วันเสาร์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2567

จบแบบกระจ่าง

On November 22, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

กรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 จปร. ที่ฝ่ายญาติสงสัยสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงจนต้องแอบนำศพไปผ่าพิสูจน์ซ้ำและพบชิ้นส่วนอวัยวะภายในหลายอย่างหายไปโดยไม่ได้รับแจ้ง ไม่ว่ากองทัพจะชี้แจงเรื่องนี้อย่างไร แต่กุญแจสำคัญที่จะไขความกระจ่างอยู่ที่ชิ้นส่วนอวัยวะภายในที่หายไปหลังการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกถ้าชิ้นส่วนอวัยวะยังอยู่ต้องส่งคืนให้ญาตินำไปพิสูจน์ตามความต้องการเพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด และเพื่อให้เกิดความสบายใจของฝ่ายญาติหากการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ไม่มีเงื่อนงำมากไปกว่าข้อมูลที่ชี้แจงออกมาเรื่องนี้ทำให้จบโดยกระจ่างไม่ยาก

ข่าวการเสียชีวิตของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือเมย นักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่  1 จปร. ที่กลับมาเป็นข่าวดังประเด็นร้อนอีกครั้งหลังจากเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมาถือว่ามีความน่าสนใจในข้อมูลที่สองฝ่ายคือฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิตกับกองทัพบกบอกกับสังคมไม่ตรงกัน

ข้อมูลจาก นายพิเชษฐ นางสุกัลยา บิดามารดา และ น.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ พี่สาว ของนายภคพงศ์ ระบุถึงความครางแคลงใจต่อการเสียชีวิตเนื่องจากเห็นว่าผู้ตายเป็นคนที่มีร่างกายแข็งแรงจนต้องแอบนำศพออกจากเมรุในวันเผาและส่งศพไปผ่าพิสูจน์ใหม่ พบว่า อวัยวะภายใน สมอง หัวใจ กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะหายไป ส่วนปอดและตับหายไปอย่างละครึ่ง โดยไม่นำกลับมาพร้อมศพ นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำอย่างหนักบนร่างกายหลายจุด และกระดูกซี่โครงซี่ที่ 4 หัก

ในขณะที่ครอบครัวได้รับเพียงใบมรณะบัตรจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าที่ระบุสาเหตุการเสียชีวิตเกิดจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลันเท่านั้น ส่วนรอยบอบช้ำและบาดแผลที่ปรากฏตามร่างกายไม่มีคำชี้แจงจึงต้องการขอคำชี้แจงจากผู้เกี่ยวข้องให้เกิดความชัดเจน

สิ่งที่ครอบครัวต้องการในตอนนี้คืออวัยวะภายในของผู้ตายเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป หากไม่ได้คืนจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป

จากข้อมูลนี้มีความน่าสนใจตรงที่ญาติต้องแอบนำศพออกไปผ่าพิสูจน์ซ้ำหลังจากที่ผ่านการชันสูตรจากโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามาแล้วและผลที่ได้ไม่ตรงกับที่แจ้งในใบมรณะบัตร

ในขณะที่ข้อมูลอีกด้านจาก พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) ยืนยันข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นไปตามที่ญาติผู้ตายกล่าวอ้าง พร้อมชี้แจงว่า เมื่อเกิดเหตุทางโรงเรียนเตรียมทหารได้ส่งศพไปชันสูตรที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และมีการตัดอวัยวะบางส่วนนำไปผ่าพิสูจน์ แต่เป็นเพียงชิ้นเล็กน้อยเท่านั้น จากนั้นทางญาติได้นำร่างกลับไปแล้วนำไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต อีกครั้ง

ขณะเดียวกันโรงเรียนเตรียมทหารได้ร่วมจัดงานศพกับทางญาติ และดำเนินการช่วยเหลือทุกอย่าง ที่ผ่านมาได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และยืนยันว่าไม่ได้ขโมยอวัยวะแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้กรณีที่มีผ้าพันแผลอยู่ในอวัยวะน่าจะเกิดจากการตรวจพิสูจน์ก่อนหน้านี้ของทางโรงพยาบาล และทางโรงเรียนก็ได้ร่วมจัดงานพิธีบำเพ็ญกุศลศพ และทำการฌาปนกิจเรียบร้อย ซึ่งเป็นการฌาปนกิจโลงเปล่า ไม่มีศพ ทางโรงเรียนได้ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ

ข้อมูลนี้น่าสนใจตรงที่เป็นข้อมูลที่แม้จะตอบคำถามของทางฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตแต่เป็นการตอบที่ไม่ชัดเจนกรณีระบุว่านำชิ้นส่วนอวัยวะภายในเล็กน้อยไปพิสูจน์ซึ่งหากนับจากวันเสียชีวิตเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมาการพิสูจน์ชิ้นส่วนอวัยวะน่าจะมีผลอะไรออกมาและแจ้งให้ฝ่ายญาติได้รับทราบบ้าง

อีกประเด็นทั้งสองฝ่ายให้ข้อมูลไม่ตรงกันคือการนำศพไปผ่าพิสูจน์ซ้ำที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งฝ่ายระบุต้องแอบนำศพออกไปก่อนทำพิธีเผา แต่ข้อมูลจากผบ.ทสส.กลับระบุเหมือนทราบดีว่ามีการนำศพไปผ่าพิสูจน์ซ้ำและรู้ว่าเป็นการเผาโรงเปล่า

ส่วนเรื่องการให้ความช่วยเหลือจากโรงเรียนเตรียมทหารนั้นถือเป็นเรื่องปรกติที่ต้องทำตามหน้าที่ เป็นคนละประเด็นกับการพิสูจน์ความจริงของสาเหตุการเสียชีวิตที่ยังมีข้อสงสัยอยู่หลายประการ

กุญแจสำคัญที่จะไขความกระจ่างของเรื่องนี้อยู่ที่ชิ้นส่วนอวัยวะภายในของผู้ตายที่หายไปซึ่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าที่ทำการผ่าพิสูจน์ครั้งแรกต้องออกมาให้ความกระจ่าง

ถ้าชิ้นส่วนอวัยวะยังอยู่ต้องส่งคืนเพื่อให้ญาตินำไปพิสูจน์เพื่อให้เกิดความกระจ่างชัด และเพื่อให้เกิดความสบายใจของฝ่ายญาติ

หากการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ไม่มีเงื่อนงำมากไปกว่าที่ให้ข้อมูลเรื่องนี้ทำให้จบโดยกระจ่างไม่ยาก

ยกเว้นแต่ว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังมากไปกว่าที่จะแสดงความรับผิดชอบด้วยการช่วยเหลือจัดพิธีศพ


You must be logged in to post a comment Login