วันศุกร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567

มีสติอย่าเผลอไผล / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On December 21, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ใครเอ่ยอยู่ฝ่ายเฮ ใครเอ่ยอยู่ฝ่ายโฮ เมื่อพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกับผู้สื่อข่าว ปะทะกันแรงเรื่องปรับคณะรัฐมนตรี แต่สุดท้ายโผก็พลิกผัน

เพราะรัฐบาลโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรับคณะรัฐมนตรีล่าสุด แม้จะมีการปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่ง แต่ส่วนใหญ่เป็นการสลับตำแหน่ง เอารัฐมนตรีไปสับเปลี่ยนหน้าที่กันถึง 12 ตำแหน่ง คือเข้ามาใหม่ 8 คน อีก 7 คนสลับตำแหน่งกัน

เมื่อประกาศออกมาก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเป็นธรรมดา แค่ที่น่าจะนำมาทบทวนกันคือเรื่อการคาดเดาคาดการณ์ต่างๆนานาก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลนี้ถูกรุกถูกถามมากที่สุด เพราะเรื่องปากท้องเป็นเรื่องใหญ่ เป็นปัญหามาก

แต่ที่เป็นข่าวอีกด้านคือเรื่องของนักข่าวก่อนปรับคณะรัฐมนตรีไปบอกว่า พล.อ.ประวิตรจะปิ๋วจากตำแหน่ง แต่กลับไม่ปิ๋ว ใครหน้าแตกหน้าแหกระหว่างพล.อ.ประวิตรกับนักข่าว ตอนนั้นรู้สึกว่าพล.อ.ประวิตรจะเล่นแรง อัดนักข่าวว่าขายข่าว พูดเอง เออเอง ทำไมมาทำกับท่าน

ส่งผลให้นักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่งหน้าแตกเย็บไม่ติดไปหลายเข็มเลย เพราะไม่คิดว่าท่านจะไม่มีไม้เด็ด ไม่รู้ว่ามีลับลวงพรางอะไรกันมาก่อนหรือเปล่าไม่รู้ล่ะ แต่ตั้งใจจะฉีกหน้านักข่าว นักข่าวก็แอ่นหน้าไปให้ฉีกเอง หรือคาดหวังให้เป็นข่าวก็ไม่รู้

เรื่องมันก็เลยกลายเป็นเรื่องการศอกกลับ แรงมาก็แรงไป คือทำให้เขาต้องย้อนกลับเอาได้แรงๆถ้าพล.อ.ประวิตรถูกปรับออกจากคณะรัฐมนตรีจริง นักข่าวก็คงจะเฮกัน เพราะเป็นไปตามข่าว แต่เมื่อท่านไม่ออกแล้วไปบอกอย่างโน้นอย่างนี้ ท่านก็เป็นฝ่ายเฮบ้าง นักข่าวก็หน้าตาแตกไปตามๆกัน

ตรงนี้ถือเป็นบทเรียนที่พึงสังวรว่า จะทำอาชีพอะไร อย่าเผลอไผลไปขีดไปคาดการณ์ดักหน้า ไม่ควรไปมโนอะไรต่างๆให้มากเกินไป ถ้าไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนจริง นิ่งๆไว้ดูและท่าทีไปก่อนว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อย่างนี้จะปลอดภัยกว่า

การหาข่าวทำข่าว แม้จะเป็นอาชีพ แต่ก็ไม่จำเป็นจะต้องไปคาดเดาจนเกินความจริงมากไป ก็จะสุ่มเสี่ยงที่จะผิดมาก ถ้าผิดแล้วก็เข้าตัวเอง เพราะถ้าคนเขาได้ยินได้ฟัง เขาก็จะรู้ว่าจริงเท็จ แต่ที่แน่ๆท่านพล.อ.ประวิตรท่านได้แต้มแล้วสำหรับคราวนี้

ส่วนนักข่าวก็เสียแต้มไป เสียความน่าเชื่อถือที่ไปคาดเดาแล้วไปรุกเร้าเขามากเกินไป แต่ท่านเป็นผู้ใหญ่คงไม่เฮใส่หน้านักข่าว หรือไปสมน้ำหน้าอะไร อย่างนั้นท่านคงไม่ทำ เพราะท่านก็เป็นลูกผู้ชายชาติทหาร

อย่างไรก็ตาม งานนี้ทำให้มองเห็นถึงกำพืดหรือภูมิหลังของใครต่อใครกันพอสมควร และเชื่อว่าต่อไปนี้คงจะมีสติและรู้ว่าอะไรจริงอะไรลือ จะเล่นข่าวเล่นอะไรก็ต้องดูให้แน่นอนก่อน เพื่อจะได้ไม่เสียแต้ม เสียคะแนน เสียหน้ากันมากไปกว่านี้

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login