วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

คนเร่ร่อนมีค่าน้อยกว่าหมาแมว!

On March 22, 2018

คอลัมน์:โลกอสังหา “คนเร่ร่อนมีค่าน้อยกว่า!” โดย ดร.โสภณ พรโชคชัย (โลกวันนี้วันสุข ฉบับที่ 657 วันที่ 23-30 มีนาคม)

“คนเร่ร่อน” เป็นบุคคลที่หลายคนเมิน คนบางส่วนในสังคมเห็นความสำคัญของหมาแมวซึ่งเป็นสัตว์เดรัจฉานมากกว่าคนหรือมนุษย์ด้วยกันเอง ลองดูในกล่องรับบริจาคช่วยคนเร่ร่อนยังได้รับเงินบริจาคน้อยกว่ากล่องช่วยหมาแมวเสียอีก

ที่ว่าคนเร่ร่อนมีค่าน้อยกว่าหมาแมวนั้น ผมเห็นจากคนรู้จักอดีตนักศึกษาเดือนตุลาที่เคยคิดสละชีพและอนาคตเพื่อความเป็นธรรมในสังคมและเพื่อผู้ยากไร้เมื่อ 40 ปีก่อน รายหนึ่งหมาที่เลี้ยงไว้แก่ตายไป ยังความเศร้าโศกแก่สหายท่านนี้นานนับเดือน สุดท้ายก็ได้หมาตัวใหม่มาปลอบโยน หมาของสหายอีกรายหนึ่งป่วยเป็นมะเร็ง (ระยะสุดท้าย) ยังความกังวลยิ่งแก่คนทั้งครอบครัว ลูกสาวถึงขนาดลาพักร้อนมาดูแลเพื่อส่งหมาขึ้นสวรรค์หรือไปสู่ภพภูมิที่ดีกว่า

คนเร่ร่อน

อันที่จริงเรื่องความรักความผูกพันที่อยู่ร่วมกันมาระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยงที่ช่วยบำบัดความเหงาให้เราที่ต่างก็ให้ความรักแก่กันและกันเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แม้แต่แมงมุม งู หรือสารพัดสัตว์เดรัจฉานที่คนเลี้ยงไว้ คนเลี้ยงก็ยังมีความผูกพัน อีกอย่างถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลที่เราไม่พึงไปก้าวล่วง แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นหมาข้างถนน และยิ่งเป็นหมาขี้เรื้อนด้วยแล้ว คนเราคงเมิน คนจนที่อาศัยหลับนอนอยู่ข้างถนนบางครั้งก็ถูกมองไร้ค่า ปล่อยให้ตายอย่างอนาถเหมือนหมาข้างถนนเหมือนกัน

บางคนอาจเข้าใจผิดว่าคนเร่ร่อนเป็นคนขี้เกียจ มีมือเท้าแต่มาเร่ร่อนในเมืองแล้วขอทานเขากิน อันที่จริงขอทานกับคนเร่ร่อนไม่เหมือนกัน ขอทานเป็นอาชีพที่ทำกันทุกวันเช่นอาชีพอื่นแต่เป็นอาชีพที่ผิดกฎหมาย บ้างก็นั่งสามล้อ แท็กซี่ จากที่พักมาขอทาน บ้างก็ทำเป็นขบวนการ แถมด้วยขอทานจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่ร้ายกว่านั้นคือเป็นการค้ามนุษย์ อาชญากรรมตัดแขนขาเด็กให้พิการ ทรมานเด็กและทารกโดยอุ้มมานั่งขอทานทั้งที่เคยมีการตรวจดีเอ็นเอแล้ว พบว่าไม่ใช่แม่ลูกกัน

ในขณะที่ขอทานมีรายได้เป็นเงินวันละ 700-1,000 บาท ซึ่งมากกว่าแท็กซี่ สามล้อ จักรยานยนต์รับจ้าง หรือแม่ค้าหาบเร่ที่อาจได้วันละ 300-700 บาท คนเร่ร่อนนั้นมักไม่ได้ขอใครกิน แต่หาของเก่า เก็บขยะขาย หรือบ้างก็อาจได้รับการแบ่งปันอาหารจากผู้พบเห็นบ้าง พวกนี้ค่ำไหนนอนนั่นหรือปักหลักนอนตามทางเท้าหรือซอกหลืบในสังคมโดยไม่ได้ไปเบียดเบียนบุกรุกสร้างบ้าน สร้างสลัมเป็นของตนเอง

คนเร่ร่อนก็เป็นคน มีศักดิ์ศรีเป็นมนุษย์เหมือนเราท่าน คนเร่ร่อนไม่ใช่ขอทานมืออาชีพที่ลวงเราด้วยความน่าสงสาร แทบทุกคนพยายามประกอบอาชีพหาของเก่าจากถังขยะมาขาย พวกเขาถูกผลักออกจากสังคมปรกติจนต้องมานอนอย่างหมาข้างถนน เราท่านคนปรกติคงนอนอยู่ข้างถนนแบบนี้ไม่ได้แม้สักคืนหนึ่ง บางคนที่นอนข้างถนนนานวันเข้าก็เลยเพี้ยนหรือบ้าไปบ้างแหละ บ้างก็นั่งพูดพึมพำ บ้างก็อาจดูน่ากลัว จึงยิ่งถูกสังคมตั้งข้อรังเกียจไปอีก

คนเรามีความรักต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสัตว์อยู่แล้ว แต่หลายคนไม่เคยสัมผัสเลย ไม่เข้าใจคนเร่ร่อนว่าเขาก็เหมือนอย่างเราๆท่านๆนี่แหละ เพียงแต่มีวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ในสังคม ผมจึงขอเชิญชวนท่านแบ่งปันความรักจากสัตว์เลี้ยงมาสู่คนเร่ร่อนบ้าง เช่น การช่วยแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและระยะยาว ได้แก่

1.การเลี้ยงอาหารให้คนเร่ร่อนได้รับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะและอร่อยสักมื้อ

2.ให้ปัจจัยการยังชีพเป็นถุงยังชีพ รวมทั้งการช่วยรักษาพยาบาลเบื้องต้น

3.การช่วยเหลือส่งไปรับการรักษาพยาบาล ถ้าเป็นกรณีจำเป็นก็อาจส่งไปสถานสงเคราะห์คนชรา สงเคราะห์เด็ก หรือสงเคราะห์ผู้ค้าบริการทางเพศ

4.การจัดหาที่อยู่ชั่วคราวหรืองานเพื่อเตรียมให้พวกเขากลับสู่สังคมปรกติ

5.การส่งกลับไปหาครอบครัวในชนบท เป็นต้น

6.การส่งเสริมบ่มเพาะให้เขามีอาชีพ เพื่อให้เขารู้สึกว่ามีคุณค่า ไม่เป็นภาระของสังคม และกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของสังคม

มูลนิธิอิสรชนได้พยายามช่วยเหลือคนเร่ร่อนมานับสิบปี และยังทำการสำรวจวิจัย จัดทำสถิติ ให้ข้อมูล เผยแพร่ความรู้ต่อสังคมเพื่อแก้ปัญหานี้อีกด้วย มีโอกาสมาร่วมช่วยคนเร่ร่อนกันนะครับ หากท่านใดต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรืออยากทำความเข้าใจคนเร่ร่อนหรือรู้จักมูลนิธิอิสรชนมากกว่านี้ ติดต่อได้ที่ www.issarachon.org หรือ www.facebook.com/issarachonfound โทร.0-9810-6739 (คุณอัจฉรา)


You must be logged in to post a comment Login