วันพฤหัสที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

ลมจะกิน? / โดย สนานจิตต์ บางสพาน

On December 11, 2017

คอลัมน์ : สากกะเบือยันเรือรบ

ผู้เขียน : สนานจิตต์ บางสพาน

เคยเขียนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นทหารที่ทำรัฐประหารแล้วสถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้ารัฐบาลเพียงคนเดียวในบรรดาทหารตั้งแต่จอมพลผ้าขาวม้าแดงมาจนถึง “บิ๊กบัง”ว่า เพ่เขาเป็นนายกฯจากทหารที่ “เพอร์ฟอร์แมนซ์” และ “คาแร็คเตอร์ริสติก” แย่ที่สุดถ้ามีการให้คะแนน จะด้วยเหตุใดก็ช่างหัวมันเถอะ เอาว่า…ใครจะเขียนแนะอย่างไร เพ่เขาก็ไม่เปลี่ยน เพราะไม่อยากเปลี่ยนมีอะไรไหม หรือใครข้องใจ

มันเลยกลายเป็น “แฮนดิแคพ” ที่ไม่ใช่ “แต้มต่อ” แต่เป็น “ความพิกลพิการ” ของภาพลักษณ์ ตั้งแต่น้ำเสียง ท่าที และจังหวะจะโคนการพูด การเลือกถ้อยคำ สำนวน จนถึงสีหน้าและท่าทาง เอาแบบบ้านๆ เพ่เป็นนายกฯที่มีหลากหลายมิติ ทั้งน่าเกรงขาม น่ากลัว ตลกดี ตลกร้าย ไปจนน่าหมั่นไส้ สุดแท้แต่ใครจะมองและสีไหน แบบกลอนที่ “ฟ.ฮีแลร์” แปลไว้ว่า “สองคนยลตามช่อง” ที่เมืองไทยมีที่เดียวในโลก

ตอนตัดสินใจพูดว่า “งั้นผมยึดอำนาจ” เพ่เขาดูฤกษ์ดูยามหรือเปล่า แบบว่าเล่นตามน้ำปนรำคาญและหงุดหงิด ประมาณว่า…พวกมรึงจะเอาไง พูดไม่รู้เรื่อง กรูรำคาญ ส่วนจะแตะมือกับ “กำนัน” เฮงกะบ๊วยหรือขบวนการอะไรก็ช่างหัวมัน เมืองไทยก็เป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร เจ้าของวิกลิเกก็คนหนึ่ง หัวหน้าคณะลิเกก็อีกคน พระเอก นางเอก ผู้ร้าย โจรป่า ตัวตลก ใครรับบทอะไรก็เล่นกันไป ถึงเวลาเลิกก็เก็บฉาก เปิดแชมเปญฉลองกันไปทั้งชุดลายพราง ชุดพลเรือน นักเขียน นักข่าว นักแสดง การ์ตูนิสต์ ฯลฯ

“ห้วงเวลา” ที่มีแอมเบี้ยนเยอะไปหมด ไม่ว่าจะเรื่องปากท้อง เรื่องการเมือง มันเปลี่ยนทิศเปลี่ยนทาง เพ่จึงหลุดอารมณ์ง่าย หงุดหงิด ฉุนเฉียววันละ 3 เวลา อารมณ์ดีได้ชั่วครู่ชั่วยาม พอมีอะไรรุมเร้าก็คืนสภาพ “เหวี่ยง วีน เกรียน” เหมือนเดิม

หลายเรื่องพูดไม่ออกบอกไม่ถูก เหมือนจะอุทธรณ์ว่า…มรึงจะเอาอะไรกับกรูกันนักกันหนา รู้ๆกันอยู่ ให้มันจบๆกันไปเหอะ ตั้งแต่เรื่องหมุดคณะราษฎร เรื่องเพื่อนพ้องน้องพี่ที่ “เสียคนตอนแก่” ลืมหลักการ กฎกติกาและมารยาท แล้วตอนนี้ยังมีเรื่อง “ลงจากหลังเสือ” อีก

ถ้ามีคนมาทำให้พี่เขาต้อง “ลงจากอำนาจ” สนจ. วิเคราะห์เลยว่า เพ่เขาแทบจะเข้าไปกอด แม้จะเสียฟอร์มบ้างก็ตาม แต่ “หมดทุกข์หมดร้อน” ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร ถ้ามีคนถือปืนเข้ามาแล้วบอกว่า “มันจบแล้วครับท่าน” แต่ใครจะกล้า ส่วนทางลงอื่นๆดูแล้วยากถึงยากโคตรๆ จึงเหลือทางเดียวคือ “อยู่ต่อ” ส่วนจะยาวหรือสั้นก็แล้วแต่เหตุและปัจจัย เพราะถ้าลงตอนนี้ก็โดนยำไม่มีเหลือ

ประเทศนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้หมด ทำใจให้สบายๆดีกว่า เห็นอิตาลี เนเธอร์แลนด์ และชิลี ตกรอบฟุตบอลโลก 2018 ยังสะใจกว่า อะไรที่ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น อาจเห็นอียิปต์เข้ารอบ 16 ทีม และ 8 ทีมสุดท้ายแบบแคเมอรูนก็ได้

ณ นาทีนี้เพ่เขาก็ไม่ต่างจาก “ตัวละคร” ในหนังเรื่องร้อนรักหักเหลี่ยมคาสิโน ของ “มาร์ติน สกอร์เซซี่” ที่บทเพ่อยู่ในสถานการณ์เดียวกับ “โจ เพสซี” ซึ่งรับบทเป็นเพื่อนขาใหญ่ “โรเบิร์ต เดอ นีโร” ที่ไต่เต้าอำนาจมาด้วยกัน แต่พอ “เมายา” และ “เมาอำนาจ” เผลอไผลไปยุ่งกับ “ชารอน สโตน” หญิงสาวของเดอ นีโร ก็หายนะ

ถ้าเรามองว่า “ผู้หญิง อำนาจ และเงิน คือหายนะของผู้ชาย” ชารอน สโตน ก็คือตัวแทนของ “อำนาจ” ทั้งที่รู้แต่ก็ยังไปยุ่ง มันก็เลยยุ่งตายห่ะ ทีนี้ก็ต้องมานั่งตบกบาลตัวเองว่า…กูไม่น่าเลย

ภาวะอีหลักอีเหลื่อ พะอืดพะอม ลมจะกิน ปรี๊ดแตกง่าย เพ่เขาจึงเกิดบ่อยและถี่ คงจะได้เห็นอีกเรื่อยๆ ทำไงได้ดันมาผิดที่ผิดเวลา ไม่จับยามสามตาก่อนว่าจะต้องเจออะไรมั่ง?


You must be logged in to post a comment Login