- มาสนใจกีฬาให้ยาบ้าหายไปPosted 5 hours ago
- ฝึกต้อนรับให้ดีจะมีสิ่งที่ดีPosted 2 days ago
- ต้องกวาดล้างสิ่งสกปรกPosted 2 days ago
- อย่าเอายศไปทำความอัปยศPosted 6 days ago
- แนะพระอย่าลืม 4 รักPosted 1 week ago
- ยิ้มไว้ไม่ทุกข์สนุกดีPosted 1 week ago
- กวาดล้างพวกขี้เหล้า-เมายาPosted 1 week ago
- ฟังกันบ้างPosted 2 weeks ago
- เป้าหมาย “สงกรานต์”Posted 2 weeks ago
- ตำรวจน้ำดียังมีPosted 2 weeks ago
ส่อง‘เศรษฐกิจโลก2017’
นักวิเคราะห์ชั้นนำหลายสำนัก มองเศรษฐกิจโลกปีนี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า จะขยายตัวมากกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยสหรัฐ จีน สหภาพยุโรป (อียู) และอังกฤษ เป็นตัวแปรสำคัญ
บริษัท Focus Economics สำนักให้บริการข้อมูลทางเศรษฐกิจชั้นนำของโลก แห่งสเปน ระบุผลสำรวจความเห็นนักวิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจโลกปีนี้จะขยายตัวเพิ่มจาก 2.5% ในปีที่แล้ว ขึ้นไปที่ 2.9%
ขณะธนาคาร JPMorgan Chase & Co. คาดว่าจะขยายตัว 2.8% ส่วนสำนักวิจัย Goldman Sachs Research มีมุมมองเชิงบวกมากกว่า โดยให้ตัวเลขไว้ที่ 3.0-3.5% ใกล้เคียงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) ซึ่งคาดว่าจะขยายตัว 3.4%
ส่วนธนาคารโลกคาดว่าจะขยายตัว 2.8% โดยมองว่าสหรัฐจะขยายตัวมากกว่าปีที่แล้วที่ 2.2% ขณะจีนขยายตัวลดลงเหลือ 6.5% ญี่ปุ่นขยายตัวเท่าปีที่แล้วที่ 0.5% และไทยขยายตัวมากกว่าปีที่แล้วเล็กน้อยที่ 2.6%
สำหรับกลุ่มประเทศอียู มีปัญหาหลักจากอิตาลีเผชิญวิกฤตภาคธนาคาร ปัญหาการเมืองในหลายประเทศ และปัญหาจากสหราชอาณาจักรออกจากการเป็นสมาชิกอียู
แต่การทำงานของธนาคารกลางยุโรป ช่วยให้ปัญหาทางเศรษฐกิจผ่อนคลายลงได้ระดับหนึ่ง คาดว่าเศรษฐกิจอียูจะขยายตัว 1.5%
ขณะสหราชอาณาจักรก็เผชิญความไม่แน่นอนทางการเมือง คล้ายกับอียูหลายประเทศ ทำให้ภาคการลงทุนซบเซา ส่งผลกระทบต่ออัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม จากแผนที่ทรงประสิทธิภาพของธนาคารกลางอังกฤษ ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรจะเติบโตสูงกว่าปีที่แล้วที่ 1.3%
ส่วนสหรัฐ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นักวิเคราะห์มองว่าเศรษฐกิจจะเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
ทรัมป์ประกาศจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ขยายตัวปีละ 3.5% แต่นักวิเคราะห์บางสำนักคาดว่า เศรษฐกิจของสหรัฐจะขยายตัวในปีนี้เท่ากับตัวเลขคาดการณ์ของธนาคารโลกที่ 2.2%
สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก จีน ซึ่งเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ ยังคงเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แม้แนวโน้มเศรษฐกิจของจีนจะขยายตัวลดลงก็ตาม
ขณะความเสี่ยงที่สำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อยู่ที่ “สงครามการค้า” ระหว่างสหรัฐกับจีน
หากทรัมป์ทำ “สงคราม” แรงกับจีน เป็นไปได้ที่ตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจที่ระบุทั้งหมด จะคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง
You must be logged in to post a comment Login