วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ลูกหลานอิสราเอลกลายเป็นยิว / โดย บรรจง บินกาซัน

On November 14, 2016

คอลัมน์ : สันติธรรม
ผู้เขียน : บรรจง บินกาซัน

หลังสมัยของกษัตริย์โซโลมอน อาณาจักรอิสราเอลที่กษัตริย์เดวิดสร้างขึ้นได้แตกออกเป็น 2 อาณาจักรคือ อาณาจักรอิสราเอลและอาณาจักรยูดาห์ เมื่อเกิดความแตกแยกความอ่อนแอจึงเกิดขึ้น ทำให้ทั้ง 2 อาณาจักรถูกรุกรานและทำลาย วิหารที่กษัตริย์โซโลมอนสร้างไว้เป็นศูนย์รวมใจของลูกหลานอิสราเอลผู้ศรัทธาในพระเจ้าบนเขาพระวิหาร (Temple Mount) ในเมืองเยรูซาเลมก็ถูกทำลายจนไม่เหลือซาก

หลังจากนั้นพวกลูกหลานอิสราเอลได้ตกเป็นทาสของคนต่างชาติอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่เคยตกอยู่ในสภาพเช่นนี้มาแล้วในอียิปต์สมัยฟาโรห์

อย่างไรก็ตาม พวกลูกหลานอิสราเอลยังได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เมื่อกษัตริย์ไซรัสแห่งเปอร์เซียได้ปลดปล่อยพวกลูกหลานอิสราเอลและอนุญาตให้คนพวกนี้เดินทางกลับไปยังเมืองเยรูซาเลม ดังนั้น เมื่อกลับไปถึงมาตุภูมิเดิม พวกลูกหลานอิสราเอลจึงได้ร่วมกันสร้างวิหารหลังที่ 2 ขึ้นบนที่ตั้งของวิหารหลังแรกที่โซโลมอนสร้างขึ้น

การถูกรุกรานและต้องตกเป็นทาสของคนชาติอื่นเป็นเวลานาน ทำให้พวกลูกหลานอิสราเอลสูญเสียคำสอนศาสนาที่พระเจ้าได้ประทานให้แก่โมเสสและเดวิดไป คัมภีร์ทางศาสนาของพวกลูกหลานอิสราเอลจึงถูกรวบรวมและเขียนขึ้นใหม่โดยผู้อาวุโสที่มีอคติ ในช่วงเวลานี้เองที่มีคำสอนประหลาดๆเกิดขึ้นในคัมภีร์ทางศาสนาของพวกลูกหลานอิสราเอล ซึ่งหลายตอนเมื่อใครอ่านแล้วแทบไม่เชื่อเลยว่าเป็นคำสอนทางศาสนา

การมีคัมภีร์ทางศาสนาเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับพวกลูกหลานอิสราเอล เหมือนกับการที่คนในทุกประเทศต้องมีกฎหมาย ทั้งนี้เพราะพวกลูกหลานอิสราเอลใช้คัมภีร์ทางศาสนาในการปกครอง แต่เมื่อคัมภีร์ทางศาสนาฉบับดั้งเดิมที่พระเจ้าประทานมาสูญหายไปและถูกเขียนขึ้นใหม่โดยน้ำมือมนุษย์ คำสอนจึงผิดเพี้ยนไป ส่งผลให้พวกลูกหลานอิสราเอลมีความคิดและพฤติกรรมที่ผิดเพี้ยน เพราะคำสอนของศาสนาซึมลึกถึงวิญญาณที่เป็นผู้บงการมนุษย์

หลังการสร้างวิหารหลังที่ 2 พระเจ้าได้ให้มีนบีหลายคนเกิดขึ้นในหมู่ลูกหลานอิสราเอลเพื่อเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณทำหน้าที่ตักเตือนคนกลุ่มนี้ เช่น เศคาริยาห์ ยอห์น เดอะแบพติสต์ และพระเยซูผู้ได้รับคัมภีร์ (Gospel) จากพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง แต่คำตักเตือนของนบีเหล่านี้ไปเสียดแทงใจดำและทำลายผลประโยชน์ของผู้อาวุโสที่มีอิทธิพลต่อพวกลูกหลานอิสราเอล ทั้งๆที่พระเยซูได้ยืนยันว่าท่านไม่ได้ลบล้างธรรมบัญญัติเดิมของพระเจ้าที่ประทานมายังโมเสสและเดวิด ดังนั้น นบีเหล่านี้จึงถูกผู้อาวุโสในหมู่ลูกหลานอิสราเอลกำจัด

การทำร้ายหรือทำลายคนของพระเจ้าไม่ใช่เป็นการฆาตกรรมธรรมดา แต่เป็นการท้าทายพระเจ้าโดยตรง ดังนั้น การลงโทษของพระเจ้าจึงเกิดขึ้นกับพวกลูกหลานอิสราเอลอีกครั้งหนึ่งใน ค.ศ. 70 โดยการที่พวกลูกหลานอิสราเอลถูกกองทัพโรมันบุกเข้ามาปราบและทำลายเมืองเยรูซาเลม รวมทั้งวิหารหลังที่ 2 จนไม่เหลือซาก

การถูกลงโทษครั้งนี้ทำให้พวกลูกหลานอิสราเอลต้องสิ้นชาติอย่างสิ้นเชิง พวกลูกหลานอิสราเอลจำนวนมากถูกฆ่า บางส่วนได้หลบหนีไปอาศัยอยู่ในประเทศต่างๆ ในจำนวนนี้มี 3 เผ่าที่อพยพหลบหนีมาอาศัยอยู่ในชานเมืองยัษริบ (มะดีนะฮฺ) ในคาบสมุทรอาหรับ

เมื่อนบีมุฮัมมัดอพยพจากมักก๊ะฮฺไปยังเมืองยัษริบ พวกลูกหลานอิสราเอลเป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งในการเชิญชวนสู่อิสลาม เพราะคนเหล่านี้มีความเชื่อขั้นพื้นฐานของอิสลามอยู่บ้างแล้ว เช่น ความเชื่อในพระเจ้า ความเชื่อในเรื่องนรกและสวรรค์ นอกจากนี้แล้วคนกลุ่มนี้ยังรู้จักนบีหลายคนและยังเป็นกลุ่มคนที่ได้รับคัมภีร์จากพระเจ้าอีกด้วย ดังนั้น ในตอนเริ่มแรกที่เข้าไปเชิญชวนคนเหล่านี้สู่อิสลาม ท่านได้เรียกคนเหล่านี้อย่างให้เกียรติว่า “ลูกหลานอิสราเอล” หรือ “ชาวคัมภีร์” และท่านถือว่าคนกลุ่มนี้เป็น “รุ่นพี่ทางศาสนา”

แม้ท่านนบีมุฮัมมัดจะพูดกับพวกลูกหลานอิสราเอลเหมือนกับที่พระเยซูพูดว่า ท่านถูกส่งมาเพื่อยืนยันธรรมบัญญัติเดิมที่พระเจ้าประทานแก่บรรดานบีก่อนหน้านี้ แต่ท่านกลับถูกปฏิเสธและเหยียดหยาม อีกทั้งคนเหล่านี้ยังทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ ในที่สุดท่านนบีมุฮัมมัดจึงเรียกพวกลูกหลานอิสราเอลที่ปฏิเสธการเชิญชวนของท่านว่า “ยะฮูด” หรือ “ยิว”

และเมื่อท่านนบีมุฮัมมัดสามารถรวบรวมสาวกของท่านเป็นปึกแผ่น ท่านได้เนรเทศคนพวกนี้ออกไปจากเขตเมืองมะดีนะฮฺของท่าน


You must be logged in to post a comment Login