วันพฤหัสที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2567

พม.จัดใหญ่พิธีประทานรางวัล“ประชาบดี”ประจำปี2560

On December 7, 2017

พลเอก อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  ได้ดำเนินภารกิจตามนโยบาย การพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยยึดกรอบนโยบายด้านสังคมของรัฐบาลและทิศทางของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ    ฉบับที่ 12 เพื่อตอบสนองวิสัยทัศน์แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 – 2563 ซึ่งปัจจุบันมีความยุ่งยากและสลับซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากมีความคาบเกี่ยวร่วมกันในหลายมิติ รวมทั้งปัญหาเดิมที่ทวีความรุนแรงขึ้น จำเป็นต้องอาศัยการบูรณาการ  ความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายอย่างมีประสิทธิภาพ  ด้วยเหตุที่ว่าสถานการณ์ปัจจุบัน มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และคนในสังคมมีความหลากหลาย รวมทั้งคนมีความรู้ ความสามารถ และศักยภาพ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ผู้อื่นที่ด้อยโอกาสกว่า และคนที่อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงบริการต่างๆ ในสังคม แต่ยังมีจิตใจที่เข้มแข็ง สู้ชีวิต และมีความมุมานะ พยายามในการเอาชนะความทุกข์ยากเดือดร้อน  อีกทั้งเห็นถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก ด้วยการประพฤติปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่สังคม อันควรค่าแก่การยกย่อง

ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดย พส. ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มคนดังกล่าว จึงได้จัดทำโครงการเชิดชูเกียรติผู้ทำคุณประโยชน์ดีเด่นแก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก และผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนดีเด่น  เพื่อเสริมสร้างแรงจูงใจแก่ผู้ไม่ย่อท้อที่ประกอบคุณงามความดี ด้วยการดูแลช่วยเหลือสังคม  และส่งเสริมเจตคติบวกในการอยู่ร่วมกันอย่างเอื้ออาทร เห็นคุณค่าและศักดิ์ศรี  ของผู้ด้อยโอกาส โดยได้ดำเนินการพิจารณาคัดเลือก บุคคล องค์กร สื่อ และบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก เพื่อเข้ารับรางวัล “ประชาบดี” จากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เป็นประจำทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2550 จนถึงปัจจุบัน

รางวัล “ประชาบดี” เป็นรางวัลที่มอบให้บุคคล องค์กร สื่อ ที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก และบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่าง โดยกระทรวง พม. มีตราสัญลักษณ์ประจำกระทรวง คือ “พระประชาบดี” ซึ่งเป็นเทพผู้เป็นที่พึ่งและให้การสงเคราะห์แก่ประชาชนด้วยความเมตตากรุณา เป็นเทพผู้เป็นเสมือนต้นกำเนิดวัฒนธรรมของกรมประชาสงเคราะห์ จนมาเป็นกระทรวง พม. ในปัจจุบัน จึงได้นำชื่อท่านมาใช้    เป็นชื่อรางวัล “ประชาบดี”

โดยในปี 2559 ที่ผ่านมา กระทรวง พม. มีการมอบรางวัล “ประชาบดี” เพียง 4 ประเภท แต่ในปี 2560  มีการมอบรางวัลเพิ่มอีก 1 ประเภท ให้กับผู้ที่ทำงานร่วมกับกระทรวง พม. อย่างต่อเนื่อง รวมเป็น 5 ประเภท มี 60 รางวัล ได้แก่    1. ประเภทบุคคลที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 12 คน เช่น พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต  2. ประเภทองค์กรที่ทำคุณประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 7 องค์กร เช่น องค์การบริหารส่วนตำบลอู่ตะเภา จังหวัดชัยนาท    3. ประเภทสื่อที่นำเสนอกิจกรรมที่เป็นประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก จำนวน 17 รายการ เช่น รายการ  76 จังหวัด ตามหาคนดี ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ. 5)  4. ประเภทบุคคลผู้อยู่ในสภาวะยากลำบากที่ทำคุณประโยชน์และดำรงชีวิต เป็นแบบอย่างที่ดี จำนวน 17 คน เช่น นายสุวรรณฉัตร พรหมชาติ ซึ่งให้บริการรถแท็กซี่ที่ได้รับบริจาคในการรับ-ส่ง ผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากไปยังโรงพยาบาล โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เป็นระยะเวลา 22 ปี และ 5. รางวัลเกียรติยศ บุคคลที่เสียสละอุทิศตนทำงานเพื่อสังคมและมีผลงานโดดเด่นสนับสนุนภารกิจของ พส. อย่างต่อเนื่อง จำนวน 7 คน เช่น นายมีชัย วีระไวทยะ ผู้ริเริ่มธุรกิจเพื่อสังคม และการสร้างนวัตกรรมทางการศึกษา เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้อยู่ในสภาวะยากลำบาก เป็นต้น

ทั้งนี้ รางวัล “ประชาบดี” นับว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางจิตใจทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ ซึ่งวันนี้ ยังมีบุคคลและองค์กรอื่นๆ   อีกจำนวนมาก ที่มีความพร้อมและศักยภาพในการทำงานช่วยเหลือดูแลผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบาก  ทางกระทรวง  พม.ขอส่งเสริม ให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือดูแลผู้ที่อยู่ในสภาวะยากลำบากในสังคมและยกย่องคนดีไปด้วยกัน

pm03

pm02


You must be logged in to post a comment Login