก 5 ปี หรือหากไม่ได้กลับมาสานต่อภารกิจก็ยังมีแต้มต่อ เพราะแผนปฏิรูปเป็นนโยบายภาคบังคับ หลังการเลือกตั้งไม่ว่าใครได้ครองอำนาจก็ต้องทำตามนโยบาย 11 ด้านนี้บิดพลิ้วไม่ได้

ถึงไม่ได้ลงมือทำเองแต่ยังได้เครดิตที่คิดนโยบายนี้ขึ้นมาเข้าตำรา “คสช.คิด พรรคการเมืองทำ”


You must be logged in to post a comment Login