วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

ไม่มีศีลก็ไม่มีสุข / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On February 19, 2018

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

เป็นผู้บริหารระดับสูงแต่กลับมีพฤติกรรมเป็นพรานบรรดาศักดิ์ เลยเป็นเรื่องใหญ่โตจนต้องหลบหน้าสังคม เสียชื่อเสียงทั้งตัวเอง วงศ์ตระกูลและบริษัท ไปสามารถเผชิญหน้ากับสังคมได้เพราะถูกรุมประณามจนชนิดที่เรียกว่าแทบไม่มีผืนแผ่นดินจะยืน

คนเราแม้จะร่ำรวยมหาศาลไหน ก็ควรใช้ชีวิตที่ไม่ก่อทุกข์หั้งคนและสัตว์  ถึงจะอยู่ดีมีสุข หากไม่มีศีลไม่มีธรรม  ไม่สนใจเรื่องปาณาติบาตร เป็นข้อห้ามศีลข้อแรกที่ไม่ให้ทำบาป เบียดเบียน ล้างผลาญ ไล่ล่าฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

ความศักดิ์สิทธิ์ของศีลเป็นอมตะ เช่น “สีเลนะ สุคะติง ยันติ” ไม่มีศีลทำอะไรก็อยู่ไม่เป็นสุข ถ้าอยู่ในศีลในธรรมก็จะอยู่อย่างมีความสุข

“สีเลนะ โภคะสัมปะทา” โภคทรัพย์ต้องใช้ต้องเสียเพราะต้องหนี ปืนบ้าบออะไร 40-50 กระบอก เอาไว้ทำไม เอาไว้ทำบาป ก็ต้องเจอรับบาปอย่างสาหัสสากรรจ์

อีกคำคือ “สีเลนะ โภคะ” ถ้าอยู่ในศีล โภคะก็จะเพิ่ม ทรัพย์ก็จะเพิ่ม แต่กลับทำให้ตัวเองเสียโอกาส เพราะต่อไปก็ไม่มีใครอยากร่วมงาน เพราะผู้คนเริ่มไม่พอใจสิ่งที่ไปทำลาย ทั้งที่เขาพยายามรักษา คำว่า “วิปฏิสาร” จึงชัดมาก ถ้าไม่ทำก็ไม่ทุกข์ ไม่ต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์ เพราะขาดศีลขาดธรรม ไปก่อเวรก่อกรรม

อาตมาจึงสนับสนุนเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่กล้าจับ ซึ่งต้องได้ประโยชน์ได้แต้มเต็มๆ แม้แต่บางคนตั้งข้อสังเกตว่าปล่อยให้เข้าโดยมีปืนได้อย่างไร  แต่ก็ยังมีคนเชียร์มากมายที่มีความกล้าหาญและไม่ยอมรับสินบนที่จะมาปิดปาก  เรื่องอย่างนี้ข้าราชการคนไหนพวกไหนที่เกี่ยวข้อง นายกรัฐมนตรีก็ต้องสอบสวนสืบสวนให้ได้ ถ้าเป็นเกลือก็ต้องเป็นเกลือรักษาความเค็มความดี ไม่ใช่เกลือเป็นหนอ

เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าส่วนใหญ่ตั้งใจทำงานกันจริงๆแม้จะมีบางคนที่ไปล่าไปฆ่าสัตว์ซะเองก็ตาม แต่ครั้งนี้ก็กู้หน้าคืนกลับคืนมาได้ เหตุการณ์ครั้งนี้น่าจะเป็นบทเรียนให้ทุกคนได้คิด ไม่ทำบาปทำกรรม

อาตมาก็ขอเถอะ ปาณาติบาตร บั่นทอนชีวิตเขาให้เสียชีวิต เสียความสุข แล้วตัวเราเองจะเป็นสุขได้อย่างไร ก็ขอฝากว่าอย่าทำบาปกรรมเช่นนี้เลย มีแต่ทุกข์กับทุกข์เท่านั้นที่จะถาโถมใส่ หลีกการกระทำเหล่านี้เสียเถอะ

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login