วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ฤาหมดมุก?

On August 18, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลังประชาชนอึ้งกับการตั้งคณะกรรมการปฏิรูป 11 ด้านที่วนเวียนตั้งคนหน้าเดิมที่เคยร่วมชุมนุมเป่านกหวีดนั่งเก้าอี้ทำงานมาแล้วหลายตำแหน่งหลังรัฐประหาร ให้หลังวันเดียวกลับมีเรื่องที่อึ้งยิ่งกว่า

เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนโดยเฉพาะในช่วงที่มีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งของประชาชน

เรื่องที่ว่าคือ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ เชิญบรรณาธิการสื่อมวลชนทุกแขนงไปประชุมที่กรมประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา

จุดประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือขอความร่วมมือการนำเสนอข่าวการประชุม คณะรัฐมนตรีนอกสถานที่อย่างเป็นทางการ ที่จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 21-22 สิงหาคมนี้ โดยขอให้สื่อทีวีทุกช่องจัดเตรียมทีมข่าวติดตามการทำภารกิจของรัฐมนตรีรายกระทรวงไม่ให้ไปกระจุกตัวรวมกันเพื่อทำข่าวนายกรัฐมนตรีเพียงคนเดียว

การขอความร่วมมือครั้งนี้ให้สื่อทีวีแต่ละช่องเลือกกันเองว่าจะติดตามรัฐมนตรีคนใดลงพื้นที่เพื่อนำเสนอข่าวต่อประชาชน พร้อมให้จัดทำเป็นสกู๊ปข่าวส่งมาให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 หรือ เอ็นบีทีเพื่อนำออกอากาศเผยแพร่กับประชาชน

“ไม่ใช่เป็นการจัดระเบียบสื่อ แต่เป็นการเชิญมาเพื่อทำความเข้าใจ และขอความร่วมมือในการทำรายงานสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับรัฐมนตรีที่ลงไปในพื้นที่ด้วย เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการประชุม ครม.นอกพื้นที่จะมีแต่ข่าวของนายกรัฐมนตรี ทั้งที่จริงแล้วยังมีรัฐมนตรีคนอื่นๆอีกที่ร่วมลงพื้นที่

รัฐมนตรีเหล่านี้จะได้ไปสัมผัสพื้นที่จริงว่า นโยบายที่รัฐบาลทำลงไปนั้นมีปัญหาอุปสรรคอะไร รัฐมนตรีจะได้เข้าไปช่วยแก้ไขปัญหาให้ ดังนั้น เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารเรื่องต่างๆของรัฐมนตรีได้ถึงประชาชนในสังคมให้มากที่สุดและรอบด้าน จึงได้ขอความร่วมมือ ถามว่าช่องไหนสนใจรัฐมนตรีท่านไหนให้เลือกได้ตามใจชอบ ตามที่สื่อช่องนั้นต้องการ ผมไม่ได้บังคับ ผมให้เลือกตามใจชอบเลย แต่ต้องไม่ซ้ำกันในแต่ละช่อง บางช่องบอกให้ผมเลือกให้ด้วยซ้ำ แต่ผมไม่ได้เลือกให้ เพราะรู้ว่าคาแร็คเตอร์ความสนใจของแต่ละช่องไม่เหมือนกัน เท่าที่เห็นแต่ละช่องก็เลือกกันหมดแล้ว

เป็นคำกล่าวชี้แจงจากพล.ท.สรรเสริญ

แม้จะเข้าใจว่าเป็นการพยายามทำหน้าที่ในฐานกระบอกเสียงรัฐบาล แต่จากการพยายามทำหน้าที่นี้ก็ชี้ให้เห็นว่าฝ่ายกระบอกเสียงของรัฐกำลังหมดมุกที่จะสื่อสารกับประชาชนจึงต้องใช้วิธีขอความร่วมมือแกมบังคับเพื่อให้ประชาชนได้ดูข่าวแบบเปลี่ยนไปช่องไหนก็หนีไม่พ้น

อาจจะเป็นเพราะว่าการบังคับให้ดูรัฐมนตรีออกมาพูดหลังเคารพธงชาติทุกเย็นทุกช่องในรายการเดินหน้าประเทศไทยไม่เป็นผลเพราะเป็นการยัดเยียดที่ประชาชนรู้สึกได้จึงต่อต้านด้วยการกดรีโมตปิดทีวี

ออกอากาศทางช่อง 11 ก็เรตติ้งต่ำคนดูน้อย จึงหาวิธีเนียนๆบังคับให้ประชาชนดูทางอ้อมโดยแทรกไปในรายการข่าวปรกติของทุกช่อง ที่ไม่ใช่การออกอากาศพร้อมกันทุกช่องเหมือนที่เคยทำมาเพื่อไม่ให้ประชาชนรู้สึกว่ากำลังถูกยัดเยียด

แม้จะเรียกว่าขอความร่วมมือจากสื่อ แต่การขอความร่วมมือในยุคนี้ทุกคนก็รู้ว่าปฏิเสธไม่ได้

อย่างไรก็ตาม แม้จะขอความร่วมมือสื่อได้ แต่คงไปขอความร่วมมือประชาชนให้นั่งดูรายการที่ไม่ชอบไม่ได้ เพราะประชาชนมีทางเลือกไม่มีอะไรให้ดูก็ปิดทีวี

ถ้าคิดจะชนะรีโมตในมือประชาชน ต้องไปคิดหาวิธีนำเสนอในมุมที่ประชาชนสนใจ ถ้าตัวข่าวน่าสนใจไม่ต้องขอความร่วมมือไม่ต้องบังคับประชาชนก็เฝ้าติดตามดู


You must be logged in to post a comment Login