วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ฝึกเด็กทำงาน / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On March 19, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนทุกปี โรงเรียนปิดเทอมใหญ่ เด็กนักเรียนจึงควรจะหารายได้ช่วยพ่อแม่ หรือหางานที่ช่วยตัวเองมีความรู้มีประสบการณ์ อย่างเด็กผู้หญิงคนหนึ่งไปตีระนาดเอกริมฟุตบาธย่านห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง  พร้อมเขียนป้ายว่า หนูอยากเรียนต่อ

เด็กผู้หญิงคนนี้ไม่ต้องการเป็นลูกชาวเกาะ เกาะพ่อแม่กินและใช้ รู้จักหารายได้เสริมแล้วยังเป็นการเสริมทักษะให้กับตัวเองอีก เอาความเก่งด้านดนตรีมาเล่น เหมือนเด็กฝรั่งที่ซัมเมอร์ช่วงปิดเทอมจะไปรับจ้างทำงานตามร้านอาหาร ตามห้างเพื่อหารายได้ ไม่ใช่เอาแต่เล่นเกม บิดมอเตอร์ไซค์ ตายก็เยอะ เจ็บก็เยอะ

ทุกปีที่วัดสวนแก้วก็จะมีเด็ก 300-400 คนทำงานหารายได้พิเศษ ปีนี้ก็ตั้งงบประมาณไว้ 4-5 ล้านบาทให้เด็กทำงาน ได้ทั้งเงิน ทักษะและเรียนรู้คุณธรรม เพราะวัดมีการอบรมธรรมะและยังมีรางวัลหากตอบคำถามถูก ดังนั้นใครอ่านคอลัมน์นี้ก็ช่วยบอกต่อๆกันไปด้วยว่า เด็กหรือพ่อแม่ที่อยากให้ลูกรู้จักทำงาน มีรายได้และมีคุณธรรมด้วย โดยเฉพาะครอบครัวที่ขัดสนให้ส่งลูกมาฝึกงาน ฝึกอาชีพที่วัดได้เลย พระที่วัดยังแนะนำสั่งสอนให้อีก จนพระที่วัดไม่รับงานนิมนต์ต่างๆ

อาตมาปีหนึ่งก็จะรับแค่ 2-3 งาน รับเฉพาะที่สนิทกันมากๆ จึงขอฝากด้วยว่าอย่านิมนต์อาตมาไปงานสวดหรืองานฉลองต่างๆเลย อย่างขึ้นบ้านใหม่มีเยอะมาก เอาเวลามาแนะนำสั่งสอนเด็กให้ฉลาดให้มีคุณธรรมดีกว่า

รัฐบาลก็อย่าถือคิดว่าเด็กต้องเรียนในห้องเรียนสี่เหลี่ยมเท่านั้น เด็กต้องเรียนรู้ประสบการณ์จากภายนอกด้วย  พระพุทธเจ้าตรัสว่า “ปัญญาย่อมเกิดแก่คนผู้มั่นประกอบ ปัญญาย่อมเกิดแก่คนผู้เพ็งพินิจลิขิตของตนในกิจการงานที่ทำ” อย่างกิจกรรมจิตอาสา จิตสาธารณะที่เป็นการบำเพ็ญตนเพื่อทำประโยชน์ต่อส่วนรวม

อย่างมาทำงานที่วัดก็ให้เขาทำด้วยความสมัครใจ ไม่ใช่บังคับขู่เข็ญ จะอยู่ 7 วัน 10 วันก็ได้ ให้เขาชิมรสการออกห่างจากอกพ่อแม่ ไม่เป็นลูกไก่ที่ต้องกกตลอดเวลา แม้แต่ไก่ยังเลี้ยงลูกไก่แค่ 6 เดือนก็ให้หากินเองแล้ว แต่คนเราเลี้ยงมา 10 กว่าปี ยังไม่รู้จักคุ้ยเขี่ยหากินเองเลย ถ้าพ่อแม่ล้มหายตายจาก เขาจะมึนจะงง ไม่รู้จักช่วยตัวเอง จึงขอฝากไว้ทั้งรัฐบาล ประชาชน บริษัทห้างร้านต่างๆช่วยรับเด็กเข้าทำงาน แต่อย่าใช้งานหนักเกินไป ให้เขาพอทำได้ทำไหว อย่างที่วัดสวนแก้วถ้าเด็กตัวเล็กๆ ก็ให้เหมาเลย เช่น เก็บใบใผ่ได้กระสอบละ 3 บาท คนหนึ่งถือกระสอบ อีกคนกรอกใส่  100 กระสอบก็ได้ 300 บาท ถ้าขี้เกียจได้ 50 กระสอบก็ยังได้ 150 บาท ขี้เกียจมากๆก็อาจได้แค่ 10 กระสอบก็ได้ 30 บาท อย่างนี้ไม่ใช่ทารุณเด็ก แต่เด็กสมัครใจและเราก็อบรมสั่งสอนเขาด้วย

เด็กบางคนทำแล้วก็มีความสุข กลับไปบ้านก็รู้จักช่วยพ่อแม่ แล้วยังเป็นการออกกำลังกายด้วย โตขึ้นก็จะไม่เป็นคนขี้เกียจทำงาน หรือไปจี้ปล้นลักขโมยเขากิน อย่างที่วัดให้เหมาทำงาน ก็เพื่อให้รู้จักเป็นผู้รับเหมาตั้งแต่เด็ก  รู้จัดคิด ผู้ใหญ่ใจดีเห็นกรอกน้ำ กวาดวัด เขาก็ให้เงินเด็ก 10-20 บาท บางวันได้เป็นพัน เด็กตัวเล็กๆแค่ป.5 ป.6  บางคนเก็บได้ 50,000-60,000 บาท

เพราะฉะนั้นผู้ใหญ่ก็อย่ามัวโง่อยู่เลย ช่วยกันทำให้เด็กรู้จักการทำงานและเรียนรู้ด้วยตัวเอง ให้เขามีความสุขจากเงินที่เขาหาได้เอง จากเหงื่อไคลเขาเอง อย่าไปคิดสงสารแบบเมตตาอวิชชากันเกินไป ต้องเมตตาแบบมีปัญญากันบ้าง

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login