วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2567

หนังสือไม่มีวันตาย / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On October 27, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

การที่หนังสือของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้รับความสนใจมากที่สุดในงานมหกรรมหนังสือระดับชาติครั้งที่ 21 ที่เพิ่งผ่านมา ทำให้เราเห็นหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่นึกไม่ฝัน และอะไรที่แปลกประหลาด

ที่ผ่านมาหนังสือที่ได้รับความนิยมจะเป็นของคนนั้น คนนี้ บางคนถ้าไม่ลาโลกไป ผลงานก็อาจไม่มีใครรู้ พอจากไปก็ทำให้ผู้คนเกิดความกระตือรือร้นที่จะแสวงหา อยากเก็บไว้ อย่างหนังสือ “ปราชญ์ของแผ่นดิน” ที่ท่านได้บันทึก ได้เขียนเอาไว้ ซึ่งเมื่อท่านจากไป ผลงานก็ไม่มีอีกแล้ว

อาตมาเองก็พลอยได้รับอานิสงส์ไปด้วยเหมือนกัน เห็นเขาบอกว่าหนังสือเล่มนี้ขายดีเหมือนกัน มีโยมซื้อมา แต่ยังไม่ได้เอามาให้ดู เป็นหนังสือที่สัมภาษณ์ถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงว่าพระองค์ทำอะไรไว้ ช่วยเหลือประเทศชาติและพสกนิกรอย่างไร ท่านสนับสนุนอะไรกับโครงการที่วัด ซึ่งปรากฏรูปในหนังสือด้วย

เหมือนในพระราชประวัติ ก็พลอยติดเลขท้าย ติดร่างแห พลอยได้รับ มีชื่อติดเหมือนกัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ถ้าเรามีชื่อ มีผลงานติดอยู่ด้วย มันก็เป็นความภูมิใจของชีวิตอย่างหนึ่งว่า ชีวิตเรานี่มันไม่ตายเปล่าน่ะ มันทำอะไรให้เกิดขึ้นได้นะ ใครที่เกิดมาชาติหนึ่งแล้วมีโอกาสได้มีผลงานอยู่ในหนังสือเล่มเดียวกับท่าน มีโอกาสที่จะไปอยู่ในเล่มพระราชประวัติ

ปัจจุบันหนังสือพิมพ์บางฉบับก็นำเรื่องต่างๆของในหลวง ของหลวงพ่อต่างๆ เช่น หลวงพ่อเกษม หลวงพ่อทางภาคอีสานที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ก็ทำให้เกิดความภาคภูมิของลูกศิษย์ลูกหาที่เห็นว่าครูบาอาจารย์มีชื่อ มีภาพปรากฏอยู่ในนั้น ทำให้ชีวิตชีวาของลูกศิษย์ลูกหาปลื้มใจ

นี่แหละ..ใครว่าหนังสือตาย เพราะไอ้โน่น ไอ้นี่ ไอ้นั่น หนังสือคงจะตายสนิท แต่เห็นหรือยังว่าหนังสือไม่มีวันตาย เหมือนอย่างที่เขาชอบพูดกันว่า ทหารแก่ไม่มีวันตาย หนังสือก็เป็นของเก่าแก่ เขียนกันมา อ่านกันมา จะให้ตายกันได้ง่ายๆยังไง

การสวรรคตของพระเจ้าแผ่นดิน ทำให้หนังสือฟื้น เรียกว่าสวรรค์เปิดทางให้กับหนังสือขึ้นมาอีก การสวรรคตไม่สูญเปล่า เพราะเปิดทางสวรรค์ให้หนังสือด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วก็จะกลายเป็นว่าสวรรค์ไม่ได้ให้ทางทุกด้าน

การสวรรค์ของพระองค์ก็เปิดทางให้หนังสือคึกคักขึ้นมาอีก โลกใบนี้ไม่ใช่จะเสียอะไรก็จะเสียไปหมดทุกอย่างทุกเรื่อง ถ้าเราสังเกต จับฉวยให้ดี มันมีเรื่องได้ในเสียให้เราได้สลับฉากกันอยู่เสมอ

ก็หวังว่า ใครที่เวลาเกิดความสูญเสียอะไร ก็อย่าไปนั่งเศร้าสร้อยเสียใจ ไปหาหนังสือติดไม้ติดมือ ติดบ้านมาสักเล่มหนึ่ง ดีกว่านั่งเศร้าอยู่ที่บ้าน เปิดหนังสืออ่าน ทำอะไรที่ชื่นอกชื่นใจคลายเครียด ดีกว่ามานั่งโศกเศร้า

เอาล่ะก็ขอฝากไว้ว่า คนเราเกิดมายังไง ก็สังเกตดูเถอะในเรื่องเสียมันจะมีได้ ถ้าคนรู้จักฉลาด แต่ถ้าคนไม่รู้ ก็เสียอกเสียใจ เสียเวลา รำพึงรำพันร่ำไห้ ไม่ได้ประโยชน์อะไรทางสติปัญญาเลย อย่างหนังสือนี่แหละจะเป็นสติปัญญา จะเห็นชีวิตที่แท้ของพระองค์ ซึ่งจะอยู่กับเราไปอีกยาวนาน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login