วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

หีบแห่งพันธสัญญา / โดย บรรจง บินกาซัน

On November 21, 2016

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

ประวัติศาสตร์ทางศาสนาบอกให้เรารู้ว่า เดิมทีลูกหลานอิสราเอลเป็นผู้นับถือศาสนาที่ศรัทธาในพระเจ้าองค์เดียวหรือเป็นมุสลิมมาก่อน เพราะพวกลูกหลานอิสราเอลได้สัญญากับยาโกบ (หรือนบียะกู๊บ) พ่อของพวกตนไว้ก่อนตาย แต่เมื่อผิดสัญญาแห่งศรัทธา พวกลูกหลานอิสราเอลก็ถูกพระเจ้าลงโทษให้ตกเป็นทาสของชาวอียิปต์ในสมัยฟาโรห์

แม้โมเสสจะถูกส่งมาช่วยพวกลูกหลานอิสราเอลให้พ้นจากการตกเป็นทาสของฟาโรห์ แต่ยังไม่ทันที่โมเสสจะจากโลกนี้ไป พวกลูกหลานอิสราเอลก็ทรยศกับพระเจ้าของพวกตนด้วยการหันไปเคารพสักการะรูปปั้นโคทองคำ ซึ่งทำให้โมเสสโกรธคนเหล่านี้เป็นอย่างมาก

หลายคนที่เคยดูภาพยนตร์เรื่องบัญญัติ 10 ประการ คงได้เห็นภาพตอนที่โมเสสถือศิลาจารึกบัญญัติ 10 ประการลงมาจากภูเขาซีนาย และขว้างแผ่นศิลาจารึกนั้นลงบนพื้นจนแตกเป็นเสี่ยงๆ เพราะความโกรธพวกลูกหลานอิสราเอลที่ผิดสัญญากับพระเจ้าอีก แม้โมเสสจะพาตัวแทนพวกลูกหลานอิสราเอลไปขออภัยโทษต่อพระเจ้า แต่หลังจากนั้นพวกลูกหลานอิสราเอลก็แสดงพฤติกรรมท้าทายพระเจ้าอีกครั้งแล้วครั้งเล่า

หลังจากโมเสสจากไป พวกลูกหลานอิสราเอลได้เก็บเศษศิลาจารึกบัญญัติ 10 ประการ ไม้เท้าของโมเสส และขวดใส่มันนะ (ยางเหนียวรสหวานที่พระเจ้าประทานแก่พวกลูกหลานอิสราเอลระหว่างเร่ร่อนอยู่ในคาบสมุทรซีนาย) ไว้ในหีบใบหนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า “หีบแห่งพันธสัญญา” (Ark of Covenant)

พวกลูกหลานอิสราเอลถือว่าหีบแห่งพันธสัญญานี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก และเชื่อว่าด้วยหีบใบนี้เองที่ “พระเจ้าจะเสด็จมายังหมู่เราและช่วยเราให้รอดพ้นจากอำนาจของศัตรู” หีบแห่งพันธสัญญาใบนี้จึงกลายเป็นวัตถุมงคลสำหรับพวกลูกหลานอิสราเอล ดังนั้น ไม่ว่าจะเร่ร่อนไปที่ใด พวกลูกหลานอิสราเอลจะแบกหีบพันธสัญญาใบนี้ไปด้วย

ระหว่างเร่ร่อนอยู่ในแผ่นดินซีนาย พวกลูกหลานอิสราเอลถูกชนชาติต่างๆที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินนั้นโจมตีขับไล่จนอยู่ไม่เป็นสุข และหนึ่งในชนชาตินั้นก็คือ ชาวฟิลิสติน หรือปาเลสไตน์

ครั้งหนึ่งเมื่อพวกลูกหลานอิสราเอลถูกรุกรานและหีบแห่งพันธสัญญาใบนี้ตกไปอยู่ภายใต้การครอบครองของชาวฟิลิสติน พวกลูกหลานอิสราเอลถึงกับร้องออกมาอย่างหมดหวังว่า “ชัยชนะสูญหายไปจากอิสราเอล เพราะหีบของพระเจ้าได้ถูกยึดไป”

หีบใบนี้อยู่ในแผ่นดินของชาวฟิลิสตินเป็นเวลา 7 เดือน แต่ไม่ว่าหีบใบนี้ไปอยู่ที่ใด ที่นั่นก็จะเกิดปัญหาความวุ่นวายไม่จบสิ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ จนชาวฟิลิสตินถึงกับร้องออกมาว่า “เอาหีบของพระเจ้าของพวกอิสราเอลออกไปจากพวกเราเสีย เพราะพระหัตถ์ของพระองค์รุนแรงต่อเรามากนัก”

หลังจากนั้นชาวฟิลิสตินก็ตัดสินใจส่งหีบใบนั้นคืนไปยังพวกลูกหลานอิสราเอล โดยเอาวัวนม 2 ตัวมาเทียมรถ และให้วัวลากไป

เมื่อได้หีบแห่งพันธสัญญากลับคืนมา พวกลูกหลานอิสราเอลก็ดีใจ เพราะก่อนหน้านั้นหัวหน้าผู้อาวุโสของพวกลูกหลานอิสราเอลได้บอกคนของตนว่า ในภายหน้าพวกลูกหลานอิสราเอลจะมีผู้นำที่เข้มแข็งเกิดขึ้น และสัญญาณบ่งบอกก็คือ พวกลูกหลานอิสราเอลจะได้รับหีบพันธสัญญากลับคืนมา หลังจากนั้นไม่นานพวกลูกหลานอิสราเอลก็ได้ผู้นำที่ชื่อว่าเดวิด กษัตริย์ผู้ก่อตั้งอาณาจักรอิสราเอลขึ้นมา และนับจากนั้นพวกลูกหลานอิสราเอลก็ไม่เคยถูกรุกรานอีกเลย

จนกระทั่งอาณาจักรอิสราเอลแตกออกเป็น 2 ส่วนหลังสมัยกษัตริย์โซโลมอน พวกลูกหลานอิสราเอลได้ตกเป็นทาสของชนชาติอื่นอีกครั้งหนึ่ง ไม่มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ระบุไว้ว่าพวกลูกหลานอิสราเอลได้นำหีบแห่งพันธสัญญาติดไปด้วย แม้วิหารหลังที่ 2 ได้ถูกทำลายไปพร้อมกับเมืองเยรูซาเลมโดยกองทัพโรมัน ก็ไม่มีบันทึกว่าพวกลูกหลานอิสราเอลได้นำหีบแห่งพันธสัญญาไปกับพวกตนด้วย

แต่หลังจากที่ขบวนการไซออนิสต์ตั้งรัฐอิสราเอลขึ้นมาใน ค.ศ. 1947 ชาวยิวก็อ้างว่าหีบแห่งพันธสัญญาใบนั้นถูกเก็บไว้ใต้โดมแห่งศิลา (Dome of the Rock) ซึ่งอยู่ในมัสยิดอัลอักซอ มัสยิดที่มีความสำคัญอันดับ 3 ของชาวมุสลิมทั่วโลก

เนื่องจากชาวอิสราเอลเชื่อว่าสถานที่เก็บหีบแห่งพันธสัญญาเป็นประตูไปสู่สวรรค์ของพวกตน ดังนั้น เมื่อตั้งรัฐอิสราเอลได้ ชาวอิสราเอลจึงพยายามหาทางขุดหาสถานที่เก็บหีบแห่งพันธสัญญาใบนั้นเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน


You must be logged in to post a comment Login