วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ยักษ์ไร้เงา

On March 13, 2018

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

แม้น้องชาย “กำนันสุเทพ” จะยังมุ่งมั่นตั้งใจแจ้งเกิดพรรค กปปส. แต่ถึงตั้งได้ก็คงมีสภาพไม่ต่างจากพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตบนเส้นทางการเมือง กลายเป็นยักษ์ไร้เงา ไม่มีตัวตน เพราะอดีต ส.ส. ที่เคยร่วมเป็นแกนนำเป่านกหวีดไม่กล้าเสี่ยงออกจากสังกัดเดิมมาร่วมกันสร้างบ้านใหม่ เนื่องจากประเมินรอบด้านแล้วเห็นว่ามีโอกาสได้ไม่คุ้มเสีย เพราะมวลชนที่เคยร่วมกันเป่านกหวีดยังติดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ชนิดที่ยากจะเอาอะไรมาแกะออก

ถึงจะมีสื่อบางสื่ออ้างแหล่งข่าววงใน แหล่งข่าวระดับสูง แหล่งข่าวใกล้ชิด บอกว่าพรรคมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือพรรค กปปส. แท้งแล้วตั้งแต่ยังไม่ปฏิสนธิ หมดโอกาสแจ้งเกิดทางการเมือง

แต่นายธานี เทือกสุบรรณ น้องชาย “กำนันสุเทพ” แกนนำจัดตั้งพรรค ยังยืนยันว่าตั้งแน่

ขั้นตอนขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมด้านเอกสารเพื่อยื่นขอจดทะเบียนกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

“ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าจะเดินทางไป กกต. เพื่อยื่นคำขอจดแจ้งเตรียมการจัดตั้งพรรคการเมืองวันใด แต่มั่นใจว่าสามารถยื่นคำขอจดแจ้งได้ทันกรอบเวลาภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการเรื่องอื่นๆได้ทันกรอบเวลาและส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งได้”

เป็นคำยืนยันของนายธานี

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีคำยืนยันจากคณะผู้ก่อตั้งพรรค แต่การที่พรรค กปปส. จะไม่ได้จดทะเบียนแจ้งเกิดก็ยังมีความเป็นไปได้

ที่เป็นไปได้เพราะกระแสของพรรค กปปส. ไม่แรงอย่างที่คิดไว้แต่แรก อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่เคยออกมาร่วมกันปิดถนนเป่านกหวีดเกือบทั้งหมดยืนยันว่าจะทำงานการเมืองในสีเสื้อประชาธิปัตย์ต่อไป ไม่ย้ายค่ายมาสังกัดพรรค กปปส.

ไม่เว้นแม้แต่อดีต ส.ส. ที่เป็นระดับแกนนำเป่านกหวีดเคียงบ่าเคียงไหล่มากับ “กำนันสุเทพ”

ถ้าจะถามว่าทำไมอดีต ส.ส. เหล่านั้นไม่ยอมทิ้งพรรคประชาธิปัตย์ออกมาสร้างบ้านใหม่กับนายธานี

คำตอบที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในตอนนี้คือ “ไม่เห็นอนาคต”

แม้ช่วงการชุมนุมของ กปปส. จะได้รับการตอบรับและได้รับการสนับสนุนจากมวลมหาประชาชนจำนวนมากทั้งจากภาคใต้และส่วนกลาง

แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งหรืออาจจะเป็นส่วนใหญ่เป็นม็อบจัดตั้งที่มาตามคำเชิญชวน และสนับสนุนค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายอื่นจากบรรดาอดีต ส.ส. และหัวคะแนน

เมื่อภารกิจจบก็ถือว่าหมดหน้าที่

มวลชนใครมวลชนมันแยกย้ายกันกลับที่ตั้ง แทบไม่มีหรือมีก็น้อยมากที่มวลชนซึ่งมีสังกัดจะเอาใจออกห่างหัวหน้าทีมแล้วหันมานิยมชมชอบให้ความศรัทธากับแกนนำ กปปส. อย่างจริงจัง

ขณะที่หัวหน้ามวลชนซึ่งเป็นอดีต ส.ส. นักการเมือง ก็ประเมินแล้วว่าภารกิจที่ผ่านมาของ กปปส. แม้จะประสบความสำเร็จคว้าชัยในสนามรบมาได้ แต่อาฟเตอร์ช็อกซึ่งเป็นผลต่อเนื่องมาจากการชุมนุมปิดกรุงเทพฯจนมาถึงรัฐประหารที่นำมาซึ่งรัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ให้คุณกับมวลชนอย่างที่ควรจะเป็น

มีปัญหาทั้งเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรและเรื่องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน

เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้จะออกไปเสี่ยงกับการปลุกปั้นพรรค กปปส. ทำไมให้เหนื่อย อยู่สังกัดเดิม อาศัยบารมีผู้ใหญ่ในพรรคที่ยังคงได้รับความนิยมในพื้นที่ภาคใต้ อาศัยชื่อพรรคที่ยังขายได้กับคนชั้นกลางในเมืองน่าจะมีอนาคตกว่า

พรรค กปปส. กำลังเดินซ้ำรอยพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่ตั้งขึ้นมาหลังชนะศึกการเมืองบนถนน

ครั้งนั้นพันธมิตรฯก็คิดว่าพรรคจะประสบความสำเร็จ มวลชนมหาศาลจะให้การสนับสนุน แต่ผิดคาด เพราะมวลชนที่ออกมาร่วมต่อสู้เป็นไปในลักษณะเดียวกับ กปปส. คือเป็นมวลชนมีสังกัด และยังภักดีกับพรรคประชาธิปัตย์ไม่เปลี่ยนแปลง

พรรค กปปส. แม้จะจดทะเบียนตั้งพรรคขึ้นมาได้ก็น่าจะมีปลายทางไม่ต่างจากพรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มพันธมิตรฯ ไม่ตายก็เลี้ยงไม่โต

กลายเป็นยักษ์ไร้เงา ไม่มีตัวตน


You must be logged in to post a comment Login