วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

กีฬาต้องไม่ทุกข์ / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On August 30, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่มาเลเซียขณะนี้ ทีมนักกีฬาไทยไม่ได้เหรียญทองตามที่คาดหวังไว้ นักกีฬาทุกคนเมื่อลงแข่งขันก็ต้องคิดถึงชัยชนะทั้งนั้น แต่การแข่งขันกีฬาหรือการต่อสู้ก็ต้องมีแพ้มีชนะ ถ้าสู้ในแนวทางพุทธศาสนาหรืออย่างน้ำใจนักกีฬา ก็ต้องรู้แพ้รู้ชนะ ไม่ใช่ต่อสู้กันชนิดเอาเป็นเอาตาย ต่อสู้แล้วเป็นนรก ชนะเป็นเปรต อย่างนี้ก็ไม่ควรต่อสู้ ต่อสู้แล้วต้องเป็นสวรรค์

อย่างเพลงกราวกีฬาที่ร้องกัน “กีฬาๆ เป็นยาวิเศษ แก้กองกิเลส ทำให้คนให้เป็นคน” ถ้ากีฬายังอยู่กับผีกับเปรต กระหายแต่จะเอาชนะ พอแพ้ก็เกิดอารมณ์โกรธ แล้วยังโดนดุ โดนว่าจากผู้หลักผู้ใหญ่อีก ก็ยิ่งกลัวไปต่างๆนานา อย่างนี้เป็นกีฬาของผีเปรตมากกว่า

ดังนั้น เล่นกีฬาต้องรู้จักแพ้รู้จักชนะ ก็จะไม่เป็นทุกข์ ชนะก็รู้ตัวรู้สติ แพ้ก็ไม่ทุกข์เกินไป กีฬาก็จะเป็นเรื่องที่ดีเรื่องที่ประเสริฐ เพราะกีฬามันไม่มีใครชนะได้ตลอด หรือแพ้ตลอด

ก็อยากจะฝากถึงนักกีฬาว่า เวลาเล่นก็ต้องเล่นให้เต็มที่ แล้วก็ต้องมีสมาธิ แล้วต้องรู้จักดึงลมหายใจเข้าปอดให้สุดๆ ปล่อยลมหายใจออกยาวๆ แล้วทำใจให้สบาย จะชนะหรือแพ้ก็ไม่เป็นอะไร ถ้าชนะก็มาจากที่เราเล่นเต็มที่ ซ้อมมาดี ไม่ใช่ชนะเพราะความหวัง นั่นคือเหตุแห่งชัยชนะ

ถ้าเราซ้อมมาไม่ดี อีกฝ่ายหนึ่งเขาซ้อมดีและเล่นได้เต็มที่กว่า เขาก็ย่อมชนะ เพราะฉะนั้นอย่าเล่นกีฬาแล้วเกิดความทุกข์ เพราะกีฬาไม่ใช่แค่เรื่องชนะหรือแพ้  แต่กีฬายังมีจุดประสงค์เรื่องของความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เรื่องของสปิริตและจิตวิญญาณความเป็นนักกีฬา แพ้ก็เข้มแข็ง ไม่อ่อนแอป้อแป้ ไม่เหมือนไก่ตีแพ้แล้วทรุดโทรม ถ้าแพ้แบบคนไม่ควรทรุด ไม่ควรโทรม ยิ่งแพ้ก็ไม่ควรหยุดการฝึกฝน หาวิธีแนวทางแก้ไข ครั้งนี้ไม่ใช่เป็นครั้งสุดท้าย เรายังจะมีอีกหลายครั้ง

อย่างนักกีฬาไทยครั้งนี้เราไม่ได้เป็นเจ้าซีเกมส์ ได้เหรียญทองมากที่สุด ก็ยังมีการแข่งขันครั้งหน้า เพราะฉะนั้นขอย้ำว่านักกีฬาต้องไม่ท้อแท้ ไม่สิ้นหวัง แม้แต่นายกรัฐมนตรียังให้กำลังใจ ปลอบใจ

เล่นกีฬาแล้วจึงต้องไม่ปล่อยให้เกิดความทุกข์ทรมานใจ นักกีฬาต้องมีจิตใจที่เยี่ยมยอด แม้แพ้ก็อย่าให้เจ็บใจ เพราะการเจ็บใจมันเจ็บฟรี โมโหโทโสถึงกับไปตะลุมบอนกันในสนามกีฬา อย่างนี้มันเปลี่ยนสนามกีฬาเป็นสนามรบ อย่างนี้ใช้ไม่ได้

อดีตนายกฯพล.อ.ชาติชาย ชุณหวัณ เคยพูดไว้ว่า “เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า” เราก็อย่า “เปลี่ยนสนามกีฬาเป็นสนามรบ” หรือทำให้สนามกีฬาเป็นสนามทุกข์ มันต้องเป็นสนามของความสุข ความแข็งแรง ทำให้จิตวิญญาณและสปิริตนักกีฬาเพิ่มทวีขึ้น แพ้ก็เพิ่มทวีได้ ไม่ใช่ชนะอย่างเดียว ขอให้ตั้งใจฝึกฝน และมีความอยากที่จะเล่น อยากเป็นนักกีฬา เราก็จะดีวันดีคืนแน่นอน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login