วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

รัฐประหารยิ่งถอยหลังเข้าคลอง / โดย ประชาธิปไตย เจริญสุข

On January 2, 2017

คอลัมน์ : ฟังจากปาก
ผู้เขียน : ประชาธิปไตย เจริญสุข

อาจารย์อัษฎางค์มองภาพรวมสถานการณ์การเมืองในปี 2560 ว่ายังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง อำนาจยังอยู่ที่เดิม ที่ไม่แน่นอนคือการเลือกตั้งปลายปี 2560 อาจไม่มีตามโรดแม็พที่รัฐบาลคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศไว้ เชื่อว่าประเทศไทยต้องเป็นรัฐบาลทหารไปอีกนาน ทั้งรัฐธรรมนูญก็ไม่ส่งเสริมประชาธิปไตย เมื่อการเมืองไม่มีเสถียรภาพจะกระทบเศรษฐกิจและสังคมทุกเรื่อง เพราะพิสูจน์แล้วว่าเกือบ 3 ปีไม่มีอะไรดีขึ้น ทำได้แต่แก้ปัญหาสั้นๆชั่วคราว ที่รัฐบาล คสช. คุยว่ามีผลงานดี ความจริงแก้ปัญหาไม่สุดสักเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ความยุติธรรม โดยเฉพาะความไม่เป็นธรรมในสังคมยังเหมือนเดิม ปัญหาเกษตรกรก็แก้ไม่ได้ ปัญหาน้ำขณะนี้ก็ไม่แน่ใจว่าได้ผลเต็มที่หรือไม่

รัฐบาลทหารซึ่งมีอำนาจมากกว่ารัฐบาลพลเรือน ถ้าเก่งแล้วมีวิสัยทัศน์ที่ดีต้องแก้ปัญหาพวกนี้ได้อย่างเบ็ดเสร็จ บางเรื่องที่ทำอยู่ เช่น ไม่ให้คนขายของตามทางเท้า ถ้าเป็นรัฐบาลพลเรือนทำไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่การแก้ปัญหาใหญ่ ปัญหาคนไม่เชื่อฟัง เพราะรัฐบาลพลเรือนปอดแหก ไม่กล้าทำตามกฎหมาย ขณะที่รัฐบาล คสช. อยากให้คนทำถูกต้องตามกฎหมาย แต่เรื่องใหญ่ๆ เรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ประพฤติมิชอบ การเอาเปรียบทางสังคมกลับไม่มีความยุติธรรม ยังมีสองมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ผมยืนยันว่าความไม่เป็นธรรมในสังคมยังเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อยังมีระบบอุปถัมภ์ก็แก้การเอาเปรียบทางสังคมไม่ได้ ทำให้การทุจริตคอร์รัปชันยังบานเบอะอยู่

ถ้าจะลงโทษก็เจอพวกตัวเอง เจออะไรต่ออะไร ความผิดเก่าก็เยอะแยะ เรื่องจีที 200 เรื่องสร้างโรงพัก เรื่องเรือเหาะ ยังไม่มีความคืบหน้าเลย มันแย่ ไม่มีความเสมอภาค ไม่มีความเป็นธรรมในสังคม ผมขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ถ้าไม่สามารถสร้างความยุติธรรมให้คนยอมรับได้ และปี 2560 รัฐบาล คสช. ก็ไม่แก้ จะปัดฝุ่นไว้ใต้พรม พรรคพวกเดียวกันก็เงียบอะไรอย่างนี้ คุณโปร่งใสจริงมั้ย เราไม่รู้ ซื้อโน่นซื้อนี่ ประมูลโน่นประมูลนี่ คุณสร้างหนี้มากมาย อย่างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ ทำไมไม่ไปขยายความเจริญในภูมิภาคบ้างล่ะ ถ้าคุณมีวิสัยทัศน์จริง คุณต้องกระจายรายได้ กระจายอำนาจไปยังท้องถิ่น

ปรับเปลี่ยนคณะรัฐบาลทั้งหมด

คุณปรับคณะรัฐมนตรีก็นึกว่าปรับใหญ่ ยังเป็นคนในกลุ่มเดียวกัน โยกคนโน้นไปอยู่ตรงนี้ อำนาจไม่ได้เปลี่ยน คนมีอำนาจจะต้องเอาคนเก่งๆเข้ามา แค่อ่านหนังสือพิมพ์ ดูข่าวทีวีก็รู้แล้วว่าเศรษฐกิจไม่ได้ดีขึ้นเลย ตามห้างสรรพสินค้าไม่มีคนซื้อของ มีแต่คนเดินเล่น ที่ผมแปลกใจไปหัวหิน ตลาดหัวหินเคยเห็นพระเต็มเลย คนมาใส่บาตรเยอะแยะ แต่วันนี้พระก็ไม่มี คนใส่บาตรก็ไม่มี ถามพวกพ่อค้าแม่ค้าบอกว่าเดี๋ยวนี้บรรยากาศเงียบเหงา ตรงนี้สะท้อนถึงปัญหาเศรษฐกิจ แม้แต่ชนบทเล็กๆยังไม่มีการจับจ่ายใช้สอย คนระดับล่างไม่มีอำนาจซื้อ คนมีอำนาจซื้อมีแค่ 20%

ขนาดพวกที่มีสายป่านยาวยังต้องประคองตัวและเก็บเงินไว้ ไม่กล้าลงทุน ความจริงรัฐบาล คสช. น่าจะมองออก เพราะมีตัวชี้วัดเยอะแยะ มีแต่ไปโฆษณาชวนเชื่อว่าเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว อัดฉีดอะไรนั้นไม่ทำให้อะไรดีขึ้น พวกนายทุนทั้งหลายต้องลงทุนจึงจะดีขึ้น แต่นี่ไม่ลงทุนเลย

ผมคิดว่าต้องเปลี่ยนหมด ถ้าเป็นผม ผมจะโละทีมเศรษฐกิจของคุณสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ทั้งหมด เพราะตั้งมานานแล้วแต่เศรษฐกิจยังไม่มีอะไรดีขึ้น ซ้ำยังโดนพรรคพวกเก่ากระแหนะกระแหนตลอดเวลา เอาวิธีเดิมๆของพรรคเพื่อไทยมาใช้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่เคยลงไปดูข้างล่าง พวกลูกศิษย์รามคำแหงของผมรายงานว่าข้างล่างก็เละเทะ ทุจริตโครงการต่างๆ นายอำเภอก็ดูไม่หมด ผู้ว่าราชการจังหวัดก็ไม่ตรวจสอบ ผมว่าระบบราชการมันหละหลวมไปหมด อ่อนแอไปหมด

ผมว่ารัฐบาล คสช. และทีมเศรษฐกิจรู้ว่าไม่มีอะไรดีขึ้นเลย แต่ไม่ยอมรับความจริง ยังทำโน่นทำนี่ไปเรื่อยๆ ใช้เงินลงทุนฟุ่มเฟือย ผมไม่แน่ใจว่าถ้ามีการเลือกตั้งเร็วขึ้นแล้วต่างประเทศจะเข้ามาลงทุนมากขึ้นหรือไม่ หากประเทศไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ผู้ลงทุนก็ไม่กล้า เว้นแต่กลุ่มทุนจากประเทศเก่าๆอย่างญี่ปุ่น

รัฐบาล คสช. ยืนยันว่าการเลือกตั้งยังเป็นไปตามแผนโรดแม็พ บังเอิญเรายังอยู่ในระยะโศกเศร้า แต่ประเทศก็ต้องเดินหน้า เพราะฉะนั้นผมคิดว่าไม่น่าจะมีเหตุอะไรทำให้ประเทศหยุดชะงัก ประเทศเดินหน้าได้ถ้ามีฝีมือจริง

ผมเชื่อว่าปี 2560 สถานการณ์ของประเทศภายใต้ คสช. ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรนัก การปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องรอการพิสูจน์ฝีมือ เอาแค่กระทรวงศึกษาธิการไม่รู้ว่าลองผิดลองถูกมากี่คนแล้วก็ยังทำอะไรไม่ได้ ผมคิดว่าทุกประเทศต้องมีคนเก่ง คุณต้องไปเฟ้นหามา ไม่ใช่คิดว่าพรรคพวกตนเก่งเท่านั้น คุณต้องกล้าไปเชิญคนเก่ง ผมมองว่าการปรับ ครม. ครั้งนี้น่าผิดหวัง

ถ้าพูดตามสถานการณ์ทั่วไป วิเคราะห์ผลงาน 2 ปีครึ่งที่ทำมา และยังอยู่อีกปีกว่าถึงสิ้นปี 2560 คสช. ยังมีอำนาจตามรัฐธรรมนูญ มันจึงไม่ง่ายที่จะพลิกฟื้นให้เร็ว ผมว่าเขาต้องแก้ปัญหาภายในก่อน แค่ล็อตเตอรี่ขายเกินราคารัฐบาล คสช. ยังแก้ไม่ได้เลย จริงๆแล้วการบริหารจัดการมันแก้ได้อยู่แล้ว เพียงแต่คุณต้องไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวและพวกพ้อง ความซื่อสัตย์เป็นคำถามของทุกประเทศในโลก ขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศก็มีเครื่องหมายคำถามแปะทันทีว่ายูซื่อสัตย์จริงหรือเปล่า ไม่ใช่ดีแต่พูด ต้องแสดงให้เห็นวิธีการที่ใช้ปราบปรามทุจริตประกอบด้วยอะไรบ้าง การให้ความเสมอภาค การให้ความเป็นธรรม ต้องแสดงออกว่าทำอย่างไร มีวิธีดำเนินการอย่างไร ทำให้สังคมเห็นแล้วเขาจะยอมรับคุณเอง คุณพูดอย่างเดียว สังคมไม่ได้เห็นวิธีการที่คุณใช้ก็ไปไม่รอด

สัญญาณที่ทำให้ประเทศดีขึ้น

สถานการณ์ในปี 2560 ยังไม่เห็นสัญญาณว่าจะดีขึ้นเลย ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม ยังไม่เห็นปัญหาใดที่แก้ไขได้อย่างเด็ดขาดหรือแก้ตรงจุด ช่องว่างระหว่างชนชั้น อย่างเรื่องภาษีก็ยังไม่กล้าออกภาษีทรัพย์สิน กลัวคนรวยเสียภาษีทางตรงก็ไม่กล้าเก็บ ที่ดินที่ว่างเปล่าเต็มไปหมดก็ไม่กล้าเก็บภาษี แต่จะเก็บภาษีโรงเรือนที่มันนิดหน่อยเอง ทั้งที่ขณะนี้ผู้ที่มีอำนาจคือคณะรัฐประหาร ทหารใหญ่ที่สุด คนอื่นไม่กล้าหือตอนนี้ นักการเมืองก็เฉย รอเปิดรูเมื่อไรก็ออกจากรูมาเล่นการเมือง ซึ่งหน้าเก่าๆ เล่นการเมืองแบบเดิม ประเทศก็เป็นเหมือนเดิม มันต้องเปลี่ยนและปฏิรูปการเมืองใหม่ด้วยการปฏิรูปคนด้วย นักการเมืองต้องเลิกนิสัยเดิมๆ ข้าราชการต้องเลิกคอร์รัปชัน

ประชาชนต้องเข้าใจว่าการมีส่วนทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยมีอะไรบ้างจะได้ให้ความสนใจมากขึ้น องค์ประกอบทางการเมืองคือนักการเมือง ข้าราชการ และประชาชน ต้องเปลี่ยนทัศนคติใหม่หมด ต้องใช้เวลาในการศึกษาด้วย ใช้ระบบกฎหมายไม่พอ ต้องลงมือปฏิบัติไม่มีเว้น แต่พอเจอพรรคพวกกันก็หยุดหมด ตำรวจ ทหาร ใครมีเส้นก็สบาย ถ้ามีพรรคพวกอยู่ในวงการผู้มีอำนาจ ถูกจับก็ไม่ผิด ได้รับการปฏิบัติไม่เหมือนกัน คุณต้องทำให้สังคมมีความเป็นธรรมเสียก่อน เป็นธรรมมากที่สุด ไม่ต้องถึง 100% แต่พึ่งได้ ให้เขามีทางออก ให้เขามีชีวิตที่สะดวกสบาย ได้รับการดูแลเท่าที่ควร

นี่จะเข้าโรงเรียนก็ต้องมีเส้น เสียเงินหมด แย่ไปหมด แก้ไม่ได้แม้กระทั่งรากหญ้า การศึกษาสำคัญมาก แต่เด็กไทยยังได้เรียนไม่เหมือนกัน ใครอยู่ถิ่นทุรกันดารก็เรียนอย่าง ใครอยู่เมืองใหญ่ก็ได้รับการดูแลอีกอย่าง แล้วเป็นประชาธิปไตยตรงไหน ความเสมอภาคไม่มี

ผมขอย้ำว่าการปฏิรูปประเทศทุกด้านของรัฐบาล คสช. จนถึงเวลานี้ยังไม่เห็นผลงานอะไรเลย ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย เมื่อเป็นอย่างนี้ คสช. ยึดอำนาจทำไม ประเทศไทยไม่เคยคำนึงถึงสิ่งที่สูญเสีย ยึดอำนาจมา 20 กว่าครั้ง ยึดสำเร็จเรียกว่ารัฐประหาร ยึดไม่สำเร็จเรียกว่ากบฏ แต่ไม่มีใครถูกลงโทษข้อหากบฏ หรือจับแป๊บเดียวก็ปล่อย ทำกันเป็นว่าเล่น ใครรู้มั้ยว่าประเทศไทยรัฐประหารมากว่า 10 หน ประเทศดีขึ้นมั้ย ไม่มีเลย มีแต่ถอยหลังเข้าคลองแล้วกลับไปนับหนึ่งใหม่ รัฐประหารเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาระบอบประชาธิปไตย รัฐประหารไม่มีประโยชน์เลย เพราะองค์กรทหารไม่เข้าใจคำว่าประชาธิปไตย แก้ปัญหาก็เอาปืนมาจี้ ไม่เป็นผลดีต่อประเทศเลย

เลื่อนเลือกตั้งหรือไม่

รัฐบาล คสช. คงดูสถานการณ์ว่ามีอะไรที่จะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปหรือไม่ ถ้าเลื่อนก็อาจนิดหน่อยประมาณเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ถ้านานจะมีคลื่นใต้น้ำ ประชาชนจะลุกขึ้นมาเรียกร้องทวงถามสัญญาถ้าคุณผิดคำพูด ประชาชนไม่ได้ตาบอด ไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิดกัน ตรงนี้ไม่มีใครทำนายได้ว่าจะรุนแรงหรือไม่ เพราะประเทศไทยมีลักษณะเรื่อยเฉื่อย คนไทยไม่ใช่คนหัวแข็ง ไม่ใช่คนรุนแรง แต่โอกาสที่จะเห็นกงล้อประวัติศาสตร์ในอดีตก็อาจเป็นไปได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับความกดดันคือปัจจัยภายใน ส่วนปัจจัยภายนอก ถ้าเป็นประชาธิปไตยเร็ว ความร่วมมือจากต่างประเทศก็จะดีขึ้น

การใช้มาตรา 44

เรื่องกฎหมายไม่สำคัญ ความกดดันของฝูงชนไม่สนกฎหมายหรอก ประเทศประชาธิปไตยใหญ่ๆยังไม่กลัวเลย อย่างเยอรมนีหรืออเมริกาฝูงชนก็ออกมาประท้วงบนท้องถนน เกาหลีใต้ก็ออกมาเป็นล้าน มีการจุดเทียน แต่ไม่ทำลายข้าวของ เผาโน่นเผานี่เหมือนอเมริกา นี่เป็นตัวอย่างที่ดี เป็นการแสดงพลังของประชาชน ถามว่าประเทศไทยปลุกขึ้นหรือไม่ ผมคิดว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยต้องไม่มีใครปลุก มันต้องเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะสื่อโซเชียลมีเดียมันไปได้เร็ว

ของไทยจะไม่รุนแรงเหมือนเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 แน่นอน ผมอยากให้ดูเกาหลีใต้เป็นตัวอย่าง ในอดีตเขาเป็นเผด็จการยิ่งกว่าเราอีก ตอนนี้กลับเป็นประชาธิปไตยได้รวดเร็วมาก มีความรู้สึกหวงแหนเรื่องของส่วนรวม แต่ของเราขณะนี้ถอยหลังกว่าเกาหลีใต้ 10 ปีแล้ว เขาหนีเราไปแล้วไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตาม

รัฐบาลหลังการเลือกตั้ง

ผมไม่แน่ใจ ดูภาพทั่วๆไปคล้ายว่าเขาจะลากยาว เขาไม่อยากลาก แต่ก็มีเหตุให้ลากได้ เพราะตอนนี้เขาแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ แก้ไม่สำเร็จ แล้วจะลงจากหลังเสืออย่างไรล่ะ แค่มาตรา 44 ก็ถูกฟ้องจำนวนมากแล้ว ส่วนแนวโน้มที่ พล.อ.ประยุทธ์จะเป็นนายกฯถึง 10 ปีนั้น ผมคิดว่าไม่ จะเปลี่ยนตัวหรือไม่ก็อยู่ที่กลุ่มอำนาจทหาร ผมเองก็ยังไม่แน่ใจว่า พล.อ.ประยุทธ์จะมาเป็นนายกฯคนนอกหรือไม่ ขอย้ำว่าอยู่ที่กลุ่มอำนาจทหารจะให้ใครเป็น


You must be logged in to post a comment Login