วันพฤหัสที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

สุนัขนายพล / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On February 5, 2018

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

ความผูกพันอย่างลึกซึ้งระหว่างสุนัขกับเจ้าของมีมากถึงขนาดที่หลังจากสุนัขตาย มันถูกนำไปฝังร่วมกับบรรพบุรุษในสุสานประจำตระกูล สร้างความไม่พอใจให้กับญาติคนอื่นๆจนถึงขั้นฟ้องร้องเป็นคดีความ

นายพลดาเนียล ซิกเกิลส์ เป็นวีรบุรุษสงคราม เป็นนักการเมือง และเป็นฆาตกร เขาเป็นคนมีความสามารถ แต่บางครั้งมีพฤติกรรมเพี้ยนๆสักหน่อย ดาเนียลเกิดเมื่อปี 1819 แต่ข้อมูลบางแห่งบอกว่าเขาเกิดเมื่อปี 1825 ซึ่งดาเนียลเองก็รับสมอ้างว่าเกิดปี 1825 นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าเขาพยายามลดอายุตัวเองเพราะแต่งงานกับหญิงสาววัยเพียง 16 ปี

ดาเนียลเข้าสู่วงการการเมืองเมื่อปี 1853 ในตำแหน่งหัวหน้านักกฎหมายของเทศบาลเมืองนิวยอร์ก หลังจากนั้นเขาก็ได้รับตำแหน่งเลขานุการสถานทูตประจำกรุงลอนดอน ก่อนจะได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาในปี 1856

ภรรยาของดาเนียลตั้งครรภ์ก่อนที่ดาเนียลจะไปรับหน้าที่ในกรุงลอนดอน เขาจึงทิ้งภรรยาไว้ที่อเมริกา แต่เขาไม่ได้เดินทางตามลำพัง ดาเนียลถูกกล่าวหาว่านำโสเภณีชื่อแฟนนี ไวท์ ไปกับเขาด้วย มิหนำซ้ำยังแนะนำตัวโสเภณีคนนี้ต่อหน้าพระพักตร์พระราชินีวิกตอเรียโดยสวมชื่อนักการเมืองหญิงคนหนึ่ง

ปี 1859 ดาเนียลใช้ปืนพกสังหารฟิลิป คี บุตรชายอัยการกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. โดยกล่าวหาว่าฟิลิปเป็นชู้กับภรรยาสาวของเขา ดาเนียลถูกจับกุมตัว แต่เขาก็พ้นคุกตะรางมาได้โดยใช้ข้อแก้ตัวว่าเขาเสียสติชั่วคราวขณะก่อเหตุ

ปี 1862 ดาเนียลถูกส่งตัวไปยังสมรภูมิเกตตีสเบิร์กในเหตุการณ์สงครามกลางเมือง ระหว่างการสู้รบดาเนียลพลาดท่าถูกลูกกระสุนปืนใหญ่ที่หน้าแข้งขวาจนกระดูกแตกละเอียด แพทย์จำเป็นต้องตัดขาทิ้ง ดาเนียลนำขาที่ถูกตัดพร้อมกับลูกกระสุนปืนใหญ่ใส่กล่องพัสดุส่งให้กับพิพิธภัณฑ์การแพทย์ทหาร กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

สุนัขมีสกุล

โบโบเป็นสุนัขของดยุกที่ 9 แห่งมาร์ลบะระ ซึ่งมีความเกี่ยวดองเป็นญาติกับตระกูลซิกเกิลส์ หลังจากที่ดยุกเสียชีวิตในปี 1902 โบโบถูกส่งมอบเป็นของขวัญให้กับนายพลดาเนียล จากวังเบลนิม ประเทศอังกฤษ สู่คฤหาสน์สูง 4 ชั้น เลขที่ 23 ถนนฟิฟท์อเวนิว กรุงนิวยอร์ก ประเทศอเมริกา

คฤหาสน์เลขที่ 23 สร้างเมื่อปี 1850 โดยบาสเตียน อีเลสเซน อาคารหลังนี้เป็นมรดกตกทอดตามลำดับทายาทมาเรื่อยๆจนถึงจอร์จ ซิกเกิลส์ บิดาของนายพลดาเนียล หลังจากบิดาเสียชีวิตในปี 1887 อาคารหลังนี้และมรดก 5 ล้านดอลลาร์ก็ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของนายพลดาเนียล

ด้วยเวลาเพียงไม่นานนายพลดาเนียลและโบโบก็ผูกพันกันจนไม่เคยแยกจากกัน กินอาหารร่วมโต๊ะเดียวกัน นอนด้วยกันและไปทำงานด้วยกัน ดาเนียลนำโบโบไปร่วมประชุมสมาชิกสภาเทศมนตรีทุกครั้งจนมันถูกเรียกว่าเป็นผู้ช่วยเทศมนตรี

เดือนสิงหาคม 1905 โบโบป่วยด้วยโรคหัดสุนัขและติดเชื้อปอดบวม ดาเนียลติดต่อสัตวแพทย์โทมัส เชอร์วูด ให้มารักษาโดยด่วน และว่าจ้างนางพยาบาล 2 คนให้ผลัดเวรกันดูแลโบโบตลอด 24 ชั่วโมง เช้ามืดเวลา 04.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม 1905 โบโบกระเสือกกระสนลงจากเบาะเพื่อมาเลียมือดาเนียลก่อนที่จะคอพับหมดลมหายใจ

สมาชิกครอบครัว

ดาเนียลโศกเศร้าเสียใจ นั่งกอดร่างของโบโบ 2 วัน 2 คืนไม่ยอมห่าง ระหว่างนั้นเขาใช้ความคิดวางแผนที่จะจัดพิธีฝังศพโบโบให้ยิ่งใหญ่ประดุจดังราชาสุนัข เขาสั่งทำหีบศพทำจากไม้เนื้อดี ภายในบุด้วยกำมะหยี่ ฝาโลงคลุมด้วยธงชาติอเมริกาและประดับด้วยดอกไม้สวยงาม

ดาเนียลตั้งใจจะนำโบโบไปฝังในสุสานบีชวูด ซึ่งเป็นสุสานประจำตระกูล แต่คณะกรรมการบริหารสุสานไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้น ไม่เพียงเท่านั้นสุสานแห่งอื่นๆก็ไม่ยอมรับการทำพิธีฝังศพสุนัขเช่นเดียวกัน ทำให้ดาเนียลต้องปล่อยให้โบโบนอนอยู่ในหีบศพในห้องนั่งเล่นที่คฤหาสน์เลขที่ 23 นานหลายวัน

แต่แล้วคณะกรรมการบริหารสุสานบีชวูดเกิดเปลี่ยนใจ อนุญาตให้ดาเนียลนำโบโบมาฝังที่สุสานได้ หลังจากนั้นไม่นานคณะกรรมการบริหารสุสานก็ได้รับหนังสือร้องเรียนจากสมาชิกหลายคนที่ใช้บริการของสุสานบีชวูด โดยมีใจความสำคัญคัดค้านการนำสุนัขมาฝังที่สุสานบีชวูด เพราะเหมือนไม่ให้เกียรติผู้เสียชีวิตที่นอนเรียงรายอยู่ในสุสาน

หนึ่งในผู้ร้องเรียนคือ จอร์จ ซอเยอร์ พี่ชายต่างมารดาของดาเนียล มารดาของจอร์จ แมรี่ ซิกเกิลส์ ก็ถูกฝังที่สุสานนี้ มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง โดยเฉพาะดาเนียลเองก็จับจองที่สุสานอีกแห่งหนึ่งในเขตบรูกลิน เตรียมไว้สำหรับภรรยาและลูก ทำไมดาเนียลไม่เอาโบโบไปฝังที่นั่น

คณะกรรมการบริหารสุสานบีชวูดไม่สามารถทำตามคำร้องเรียนได้ การเปลี่ยนการตัดสินใจกลับไปกลับมาทำให้พวกเขาดูไม่ดี อีกทั้งตอนนี้ร่างของโบโบก็ฝังในสุสานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จอร์จไม่ยอมแพ้ ยื่นฟ้องร้องต่อศาล ขอให้ออกคำสั่งให้นำร่างโบโบออกจากสุสานบีชวูด แต่จอร์จแพ้คดี ร่างของโบโบจึงยังคงถูกฝังที่สุสานบีชวูด

อย่างไรก็ตาม ปี 1912 ดาเนียลถลุงเงินมรดกอย่างไร้สาระจนหมดและเกือบจะถูกเจ้าหนี้ยึดคฤหาสน์ เขาต้องปล่อยให้เช่าพื้นที่ 2 ชั้นบนเพื่อนำเงินมาจับจ่ายใช้สอย ส่วนตัวเขาอาศัยอยู่ที่ 2 ชั้นล่างของคฤหาสน์ หลังจากดาเนียลเสียชีวิตในปี 1914 คฤหาสน์หลังนี้ก็ถูกขายทอดตลาดเพื่อนำเงินไปชำระหนี้ ก่อนที่จะถูกทุบทิ้งในปี 1921 แล้วสร้างเป็นอพาร์ตเมนต์ 13 ชั้น

ร่างของดาเนียลไม่ได้ถูกนำไปฝังที่สุสานบีชวูดหรือสุสานที่เขาเตรียมไว้ที่เขตบรูกลิน ทางการจัดพิธีอาลัยอย่างใหญ่โตสมเกียรติวีรบุรุษผู้ทำคุณประโยชน์มากมายให้กับอเมริกาที่วิหารเซนต์แพทริค ก่อนจะนำร่างเขาไปฝังไว้ที่สุสานทหารอาร์ลิงตันในรัฐเวอร์จิเนีย ซึ่งเป็นสถานที่ฝังร่างบุคคลสำคัญของประเทศ


You must be logged in to post a comment Login