วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

เปิดตัวโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน

On April 5, 2018

“โรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ” แห่งแรกในภูมิภาคอาเซียน ตอบโจทย์พ่อแม่รุ่นใหม่ ที่ส่งลูกเข้าโรงเรียนอินเตอร์ โดดเด่นวิชาการ สร้างสมดุลด้านสุขภาพและอารมณ์ ก้าวสู่มาตรฐานการศึกษาระดับโลกพร้อมเปิดสอนระดับอนุบาลถึง Year 6 เริ่มสิงหาคมศกนี้

ได้ฤกษ์เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปแล้ว สำหรับโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ โรงเรียนชั้นนำด้านการศึกษาจากประเทศอังกฤษ โดยมีดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ ประธานกรรมการโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯและมร.คริสโตเฟอร์ นิโคลส์ ครูใหญ่ร่วมให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติ และเหล่าเซเลบริตี้ที่พร้อมใจกันมาร่วมงานอย่างอบอุ่น ณบริเวณชั้น G ศูนย์การค้า ดิ เอ็มโพเรี่ยม

ภายในงานนี้ทุกท่านต่างได้สัมผัสกับบรรยากาศจำลองของโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ แห่งแรก พร้อมสนุกสนานไปกับกิจกรรม และนิทรรศการที่สะท้อนถึงปรัชญา 5 I อันได้แก่ Inspired, Intellectual, Independent, Individual และ Inclusive ซึ่งเป็นหลักการที่ใช้กับครูและนักเรียนที่จะช่วยเปิดมุมมองของการศึกษาในศตวรรษที่ 21

โดย ดร.ดาริกา ลัทธพิพัฒน์ ประธานกรรมการ ร.ร.นานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ เปิดเผยว่า ตลาดโรงเรียนอินเตอร์ของโลกเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดย 20 ปีที่แล้วมี 1,000 กว่าแห่ง แต่เมื่อสิ้นเดือนธ.ค. 2559 เพิ่มขึ้นเป็น 8,600 กว่าแห่ง โรงเรียนอินเตอร์ที่เปิดใหม่ส่วนใหญ่เป็นประเทศแถบเอเชียและสำหรับประเทศไทย อัตราการเติบโตของโรงเรียนอินเตอร์อยู่ที่ปีละ 5% ซึ่งถือเป็นแนวโน้มที่ดี และแสดงเห็นถึงศักยภาพและโอกาสในการเติบโตได้อีก โดยทางเวลลิงตันจากอังกฤษได้ประเมินแล้วว่า เรามีความพร้อมที่จะนำหลักสูตรโรงเรียนเวลลิงตันคอลเลจมาใช้ในเมืองไทย ซึ่งพิจารณาจากสถานที่ สิ่งแวดล้อม ตลอดจนกลุ่มเป้าหมาย   รวมถึงมีความเหมาะสมในการเริ่มต้นมีโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจแห่งแรกของภูมิภาคอาเซียน

“10 ปีที่ผ่านจำนวนเด็กที่เข้าเรียนอินเตอร์ในไทยเพิ่มขึ้น 5-6% ทุกปี แต่โรงเรียนอินเตอร์ขนาดใหญ่ที่รองรับนักเรียนได้  1,500 คนยังมีน้อย เราจึงมองหาแบรนด์ต่างประเทศมาเปิดในไทย จึงได้เจอกับเวลลิงตัน ซึ่งติดท็อป 5 ของโรงเรียนในอังกฤษ เราเห็นว่าที่นี่ไม่ได้มุ่งวิชาการอย่างเดียว แต่เน้นเรื่องดุลยภาพ (Wellness) มาก อีกทั้งเวลลิงตันมีหน่วยงานที่ดูแลด้านการดำเนินงานในต่างประเทศ (International Business Unit) ที่แข็งแรง และมีระเบียบวิธีปฏิบัติในเรื่องต่างๆ ที่ชัดเจนและโดดเด่น ทำให้เรามั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จได้เหมือนโรงเรียนแม่”  ผู้บริหารสาว กล่าว

สำหรับรูปแบบและแนวคิดการจัดหลักสูตรและการจัดการเรียนการสอนจาก เวลลิงตัน คอลเลจ ประเทศอังกฤษนั้น มีความโดดเด่นทางด้านวิชาการ และเน้นการสร้างแรงบันดาลใจ  การมีสติปัญญาในการคิดวิเคราะห์ ความสามารถในการพึ่งพาตัวเอง ในการเผชิญกับความท้าทายทั้งในการเรียน และดำรงชีวิตในสังคม การรู้จักตนเอง และการเป็นผู้ที่มีความใส่ใจต่อผู้อื่นสังคมและโลก ซึ่งเป็นหลักสูตรที่สอดคล้องกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21

มร.คริสโตเฟอร์ นิโคลส์ ครูใหญ่ ร.ร.นานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ กรุงเทพฯ ได้กล่าวภายในงานว่า“กรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีโรงเรียนอินเตอร์ ระบบของอังกฤษที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก เรามีความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ของเรา แต่โรงเรียนของเราไม่ได้เน้นแค่เพียงเรื่องของประวัติศาสตร์เท่านั้น เรายังเน้นเรื่องของปัจจุบัน และอนาคตด้วย เด็กที่นี่จะเติบโตอย่างมีความเฉลียวฉลาดมีแรงบันดาลใจ และพึ่งพาตัวเองได้ มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักเคารพ และให้เกียรติผู้อื่นซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ”

ด้านคุณพ่อคุณแม่คนดังที่มาร่วมงาน ต่างร่วมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการมาของโรงเรียนนานาชาติเวลลิงตันคอลเลจ รวมไปถึงหลักในการเลือกโรงเรียนให้กับคุณลูก  โดยเฉพาะ แจ๊ค- ปริญญา รุ่นประพันธ์ Director of Admission and Marketing ของ Wellington College International School Bangkok กล่าวว่า “ผมรู้สึกดีใจ และตื่นเต้นไปกับครอบครัวอื่นๆ ที่มีโรงเรียนที่มีชื่อเสียงขนาดนี้เข้ามาเปิดในประเทศไทย เวลลิงตันเป็นโรงเรียนที่มีหลักสูตร และการเรียนการสอนที่ครบครัน คือไม่ได้เน้นแต่เพียงด้านวิชาการเท่านั้น แต่ยังเอาใจใส่ในด้านของกิจกรรมที่จะมีส่วนช่วยในการดึงเอาความสามารถของเด็กแต่ละคนออกมาได้

สิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องคิด เมื่อจะเลือกโรงเรียนให้ลูก ผมว่าเราต้องนึกภาพลูกของเราเมื่อจบออกมาจากโรงเรียนนั้นๆ แล้วเขาจะเป็นคนแบบไหน ถ้าเปรียบเทียบการส่งลูกเข้าโรงเรียน เหมือนกับการลงทุน เราก็ต้องดูว่าลูกเราจะได้อะไรเมื่อจบออกมา อย่างที่เวลลิงตันนี่คือไม่ว่าจะเป็นสถานที่ครู หรือหลักสูตร ผมเชื่อมั่นว่าที่นี่ไม่แพ้ใครเลย ที่สำคัญเขาเพิ่งได้รับรางวัล Best Boarding School มาหมาดๆ เมื่อ 3 อาทิตย์ที่แล้วนี่เอง”

ขณะที่นักแสดงพิธีกรหนุ่มอารมณ์ดีและศิษย์เก่าเวลลิงตัน ประเทศอังกฤษอย่าง มิค-บรมวุฒิ หิรัณยัษฐิติ กล่าวว่า“ดีใจมากครับที่เวลลิงตันมาเปิดในเมืองไทย เพราะเป็นโรงเรียนที่เราเรียนมาตั้งแต่เด็ก คืออยากให้คนอื่นเข้าใจความรู้สึกของเราซึ่งเป็นศิษย์เก่าอยู่ในโรงเรียนที่มีเลือดรักโรงเรียนแบบแรงๆ (หัวเราะ) ตอนนั้นมิคถือเป็นคนไทยคนแรกที่เข้าไปเรียนที่เวลลิงตัน แล้วมิคพูดได้อย่างเต็มปากเลยว่าเวลลิงตันทำให้มิคเป็นมิคอย่างทุกวันนี้ดังนั้นก็ถือว่าโชคดีมากที่คุณพ่อ คุณแม่จะไม่ต้องส่งลูกไปเรียนไกลๆ เหมือนตอนที่คุณพ่อ คุณแม่ส่งมิคไปอังกฤษ สมัยก่อนที่มิคเรียนอยู่ ชื่อเสียงของโรงเรียนและหลักสูตรต่างๆ ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว ยิ่งมาตอนนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะทุกอย่างมันพัฒนามาไกลขึ้นอีกเยอะมาก

ถ้าถามมิคคือใจมิคก็อยากให้ลูกได้เป็นศิษย์เก่าเหมือนเรา แต่ทั้งหมดทั้งมวลคงต้องให้ลูกเป็นคนเลือก สมัยของมิค คือคุณพ่อสกรีนโรงเรียนไว้ให้แล้ว 3 แห่ง จากนั้นก็พามิคไปดู แล้วมิคก็จิ้มเลยว่ามิคจะเรียนที่นี่ เพราะมิคชอบที่นี่ที่สุด ก็คงเหมือนกัน เมื่อถึงเวลาที่ปริมจะต้องไปเรียนปีหน้ามิคคงเลือกโรงเรียนไว้ให้สัก 2-3 แห่งจากนั้นก็จะพาปริมไปดู และให้ปริมเป็นคนเลือกครับแต่ยังไงก็ต้องเป็นโรงเรียนอังกฤษ เพราะตัวเราก็เรียนระบบอังกฤษมา ก็อยากให้ลูกได้เรียนในระบบอังกฤษเหมือนเรา และมิคคงไม่คาดหวังอะไรจากทางโรงเรียน เพราะมิคเชื่อว่าถ้าน้องปริมเลือกเรียนที่นี่ เขาก็จะได้สิ่งดีๆ อย่างที่มิคเคยได้รับครับ”

ปิดท้ายกับมุก- เพลินจันทร์ วิญญรัตน์ นักออกแบบชื่อดังและคุณแม่ของเด็กชายแฝด 3 น้องทริป น้องเทรย์และน้องทรอย กล่าวว่า  “จริงๆ มุกรู้จักโรงเรียนนี้มาตั้งแต่สมัยที่เรียนอยู่ที่อังกฤษ เป็นโรงเรียนที่ดี และคนที่เรียนจบจากที่นี่ก็จะได้เข้าไปเรียนต่อในที่ดีๆ ได้ คือรู้จักมานานแล้ว แล้วตอนนี้พอมาเปิดที่เมืองไทยก็รู้สึกว่า โชคดีมากๆมุกเชื่อว่าสำหรับการเลือกโรงเรียนให้ลูกๆ นั้นเป็นเรื่องที่ยากมากจริงๆ อย่างมุกมีแฝด 3 ตอนนี้อายุ 9 ขวบ ซึ่งทั้งสามคนนี้ไม่เหมือนกันเลย มีความชอบ และทักษะที่ต่างกัน จึงเป็นเรื่องยากที่จะมองหาโรงเรียนที่ลงตัวสำหรับทั้งสามคน

หลักในการเลือกโรงเรียนให้ลูกจริงๆ แล้วมุกจะมองจากคนที่เคยจบมาจากโรงเรียนนั้นๆ ว่าเขาเรียนจบออกมาแล้วเป็นคนดีรึเปล่า คำว่าประสบความสำเร็จของมุกไม่จำเป็นต้องเรียนจบมาแล้วได้เงินเดือนหลายแสน หรือได้เข้าทำงานในบริษัทที่โด่งดัง อย่างแรกเลยคือต้องเป็นคนมีความคิดและมีจิตใจที่ดี คือการศึกษาควรจะช่วยหล่อหลอมพื้นฐานตรงส่วนนี้ด้วยมุกว่าสิ่งที่คนเป็นพ่อ เป็นแม่ทุกคนต้องการจากโรงเรียนก็คือ อยากให้เขาดูแลลูกเราอย่างใกล้ชิด  ตัวมุกเองก็เป็นคนที่ใกล้ชิดกับครูที่โรงเรียน และก็ลูกมากที่เวลลิงตัน เขามีสอนหลักสูตรที่เรียกว่า Well Being ซึ่งตรงนี้มุกว่ามันสำคัญมากๆ มันคือการสอนให้คนเข้าไปอยู่ในโลกกว้าง รู้จักการแบ่งปัน รู้จักสิ่งรอบตัวที่อยู่นอกตำรา”

s01

s02


You must be logged in to post a comment Login