- อย่าเอายศไปทำความอัปยศPosted 11 hours ago
- แนะพระอย่าลืม 4 รักPosted 1 day ago
- ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดีPosted 2 days ago
- กวาดล้างพวกขี้เหล้า-เมายาPosted 4 days ago
- ฟังกันบ้างPosted 1 week ago
- เป้าหมาย “สงกรานต์”Posted 1 week ago
- ตำรวจน้ำดียังมีPosted 1 week ago
- อุทาหรณ์ลูกเนรคุณPosted 2 weeks ago
- อย่าลืมเรื่องศีลธรรมPosted 2 weeks ago
- ผีซ้ำกรรมซัดPosted 2 weeks ago
ปรับโหมดใหม่
คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น
ท่ามกลางคำถามจากฝ่ายการเมืองว่าจะปลดล็อกให้ทำกิจกรรมได้เมื่อไหร่ ไม่มีคำตอบตรงๆจากฝ่ายคุมอำนาจ แต่มีคำตอบโดยอ้อมเป็นทั้งรายงานความเคลื่อนไหวและคำสั่งให้ติดตามความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลที่ระบุเริ่มพบปรากฏการณ์ปลุกระดมมวลชนด้วยเรื่องเท็จตามชุมชน หมู่บ้านมากผิดปรกติ โดยคิดการใหญ่ถึงขั้นขับไล่รัฐบาล จึงจำต้องกลับไปติดตามแกนนำแต่ละพื้นที่ในระดับเข้มข้นอีกครั้ง แม้ไม่พูดชัดว่านี่คือเหตุผลที่ทำให้ยังไม่ปลดล็อก แต่ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่านี่เป็นการปรับโหมดการเมืองจากที่ควรจะเตรียมเข้าสู่การเลือกตั้ง กลับย้อนไปเป็นสถานการณ์เหมือนหลังรัฐประหารใหม่ๆ
การเมืองกลับมาเข้มข้นอีกครั้ง และรัฐบาลทหารคสช.มองว่าขณะนี้สถานการณ์ได้ปรับเข้าสู่โหมดการเมืองเรียบร้อยแล้ว แม้จะยังไม่มีการปลดล็อกให้พรรคการเมืองเริ่มทำกิจกรรมได้ก็ตาม
ทั้งนี้ มีข่าวกล่าวอ้างเอกสารลับของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นคำสั่งของรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่สั่งการให้ทุกหน่วยงานในสังกัดติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลและบุคคลที่เริ่มเคลื่อนไหวเตรียมการเพื่อปลุกกระแสขับไล่รัฐบาลทหารคสช.
เนื่องจากการข่าวพบการเคลื่อนไหวในทางปลุกปั่นเกิดขึ้นอย่างผิดปรกติ มีความพยายามบิดเบือนข้อมูลเพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดในหมู่ประชาชน โดยดำเนินการทั้งในพื้นที่ชุมชน หมู่บ้าน และดำเนินการผ่านสื่อ เครือข่ายสังคมออนไลน์ มีเป้าหมายล่วงละเมิดสถาบัน และทำลายเสถียรภาพรัฐบาล รวมทั้งมีความตั้งใจให้การเคลื่อนไหวขยายตัวเป็นวงกว้าง เพื่อรอโอกาสยกระดับเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทำการเคลื่อนไหวทั้งใน และนอกประเทศ
ตามเอกสารลับที่กล่าวอ้างสั่งให้ทุกหน่วยงานสืบสวนติดตามพฤติการณ์เชิงลึกเกี่ยวกับข้อมูลแกนนำ พร้อมเครือข่ายผู้ให้การสนับสนุนทางความคิด งบประมาณ รูปแบบการเคลื่อนไหว และจุดประสงค์ที่แท้จริงในการออกมาเคลื่อนไหวของแต่ละกลุ่ม ให้ประสานข้อมูลกับฝ่ายปกครองเพื่อร่วมกันแก้ไขไม่ให้เกิดความเคลื่อนไหว หากพบบุคคลใด แกนนำ หรือผู้ให้การสนับสนุน มีพฤติการณ์เข้าข่ายอาจกระทำผิดกฎหมาย หรือจะยกระดับสู่ความวุ่นวาย รุนแรง ให้ดำเนินการ พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น
ทั้งนี้ ให้สรุปรายงานผลการติดตามความเคลื่อนไหวให้ ผบ.ตร.ทราบทุก 15 วัน โดยกำหนดรายงานผลครั้งแรกวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้
เอกสารลับนี้ถูกเพิ่มน้ำหนักความน่าเชื่อถือหลัง พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่าขณะนี้สถานการณ์เข้าสู่โหมดการเมือง มีปรากฏการณ์หลายเรื่อง เช่น ใส่ร้าย บิดเบือน การปล่อยข้อมูลข่าวสารเท็จ หรือการพยายามลดความน่าเชื่อถือของตัวบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐในรูปแบบต่างๆ ซึ่งมีมูลบ้าง ไม่มีมูลบ้าง
ทั้งนี้ หากพิจารณาจากความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น จะเห็นว่าเป็นปฏิกิริยาเด้งรับกันเป็นทอดๆ หลังจากท่านผู้นำออกมาตั้งคำถาม 6 ข้อกับประชาชน โดยปรากฏในข้อที่ 6 ซึ่งตั้งคำถามว่า เหตุใดพรรคการเมืองและนักการเมือง จึงออกมาเคลื่อนไหวคอยด่า คสช. รัฐบาล และนายกฯบิดเบือนข้อเท็จจริงในการทำงานในช่วงนี้อย่างมากผิดปรกติ จึงขอฝากถามประชาชนว่าเพราะอะไร เนื่องจากอำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทยทั้งประเทศ จึงอยากให้ทุกคนที่เป็นคนไทยช่วยพิจารณาตัดสิน
แม้จะไม่ได้สื่อสารออกมาโดยตรง แต่ทั้งหมดทั้งมวลไม่ว่าจะเป็นการตั้งคำถามของท่านผู้นำ เอกสารลับที่อ้างเป็นคำสั่งของ ผบ.ตร. และการพูดในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีของ “บิ๊กป้อม” ดูเหมือนจะเป็นการตอบคำถามที่ดังอยู่ตอนนี้ว่าทำไมยังไม่ปลดล็อกทางการเมือง
สถานการณ์เข้าสู่โหมดการเมืองของจริง
You must be logged in to post a comment Login