จีนปล่อยกู้เปลี่ยนโลก

• Tweet
• 

ทีมนักวิจัยแห่งสถาบัน AidData ใช้เวลา 5 ปี ประมวลข้อมูลความลับของรัฐบาลจีนที่หลายฝ่ายอยากรู้ นั่นคือนโยบายให้เงินช่วยเหลือต่างประเทศ

ด็อกเตอร์แบรด ปาคส์ ผู้อำนวยการบริหารคณะ AidData and Research วิทยาลัย William & Mary แห่งรัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐ เป็นหัวหน้าโครงการวิจัยเรื่องนี้ โดยทำงานร่วมกับพันธมิตรมหาวิทยาลัย Harvard แห่งสหรัฐ และมหาวิทยาลัย Heidelberg แห่งเยอรมนี

ทีมวิจัยรวบรวมข้อมูลที่จีนอนุมัติเงินช่วยเหลือต่างประเทศระหว่างปี 2000-2014 จำนวน 4,368 โครงการ ใน 138 ประเทศ

เนื่องจากเรื่องนี้เป็นความลับของรัฐบาลจีน ทีมวิจัยจึงใช้วิธีรวบรวมข้อมูลจากหลายแห่ง ประกอบด้วยจากหน่วยงานภาครัฐของจีน (เท่าที่ให้ความร่วมมือ) จากกระทรวงต่างๆของประเทศที่รับเงินช่วยเหลือ จากรายงานของสถาบันทางวิชาการ และจากข่าวที่ปรากฏตามสื่อต่างๆ จากนั้นนำมาประเมินผลสรุปด้วยระบบคอมพิวเตอร์

ทีมวิจัยพบว่า จีนให้เงินช่วยเหลือต่างประเทศระหว่างปี 2000-2014 จำนวน 362,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (12.05 ล้านล้านบาท) ขณะสหรัฐให้ไปในช่วงเดียวกัน 399,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (13.29 ล้านล้านบาท)

ทั้งนี้ สหรัฐเป็นประเทศให้เงินช่วยเหลือนานาชาติมากที่สุดในโลก และจีนไล่จี้ขึ้นมาอันดับ 2 ด้วยระยะห่างที่ประชิดสหรัฐมากขึ้นตามลำดับ คาดกันว่า อีกไม่นานจีนจะแซงสหรัฐขึ้นอันดับ 1 ของโลก

สำหรับข้อมูลที่พบจากการวิจัย สหรัฐและประเทศตะวันตกอื่น อนุมัติให้เพื่อช่วยเหลือการพัฒนาและส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยของประเทศที่รับความช่วยเหลือ รวมทั้งหวังให้ประเทศที่รับความช่วยเหลือ ช่วยสนับสนุนในที่ประชุมสหประชาชาติ

ขณะจีนเข้ามาเปลี่ยนกฎกติกาดังกล่าว โดยช่วยเหลือด้วยหวังผลเชิงพาณิชย์ หวังให้ประเทศที่รับความช่วยเหลือเป็นตลาดส่งออกสินค้า และหวังผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยเงินที่ให้กู้

เฉพาะคู่สำคัญ คือจีนกับสหรัฐ พบว่าสหรัฐช่วยเหลือเป็นเงินให้เปล่ามากถึง 93% ของจำนวนเงินที่อนุมัติไป 399,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนที่เหลือให้ในรูปเงินกู้คิดดอกเบี้ย ตรงกันข้ามกับจีน ที่ช่วยเหลือเป็นเงินให้เปล่าเพียง 23%

อีกอย่างที่จีนเข้ามาเปลี่ยนกฎกติกา คือใช้วิธี “ปล่อยกู้” ง่าย ไม่ตั้งเงื่อนไขยุ่งยากเหมือนสหรัฐ เช่น จีนไม่สนใจว่าประเทศนั้นจะเป็นเผด็จการหรือประชาธิปไตย ขณะสหรัฐและประเทศตะวันตกอื่น ให้ความสำคัญกับระบอบประชาธิปไตย โดยจะไม่ช่วยเหลือประเทศที่ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย

สำหรับประเทศ “ลูกหนี้” ส่วนใหญ่ของจีนอยู่ในแอฟริกา ตามด้วยประเทศในเอเชีย

You must be logged in to post a comment Login