วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ความจริงไม่ตาย

On August 14, 2017

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

หลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์  อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพลังงาน ถูกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 ที่ระบุ ผู้ใดนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน  ตามคำร้องทุกข์กล่าวโทษของ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ

ที่มาข้อการร้องทุกข์กล่าวโทษคือกรณีที่นายพิชัยโพสต์ในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพูดถึงทฤษฎีกบต้ม

กรณีนี้มีผู้ออกความเห็นมากมาย ทั้งความเห็นเชิงเศรษฐกิจและการเมือง ซึ่งแน่นอนว่ามีทั้งคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการแจ้งความดำเนินคดีครั้งนี้

ในส่วนบทสรุปของคดีความผลจะออกมาอย่างไรเป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป อย่างไรก็ตามหลังการแจ้งความดำเนินคดีกับนายพิชัยมีข่าวที่เป็นข้อมูลทางเศรษฐกิจข่าวหนึ่งออกมาซึ่งถือว่าน่าสนใจ

ข่าวที่ว่าคือกรณี นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ออกมาเปิดเผยถึง ดัชนีความเชื่อมั่นในเดือนกรกฎาคม 2560 ปรับลดลงทุกรายการและลดต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน

ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคโดยรวม อยู่ที่ 73.9 ลดจากเดือนมิถุนายน 2560 อยู่ที่ 74.9 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 เดือน นับตั้งแต่เดือนมกราคม 2560  ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในปัจจุบัน อยู่ที่ 51.7 ลดจาก 52.9 ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคในอนาคต อยู่ที่ 83.1 ลดจาก 84.1 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม อยู่ที่ 62.2 ลดจาก 63.3 ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสในการหางาน อยู่ที่ 69.1 ลดจาก 70.0 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต อยู่ที่ 90.4 ลดจาก 91.5

นายธนวรรธน์ ยังบอกว่า ดัชนีปรับลดลง เนื่องจากผู้บริโภคกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือ ส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจในพื้นที่และราคาพืชผลทางการเกษตรอยู่ในระดับต่ำและปรับลดลงช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทั้งราคาข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ปาล์มน้ำมัน และสับปะรดโรงงาน ทำให้กำลังซื้อทั่วไปในต่างจังหวัดไม่คล่องและขยายตัวต่ำ

ประกอบกับผู้บริโภคกังวลว่าแนวโน้มเศรษฐกิจไทยอาจจะยังไม่ฟื้นตัวดีขึ้นมาก อย่างที่คาดการณ์ไว้ และยังกังวลต่อปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าทรงตัวอยู่ในระดับสูง รายได้ไม่สอดคล้องค่าใช้จ่าย บวกกับราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น

“การลดลงของดัชนี 3 เดือนติดกัน ดูจากข้อมูลเป็นการลดลงจากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ ซึ่งน้ำท่วมน่าเกิดผลระยะสั้น กระทบในวงจำกัดไม่บานปลาย จึงไม่น่ามีผลต่อดัชนีเดือนสิงหาคมนี้ แม้หลายฝ่ายปรับเพิ่มตัวเลขภาพเศรษฐกิจมหภาค แต่มุมมองและความรู้สึกของผู้บริโภคชนชั้นกลางและฐานรากยังไม่รับรู้ว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ราคาเกษตรยังต่ำ ส่งผลต่อกำลังซื้อฐานรากซึมตัว ยอดขายธุรกิจจึงหายไปจนน่ากังวล ประกอบกับธุรกิจกังวลปัญหาแรงงานต่างด้าว อาจกระทบต่อธุรกิจและการส่งออก ตอนนี้อัตราว่างงานอยู่ที่ 1.2% ซึ่งเกินค่าเฉลี่ยแล้ว ทำให้ผู้บริโภคมองเศรษฐกิจฟื้นตัวไม่โดดเด่นและไม่เร็ว กระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ภาครัฐควรเร่งกระตุ้นการใช้จ่ายและเร่งรัดการลงทุน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากด้วยการเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน

สำหรับดัชนีความเหมาะสมการซื้อรถยนต์คันใหม่ในปัจจุบัน เดือนกรกฎาคม อยู่ที่ 77.4 ลดจาก 80.0 เดือนมิถุยายน ขณะที่ดัชนีความเหมาะสมในการซื้อบ้านหลังใหม่ในปัจจุบัน อยู่ที่ 58.0 ลดจาก 61.3 ดัชนีความเหมาะสมในการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวในปัจจุบัน อยู่ที่ 62.1 ลดจาก 65.7 ดัชนีความเหมาะสมในการลงทุนทำธุรกิจในปัจจุบัน อยู่ที่ 41.7 ลดจาก 43.0 ดัชนีวัดความสุขในการดำรงชีวิตในปัจจุบัน อยู่ที่ 78.0 ลดจาก 79.1 ดัชนีภาวะค่าครองชีพในปัจจุบัน อยู่ที่ 71.0 ลดจาก 72.9 ดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดในปัจจุบัน อยู่ที่ 64.9 ลดจาก 67.0 และดัชนีความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในปัจจุบัน อยู่ที่ 79.0 ลดจาก 81.4

สรุปเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวดีอย่างที่คาดการณ์ ประชาชนมีความวิตกกังวลชะลอการจับจ่าย มีผู้ว่างงานสูงกว่าเกินกว่าค่าเฉลี่ย

นี่เป็นข้อมูลตัวเลขทางวิชาการที่มีการสำรวจและเปิดเผยกันเป็นประจำทุกเดือน

ข้อมูลเหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งนายพิชัย เป็นประโยชน์ต่อทั้งนายทหารพระธรรมนูญที่เป็นผู้แจ้งความร้องทุกข์ เป็นประโยชน์ต่อทั้งพนักงานสอบสวนที่ทำสำนวนคดีและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั่วไปที่สนใจข่าวสารบ้านเมือง

ส่วนใครจะนำข้อมูลนี้ไปใช้ประโยชน์เพื่ออะไรก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา


You must be logged in to post a comment Login