วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

บลจ.กสิกรไทยเตรียมจ่ายเงินปันผลพร้อมลดทุนกองทุนABPIFลูกค้ารอรับเงินพร้อมกัน30มี.ค.นี้

On March 29, 2018

นายวิทวัส อัจฉริยวนิช รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า บลจ.กสิกรไทย เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ     บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ครั้งที่ 9 สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2560 – 31 ธันวาคม  2560 ให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนวันที่ 19 มีนาคม 2561 (XD Date) ในอัตรา 0.6160 บาทต่อหน่วย พร้อมกันนี้กองทุนได้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนของกองทุนรวมครั้งที่ 9 และจะจ่ายคืนผลตอบแทนส่วนลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ในอัตรา 0.3650 บาทต่อหน่วย ทำให้ผู้ลงทุนจะได้รับทั้งในส่วนเงินปันผลและเงินลดทุน รวมเป็นอัตรา 0.9810 บาทต่อหน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 588.60 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่นักลงทุนได้รับโดยเฉลี่ยที่ 17.53% ของมูลค่าที่ตราไว้ (PAR)  และหลังจากการลดทุนครั้งนี้ มูลค่าทุนจดทะเบียนของกองทุนจะอยู่ที่ 6.6071 บาทต่อหน่วย   โดยกองทุน ABPIF มีกำหนดจ่ายเงินปันผลพร้อมคืนเงินลดทุนในวันที่  30 มีนาคม 2561

“กองทุน ABPIF เป็นการลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร ทั้งนี้ ในรอบผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ที่ผ่านมา โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ ทำให้ในรอบบัญชีที่ผ่านมา  (1 กรกฎาคม 2560 – 31 ธันวาคม  2560) กองทุน ABPIF มีกำไรสุทธิก่อนการปรับปรุงด้วยมูลค่าทรัพย์สินคิดเป็นมูลค่า 209.14 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 0.3486 บาทต่อหน่วยลงทุน ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 9 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 3.5210 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ประมาณ 9.02% ต่อปี

สำหรับการดำเนินงานในปี 2561 กองทุน ABPIF ยังคงคาดการณ์ว่าสามารถสร้างผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจได้อย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นของภาคอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ ตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั้งของภายในประเทศและของโลกที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ร้อยละ 3.6 – 4.6 ตามการประมาณการของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แต่ปัจจัยภายนอกที่อาจกระทบต่อผลการดำเนินงานในปี 2561 ได้แก่ ต้นทุนก๊าซธรรมชาติ ซึ่งแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของราคาตลาด และมีความผันผวนค่อนข้างสูง จึงเป็นตัวแปรที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด”

 


You must be logged in to post a comment Login