วันพฤหัสที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2567

ไม่ถึงกับน็อก?

On September 29, 2016

คอลัมน์ : โลกวันนี้มีประเด็น

ปัญหาอันเกิดจากลูก-เมีย “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีสถานะเป็นน้องชายนายกรัฐมนตรี “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างแรงเขย่ารัฐบาลจนออกอาการเป๋

จากที่พยายามอุ้ม พยายามปกป้อง ต้องกลับลำมาสอบหาข้อเท็จจริง หลังมีหลักฐานต่างๆหลุดออกมาเรื่อยๆ

การยอมถอยก็เพื่อตัดไม่ให้สังคมเคลือบแคลง ตัดไม่ให้โยงมาเกี่ยวข้องกับตัวนายกรัฐมนตรี

จะเห็นได้ว่าแม้มีองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันออกมาจี้ให้สอบหาข้อเท็จจริง แต่ก็การันตีในความซื่อสัตย์ สุจริตของนายกรัฐมนตรี

จะเห็นได้ว่ามีคำพูดเชิงคนละคนไม่เกี่ยวกัน เขาต้องชี้แจงของเขาเอง หรือหลานก็โตแล้วไม่ได้เจอหน้ากันมานาน

ทั้งหลายทั้งปวงก็เพื่อตัดทอนไม่ให้โยงมาเกี่ยวข้องกับนายกฯ

สร้างแนวป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนมากไปกว่านี้

ส่วนแนวทางในการสอบสวนในส่วนของกองทัพที่มีหลักฐานว่ามีการทำผิดระเบียบข้อห้ามเรื่องการจัดตั้งนิติบุคคลในค่ายทหาร

ถึงตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าบทลงโทษของการฝ่าฝืนระเบียบนั้นร้ายแรงแค่ไหน

หากไม่มีบทลงโทษกำหนดเอาไว้อย่างชัดเจน โทษหนักสุดก็อาจแค่สั่งห้าม หรือให้ออกจากการใช้บ้านในค่ายทหารเป็นที่ตั้งของนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำการค้าแสวงหากำไร

อย่างไรก็ตาม มีคนตั้งคำถามเหมือนกันว่า คนที่เซ็นอนุมัติให้ลูกพล.อ.ปรีชาได้งานได้ตรวจสอบหรือไม่อย่างไรเกี่ยวกับที่ตั้ง เงินทุน ก่อนที่จะให้ชนะประมูลงาน

เรื่องแทนที่จะจบง่ายแค่ว่าไม่เหมาะสมแล้วให้ออกจากสถานที่ อาจจบไม่ง่ายอย่างที่คิดหากสอบกันอย่างจริงจังแบบสุดซอย

สำหรับประเด็นที่ดูเหมือนเป็นเรื่องใหญ่ที่หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าอาศัยเส้นสาย หรือมีนอกมีในเพื่อให้ชนะประมูลได้งานหรือไม่นั้น

ถ้ายืนกระต่ายขาเดียวว่าเป็นการประมูลอย่างถูกต้อง มีการแข่งขันเสนอราคา ทำทุกอย่างตามระเบียบ

ถึงจะบอบช้ำอยู่บ้างก็น่าจะได้รับการชูมือเดินเข้ามุมลงจากเวทีได้

แม้จะมีประเด็นชวนสงสัยเรื่องบริษัทใหญ่ทำแพ้ประมูลงานให้นิติบุคคลน้องใหม่ที่ทุนจดทะเบียนต่ำ ไม่มีประสบการณ์ และตัวเลขประมูลที่เสนอต่างกันแค่หลักพันบาทปลายๆก็ตาม

ทายผล..อาจจะเสียรูปมวยบ้าง แต่ไม่ถึงกับแพ้น็อก มีโอกาสได้รับการชูมือให้ชนะแบบค้านสายตา

เหมือนหลายไฟท์ที่ได้รับการชูมือมาก่อนหน้านี้


You must be logged in to post a comment Login