วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

สู้กันในธรรม / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On August 25, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม

ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

พูดถึง “คดีโฉนดถุงกล้วยแขก” ที่ยืดเยื้อและมาลงท้ายด้วยเรื่องแปลกๆ ซึ่งไม่มีใครคิดว่าจะมีคดีแบบนี้ สรุปวันนี้ว่า อาตมาได้เข้าไปอวยพรให้ฝ่ายทายาทของนางทองอยู่ หิรัญประดิษฐ์ เจ้าของที่ดินเดิม ที่มาร้องค้านขอให้ชนะน่ะ เราก็บอกว่า ถ้าชนะ เราจะมีความสุขร่วมกันคือ อาตมามีความสุขที่ไม่ต้องไปเหนื่อยกับการบุกเบิกที่ดินให้เหนื่อยอีก ทำที่ดินเก่าๆที่มีอยู่ก็เหนื่อยน่าดูอยู่แล้ว ส่วนทายาทของโยมเจ้าของที่ดินเดิมก็จะมีความสุข เพราะได้ที่ดินสมใจอยาก ก็จะไม่ทุกข์คือสุขนั่นเอง แต่อาจมีผู้ยากไร้ที่ช่วยเหลือซื้อที่ดินเข้าวัดอาตมาที่พึ่งพาอาศัย อาจจะเป็นทุกข์สัก 10-20 คน หรือระยะยาวอาจเป็นร้อยที่จะช่วยชุบชีวิต ถ้าโครงการนี้ยังอยู่ มีที่ดินให้คนยากจนทำมาหากิน อาตมาก็เชื่อว่าเขาจะมีความสุขระดับหนึ่งทีเดียว มีที่พักพิง มีที่ดินประกอบอาชีพการงาน

เรื่องคดีความ ส่วนใหญ่ก็จะพยายามเอาชนะกันแบบเอาเป็นเอาตาย ขึ้นโรงขึ้นศาลด้วยความเคียดแค้นชิงชัง อาตมาว่า คนเราสู้กันด้วยความสุขดีกว่าสู้กันด้วยความทุกข์ เพราะใครได้ไปมันก็อยู่ได้ไม่นาน วัดได้มา อาตมาก็อยู่ได้ไม่นาน เจ้าของเดิมได้ไป อายุก็มากแล้วทั้งนั้น ก็คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะฉะนั้นเราควรสู้ด้วยความเบิกบานแจ่มใส ใช้คำว่า “เราอยู่ในธรรมสู้กันดีกว่าอยู่ในกรรมหลุมดำสู้กัน” เหมือนคำสอนที่หลวงพ่อพุทธทาสว่า “รบกันไปพลาง คว้านิพพานไปพลาง” คือ เราเย็น สู้แบบเย็นๆ ไม่สู้แบบหูร้อนตาร้อน

เรื่องคดีที่ดินครอบครองปรปักษ์ มัวแต่รบกัน ขัดแย้งกัน ทนายแต่ละฝ่ายก็มีลูกเล่นที่จะเอาชนะคะคานตามประสาคนว่าความ แต่อาตมาทิ้งท้ายไปว่า คุณฟ้องคนตายนะ คือฟ้องมูลนิธิ ช่วงนั้นมูลนิธิเหมือนตายแล้ว เพราะหมดวาระ ที่ดินทั้งหมดก็เป็นของวัด เป็นสมบัติของวัด คุณฟ้องวัดไม่ถูกต้อง ไปฟ้องที่ดินซึ่งคนตายไปแล้ว ทั้งยังบอกว่าศาลตัดสินตามสบาย อาตมารับได้ทั้งนั้น ถ้าได้ที่ดินไป คนเป็นสุขก็ไม่ใช่อาตมา แต่คือคนยากไร้ไร้ที่พึ่ง เขาจะได้มีที่ทำมาหากินอย่างมีความสุข

เราก็รู้กันอยู่แล้วว่าบางคนไม่มีที่ดินแม้แต่ตารางวาเดียว แม้แต่ชาวไร่ชาวนา เกิดเป็นคนไทย เกิดบนแผ่นดินไทย แต่ไร้แผ่นดินที่จะอยู่อาศัยและทำมาหากิน ต้องไปบุกป่า รุกเขา คูคลอง เพราะกฎหมายไทย ผู้บริหารประเทศปล่อยให้เจ้าสัว นายทุนใหญ่ เอาที่ดินไปกักไปตุนจนร่ำรวยมหาศาล ปล่อยให้คนยากคนจนขาดแคลนขัดสน ฝืดเคืองข้นแค้น

เมื่ออาตมารู้ข่าวว่ามีคนเสนอขายที่ดินติดวัดใกล้วัด ก็อยากจะทำอะไรช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาสให้ลืมตาอ้าปาก ช่วยเหลือเขามาพันสี่พันห้า เห็นเขาได้ดีมีสุข เราก็พลอยมีสุข ถึงจะเหนื่อยก็มีความสุข ได้ส่งลูกเรียนหนังสือ มีที่กินที่นอน ไม่ต้องเสียค่าที่ ไม่ต้องเร่ร่อนไปหาที่หลับที่นอน ไปเช่าที่นอน

ในหลวงรัชกาลที่ 10 ทรงตรัสเมื่อไม่นานว่า ขอให้ช่วยกันเอาความเป็นธรรมกลับมา สงสารคนยากคนจนสู้ความค้าคดีก็ไม่มีทุนจะสู้ก็พ่ายแพ้ หมดอะไรต่ออะไรไปเยอะแยะ พระองค์ท่านตรัสว่า เดี๋ยวนี้ขึ้นโรงขึ้นศาลมันแพง ค่าทนายก็แพง ค่าวางมัดจำศาลก็แพง ตั้งสองแสนเยอะมาก ซึ่งก็สงสารศาลเหมือนกันนะ เพราะศาลก็ต้องใช้คนเยอะ เอกสารก็เยอะ ค่าใช้จ่ายต่างๆก็เยอะ โดยเฉพาะศาลใหญ่ๆ ก็ยิ่งต้องมีค่าใช้จ่ายเยอะก็เห็นใจศาลเหมือนกัน แล้วคดีอะไรก็ไม่รู้เต็มไปหมด แทบไม่มีห้องว่างให้ผู้พิพากษาขึ้นตัดสินเลย

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login