วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ตายเพราะข้าว / โดย ศิลป์ อิศเรศ

On December 18, 2017

คอลัมน์ : ร้ายสาระ

ผู้เขียน : ศิลป์ อิศเรศ

นักธุรกิจหนุ่มเดินไปนั่งในร้านเหล้า แต่แทนที่จะสั่งสุรามาดื่มเขากลับล้วงปืนพกออกจากเอวจ่อที่หน้าผากตัวเองแล้วลั่นไก ก่อนจะสิ้นใจเขาเดินโซเซไปกล่าวขอโทษบาร์เทนเดอร์ที่สร้างความยุ่งยากลำบากให้กับร้าน

เดือนเมษายน 1873 เอย์มาร์ ดี เบลลอย นักธุรกิจหนุ่มสัญชาติฝรั่งเศส เดินคอตกเข้าไปในร้านเหล้าย่านถนนคลาร์ก เมืองชิคาโก ทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินแค่ 5 เซ็นต์ เพียงพอที่จะสั่งเบียร์มากินได้หนึ่งแก้ว เอย์มาร์นั่งลงที่โต๊ะตัวหนึ่งแล้วล้วงมือเข้าไปในกางเกง แต่แทนที่จะหยิบเหรียญ 5 เซ็นต์ออกมา เขากลับหยิบปืนพกขึ้นมาจ่อที่หน้าผากตัวเองแล้วลั่นไก

สิ้นเสียงปืนเอย์มาร์พยายามประคองตัวเองให้ลุกขึ้นยืน เขาเดินโซซัดโซเซไปหาบาร์เทนเดอร์พร้อมกับกล่าวคำขอโทษที่สร้างความยุ่งยากลำบากให้กับทางร้าน หลังจากนั้นเขาก็ล้มฟุบขาดใจตาย

เอย์มาร์เป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จก่อนจะผันตัวมาเป็นนักเก็งกำไรในตลาดตราสารอนุพันธ์หรือตลาดซื้อขายล่วงหน้าสินค้าเกษตรกรรม เขาทำเงินได้มหาศาลก่อนที่จะเสียท่าถูกต้อนจนมุมจนหมดเนื้อหมดตัวถึงขั้นตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง

ตลาดนัดสินค้า

ปี 1848 มีการขุดคลองอิลลินอยส์-มิชิแกน ความยาว 96 ไมล์ เชื่อมต่อระหว่างแม่น้ำชิคาโกและแม่น้ำอิลลินอยส์ แม้ว่าจะเป็นคลองตื้นๆที่ลึกไม่ท่วมหัวผู้ใหญ่ แต่ก็ลึกเพียงพอที่จะใช้ลำเลียงขนส่งสินค้าทางน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องใช้วิธีขนขึ้นหลังม้าเดินทางไปตามหนทางที่ขรุขระ กว่าจะไปถึงเมืองปลายทางก็กินเวลานับวันและขนส่งได้ครั้งละไม่มาก จึงทำให้สินค้าเกษตรกรรมมีราคาสูง

ประกอบกับในปี 1848 มีการก่อสร้างทางรถไฟ การติดตั้งระบบโทรเลขและโรงเก็บเมล็ดพืชโดยใช้เครื่องจักรไอน้ำเป็นครั้งแรก สิ่งประดิษฐ์เหล่านี้เอื้ออำนวยธุรกิจสินค้าทางการเกษตร ร้านค้าจำนวนมากผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด

นักธุรกิจมองเห็นลู่ทางทำเงินจึงรวมตัวก่อตั้ง “ตลาดสินค้าชิคาโก” (Chicago Board of Trade) แต่ในตอนแรกกลุ่มนักลงทุนยังไม่รู้ว่าจะเข้าไปขุดทองในตลาดสินค้าเกษตรกรรมได้อย่างไร สมาชิกเริ่มหดหายไปทีละน้อยๆ คณะกรรมการบริหารจึงล่อใจให้สมาชิกมาร่วมระดมกำลังสมองด้วยการจัดประชุมแบบเลี้ยงสุราอาหารอย่างเต็มที่ แถมยังมีการจ้างชายร่างกำยำมายืนเฝ้าประตูไม่ให้สมาชิกหนีกลับก่อนงานเลิก

การมีสินค้าการเกษตรจำนวนมากจากหลากหลายแหล่งที่มาเข้ามาในเมืองส่งผลให้เกิดตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ มีการต่อรองราคา มีการแย่งชิงเสนอราคาให้กับสินค้าที่เป็นที่ต้องการ เป็นปรากฏการณ์ที่ทำให้ “ตลาดสินค้าชิคาโก” เริ่มมองเห็นลู่ทางทำเงิน

ตลาดสินค้าล่วงหน้า

สินค้าการเกษตรที่เป็นที่ต้องการในเวลานั้นคือข้าวสาลี โดยปรกติจะมีการตรวจสอบคุณภาพสินค้าและเสนอราคา เรียกว่าเป็นการซื้อสินค้าตามกายภาพ บางครั้งผู้ขายและผู้ซื้ออาจมีการตกลงราคากันล่วงหน้าว่าจะขายหรือซื้อสินค้าในล็อตถัดไป เรียกว่าการซื้อสินค้าในอนาคต

การตกลงราคาสินค้าในอนาคตมีปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย เช่น เกษตรกรคาดหวังว่าผลผลิตจะได้มากในฤดูกาลถัดไปจึงตั้งราคาไม่สูง แต่เมื่อถึงเวลานัดส่งของกลับมีความต้องการสินค้าเป็นจำนวนมากกว่าผลผลิตที่มี ทำให้ตลาดในเวลานั้นซื้อขายกันในราคาสูงกว่าที่ได้ทำข้อตกลงกับผู้ซื้อแต่จำเป็นต้องขายในราคาต่ำตามที่ตกลงกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ กรณีนี้คนขายขาดทุน ส่วนคนซื้อได้กำไร

ปรากฏการณ์นี้ทำให้เกิดอาชีพใหม่เรียกว่า “นักเก็งกำไร” พวกเขาไม่ได้ต้องการตัวสินค้า แต่เข้ามาซื้อขายในตลาดสินค้าเกษตรกรรมเพื่อเก็งกำไรผลต่างราคาสินค้าในอนาคต หรือบางครั้งพวกเขาอาจทำกำไรระยะสั้น เช่น หากเก็งว่าราคาสินค้าจะสูงขึ้น เขาจะขอซื้อตั๋วรับสินค้าแล้วรอเวลาที่ราคาตลาดสูงขึ้น จากนั้นจึงขายตั๋วให้กับคนที่ต้องการสินค้าตัวจริง

หากนักเก็งกำไรคาดว่าราคาสินค้าจะตกลง เขาจะขอยืมตั๋วรับสินค้าจากผู้ที่มีนำไปขายให้คนอื่นโดยทันที จากนั้นรอเวลาให้ราคาตกเพื่อซื้อตั๋วรับสินค้ามาคืนให้กับผู้ที่เขาไปขอยืมมา เทคนิคนี้เรียกว่า “ชอร์ตเซล” หรือการซื้อขายในระยะเวลาสั้นๆ ตลาดสินค้าชิคาโกจึงกลายเป็นตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าแห่งแรกๆของโลก

ต้อนเข้ามุม

เอย์มาร์เป็นทายาทขุนนางฝรั่งเศส และเป็นหนึ่งในนักเก็งกำไร เขาใช้เงิน 300,000 ดอลลาร์ (ค่าเงินปัจจุบันประมาณ 9 ล้านดอลลาร์) ลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้าโดยเน้นการเก็งกำไรราคาข้าวสาลี เขาประสบความสำเร็จจนร่ำรวยเข้าขั้นเศรษฐี แต่สิ่งที่เอย์มาร์ไม่รู้คือ ในตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้านอกจากจะมีนักเก็งกำไรแล้วยังมี “นักปั่นราคา”

นักปั่นราคามีกลยุทธ์มากมายในการกำหนดราคาสินค้าให้เป็นไปในทิศทางที่ตัวเองต้องการ เช่น การกระจายข่าวเท็จให้เกิดความต้องการสินค้าหรือเกิดความหวาดกลัว ตลอดจนถึงการกว้านซื้อสินค้าปัจจุบันและสินค้าในอนาคตไว้ในมือแต่เพียงผู้เดียว เมื่อถึงเวลาที่ผู้ต้องการใช้สินค้าหรือนักเก็งกำไรจะซื้อเพื่อนำไปคืนให้กับคนที่ไปขอยืมตั๋วรับสินค้ามากลับไม่มีสินค้าในตลาดนอกจากสินค้าในมือของนักปั่นราคาเท่านั้น

ดังนั้น ไม่ว่านักปั่นราคาจะตั้งราคาสูงเท่าไรพวกเขาก็ต้องจำใจซื้อ เทคนิคนี้เรียกว่า “ต้อนเข้ามุม” ซึ่งเอย์มาร์เป็นหนึ่งในเหยื่อที่โดนต้อนเข้ามุมจนหมดเนื้อหมดตัวตัดสินใจยิงตัวตาย แต่โชคดีที่กระสุนไม่ได้ปลิดชีพของเขา อย่างไรก็ตาม อาชีพนักเก็งกำไรเป็นอาชีพที่คนทั่วไปไม่ค่อยปลื้มเท่าไรนัก เพราะเป็นฟันเฟืองตัวหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคสินค้าตัวจริงต้องจ่ายเงินค่าสินค้าสูงกว่าที่ควรจะเป็น

บทบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ชิคาโกเจอร์นัลกล่าวถึงการรอดชีวิตของเอย์มาร์ แนะนำว่าคราวหน้าให้เขาซื้อปืนที่มีคุณภาพดีกว่านี้ ขณะที่คณะกรรมการตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าลงขันกันมอบเงิน 1,000 ดอลลาร์ ให้เป็นค่ารักษาตัวและช่วยเหลือเบื้องต้น

หักมุมสามตลบ

เอย์มาร์นอนหายใจพะงาบๆได้เพียงไม่กี่สัปดาห์ก็สิ้นลมหมดเวรหมดกรรม ปล่อยให้ภรรยาม่ายต้องขอชาวบ้านกินไปวันๆ ส่วนลูกชายคนโตต้องไปส่งหนังสือพิมพ์และขัดรองเท้าหาเงินมาประทังชีวิต

1 เดือนหลังจากงานศพเอย์มาร์ ครอบครัวเขาได้รับข่าวการเสียชีวิตของมารดาเอย์มาร์ในฝรั่งเศส ซึ่งทิ้งมรดกมูลค่า 2 ล้านดอลลาร์  (ค่าเงินปัจจุบันประมาณ 60 ล้านดอลลาร์) ภรรยาม่ายได้รับการแต่งตั้งให้เป็น “มาร์เชอนิส” ลูกชายคนโตได้ตำแหน่ง “มาร์ควิส” พวกเขานำเงินไปซื้อคฤหาสน์หรูในย่านผู้ดีแถบโกลด์โคสต์ ริมทะเลสาบมิชิแกน

ตลาดซื้อขายสินค้าล่วงหน้าผลักดันให้มีการออกกฎหมายห้ามทำการปั่นราคาและห้ามทำการต้อนเข้ามุม แม้จะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและมีบทลงโทษรุนแรง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผลเท่าไรนัก การเก็งกำไร การทำชอร์ตเซล การต้อนเข้ามุม และการปั่นราคา ยังคงมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน


You must be logged in to post a comment Login