วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

ไม่มียางอาย / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On May 1, 2017

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ช่วงนี้ฤทธิ์เทคโนโลยีเป็นไปอย่างที่ “หลวงพ่อพุทธทาส” พูดว่า “วิวัฒนการทางเทคโนโลยีมันจะนำไปสู่ความวินาศกาศทางศีลธรรม” เราคงเห็นตำตาตำใจ เช่น กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์หลังมีการแชร์คลิป Live สดอดีตนักร้องและนายแบบชื่อดัง “นิกกี้ 9 นิ้ว-สุระ ธีระกล” กับเพื่อนชายสวมหน้ากากลิงพูดคุยกับหญิงสาวผมแดงที่เป็นเน็ตไอดอลชื่อดัง เรื่องขนาดหน้าอกและกิจกรรมทางเพศ ทั้งยังให้หญิงสาวถอดชุดทูพีซท่อนบน แต่ใช้มือปิดหน้าอกไว้ หญิงสาวยังเต้นโชว์ประกอบเพลงและส่งเสียงยั่วยุอารมณ์ทางเพศ

เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่านิกกี้ทำผิดกฎหมาย ซึ่งเจ้าตัวก็ขอโทษอ้างว่าที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็สะท้อนว่า ทุกวันนี้มีพวกที่มีพฤติกรรมอย่างนี้จำนวนมาก ทำให้วัยรุ่นใจแตก แล้วใครจะประสานให้กลับมาเป็นเนื้อเดียวเนื้อแท้ หลายคนอาจบอกว่าเป็นเรื่องค่านิยม แต่มันทำลายขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีที่ดีงาม ระบาดหนักเข้าก็ขายเนื้อขายตัว

สื่อก็เอามาออกให้รับรู้รับทราบ ไม่ดูว่าจะเสื่อมเสียในอนาคตอย่างไร จึงต้องวิพากษวิจารณ์ ต่อว่าต่อขานกันบ้าง เพื่อยับยั้งการกระทำแบบนี้ ที่นับวันเสื่อมเสียมากขึ้น ประเทศชาติเราก็จะถูกตราหน้าว่า “ไม่มียางอาย” แต่กลับเอาคำโบราณที่ว่า “ด้านได้ อายอด” มาเป็นค่านิยม มาขยายความ หนักเข้าก็กลายเป็นความถูกต้องชอบธรรม แต่ไม่ใช่ความถูกต้องชอบธรรมตามหลักทางศาสนา

กลายเป็นว่าเอ็งทำได้ ฉันก็ทำได้ ไม่มีใครตำหนิติเตียน เมื่อไม่มีความถูกต้องชอบธรรม อารมณ์มนุษย์มันก็ทะลุทะลวงให้ทำแบบไม่อายฟ้าดิน ไม่กลัวจะผิดศีลผิดธรรม อย่างที่ชอบพูดกันว่า “จะว่ายังไงฉันก็ไม่แคร์ เนื้อหนังฉัน ร่างกายฉัน” แต่ไม่คิดว่าการยั่วกิเลสเพื่อนมนุษย์นี่มันเป็นบาปเป็นกรรม เป็นหายนะทางวัฒนธรรม แล้วคดีข่มขืนอะไรต่างๆ มันก็เพิ่มมากขึ้น เพราะการกระตุ้นพวกนี้

เมื่อเกิดเรื่องเกิดราวมามันก็ทำให้เศร้าใจ อย่างที่แม่ฮ่องสอน ถ้าเป็นจริง ขนาดผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดยังตกเป็นข่าว ก็น่าเป็นห่วงสังคมไทยที่ฟอนเฟะเละเทะ มันก็เพราะภาพที่มายั่วยุ ขนาดแก่จะแง้มฝาโรงยังเสียผู้เสียคนไปแง้มก้นเด็ก

คงเห็นกันแล้วว่ามันหนักหนาสาหัสขนาดไหน ใช้สื่อต่างๆมากระตุ้นอารมณ์ คนก็มีแต่เรื่องใฝ่ต่ำ มีแต่เรื่องกำหนัด กิเลส ตัณหา ราคะ แล้วประเทศชาติจะได้คนมีแรงมีสมองไปคิดไปไตร่ตรองเรื่องสร้างสรรค์ เรื่องดีงามให้กับบ้านเมืองอย่างไร เมื่อสมองมันคิดไปในทางไม่ดี จนกระทั่งสังคมก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมดาไป กลายเป็นเรื่องหน้าชื่นตาบาน เพราะมีคนทำกันเยอะ

เอาล่ะ ยังโชคดีที่มีคนวิพากษ์วิจารณ์ ต่อต้าน ซึ่งคงทำให้ยับยั้งไม่ให้คนใช้สื่อไปในทางยั่วยุเสื่อมเสียกันต่อไป

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login