วันพฤหัสที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

ผิวสวยใสในฤดูฝน / โดย พญ.เพ็ญลดา ครุธโกษา

On October 3, 2016

คอลัมน์ : โลกสุขภาพ
ผู้เขียน : พญ.เพ็ญลดา ครุธโกษา

ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวันแบบนี้ทำเอาคนรอบๆตัวไม่สบายไปหลายคนทั้งโรคทั่วไปและปัญหาโรคผิวหนัง วันนี้เรามาดูกันว่าโรคผิวหนังอะไรที่พบบ่อยในสถานการณ์เปียกปอนชุ่มฉ่ำเฉอะแฉะแบบนี้กันบ้างดีกว่า

โรคผิวหนังที่เกิดจากเชื้อรา ไม่ว่าจะเป็นน้ำกัดเท้าหรือเชื้อราที่เท้า, กลาก-เกลื้อน หรือที่เราเรียกว่าอาการคันในร่มผ้า ซึ่งสามารถเกิดได้ตั้งแต่หัวจดเท้า เรียกว่าตั้งแต่ปลายผมจดปลายเล็บกันเลยทีเดียว จริงๆแล้วเชื้อราสามารถพบได้ในผิวหนังของคนปรกติ แต่จะไม่ก่อโรคจนกว่าร่างกายเราจะสร้างสภาวะแวดล้อมให้ราเจริญเติบโตได้ นั่นก็คือการสวมใส่เครื่องนุ่งห่มที่เปียกชื้นอยู่เป็นเวลานาน และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันผิดปรกติ

นอกจากความเปียกชื้นของเสื้อผ้าเป็นปัจจัยส่งเสริมให้ราสามารถเจริญเติบโตได้แล้ว การที่ผิวหนังเปียกชื้นเป็นเวลานาน ผิวจะอ่อนนิ่มกว่าปรกติทำให้เกิดบาดแผลได้ง่าย ซึ่งเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ราสามารถรุกรานเข้าสู่ผิวหนังเพื่อก่อให้เกิดโรคง่ายขึ้น

โรคผิวหนังอักเสบที่เกิดจากการแพ้ อุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในแต่ละวัน ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศที่สูง จะทำให้ผิวหนังอ่อนแอได้ง่าย เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดี คนที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังอยู่แล้วจะทำให้ผิวหนังอ่อนแอมากขึ้น อาจมีอาการกำเริบได้โดยไม่พบสาเหตุที่ชัดเจน หรืออาจมาจากการสัมผัสน้ำฝนที่ผ่านการชะล้างทั้งจากมลพิษในอากาศ หรือน้ำที่ผ่านอาคารบ้านเรือนมาสัมผัสผิวของเรา ซึ่งประกอบไปด้วยเชื้อโรค ฝุ่นละออง หรือสารเคมี ทำให้เกิดผื่นคันตามที่ต่างๆ อาจจะแค่ใบหน้าหรือทั่วทั้งร่างกายเลยก็ได้

ที่จริงขั้นตอนการดูแลผิวหน้าไม่ต่างจากเดิม แต่ต้องเอาใจใส่และทำอย่างสม่ำเสมอกว่าฤดูอื่นๆ หากใบหน้าสัมผัสน้ำฝนแล้วมีอาการคัน อย่ารอช้าหรืออิดออดที่จะทำความสะอาดโดยเร็ว

ปัญหาสุขภาพผิวหนังอีกอย่างที่พบได้บ่อยในหน้าฝนคือ “กลิ่นตัว” แม้จะไม่ถึงขนาดเป็นโรค แต่ก็เป็นปัญหาน่ารำคาญที่จัดว่าใหญ่โตเลยทีเดียว อากาศร้อนทำให้เรามีเหงื่อออกมาก ร่วมกับความชื้นในอากาศมากทำให้เหงื่อไม่ระเหยไป ผิวหนังจึงมีความอับชื้น ก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้มากกว่าปรกติ

นอกจากนี้ในฤดูฝนไม่ค่อยมีแสงแดด การตากเสื้อผ้าก็ไม่ค่อยแห้งสนิท ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นอับได้ หากบวก 2 อย่าง เข้าด้วยกัน กลายเป็นกลิ่นมาดามหอมชื่นใจกันเลยทีเดียว คงไม่มีใครอยากนั่งใกล้คนกลิ่นตัวแรงเป็นแน่แม้จะหน้าตาดีเท่าไรก็ตาม เสียบุคลิกภาพอย่างแรง

สิ่งที่มาคู่กับฤดูฝนอีกอย่างก็คือ แมลงสัตว์กัดต่อย แมลงหลากหลายชนิดจะชุกชุมเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นยุง หมัด ไร ด้วงก้นกระดก และอื่นๆ หากโดนกัดอาจก่อให้เกิดเป็นตุ่มร่วมกับอาการคัน พอคันแล้วก็ต้องเกา เมื่อเกาแล้วอาจเกิดแผลเป็นตามมาได้ แต่ถ้าแพ้ก็อาจกลายเป็นเรื่องใหญ่กว่านั้น สาวๆที่ไม่อยากขาลายพกของจำพวกป้องกันแมลงไว้ในกระเป๋าบ้างก็ดี นอกจากนี้แมลงเหล่านี้ยังเป็นพาหะของโรคอีกหลายชนิด

ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่าสาเหตุของโรคส่วนใหญ่มาจากการสัมผัสน้ำที่สกปรกหรือปล่อยให้ผิวหนังอับชื้นเป็นเวลานาน การป้องกันอันดับแรกคือ หลีกเลี่ยงการเหยียบย่ำน้ำหรือตากฝน จึงควรพกอุปกรณ์กันฝนไว้บ้าง สวมใส่เสื้อผ้าที่แห้งง่าย และไม่ฟิตจนเกินไปเพื่อไม่ให้เกิดการเสียดสี

หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ เมื่อกลับถึงที่พักควรรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายโดยใช้สบู่หรือสารทำความสะอาดทั่วไป ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อชนิดพิเศษ หลังจากนั้นเช็ดตัวให้แห้ง หากตากฝนจนผมเปียกควรสระผมเลย เนื่องจากในน้ำฝนอาจมีเชื้อไวรัสปนเปื้อนมาด้วย ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่เวลาเราตากฝนแล้วมักจะเป็นหวัด

ผิวสวยรับสายฝนไม่ใช่เรื่องยาก การป้องกันก่อนที่จะเกิดโรคง่ายกว่าการรักษาหลังจากเกิดโรคแล้ว ซึ่งการป้องกันก็ง่ายมากๆอย่างที่ได้แนะนำไปข้างต้น แต่หากเกิดปัญหาขึ้นแล้วแนะนำให้พบแพทย์ดีกว่าซื้อยาทาเอง เพราะการใช้ยาไม่ถูกวิธีอาจทำให้อาการเลวร้ายลงได้ หวังว่าทุกท่านจะสามารถผ่านฝนนี้ไปได้อย่างมีความสุขพร้อมกับสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และผิวสวยใสไร้ริ้วรอยเตรียมต้อนรับหน้าหนาวนะคะ


You must be logged in to post a comment Login