วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

‘ดี-ชั่ว’อัปรีย์ทั้งเพ! / โดย พระพยอม กัลยาโณ

On September 5, 2016

คอลัมน์ : สำนักข่าวพระพยอม
ผู้เขียน : พระพยอม กัลยาโณ

ฉบับที่แล้วอาตมากล่าวถึง “ลูกพี่” เมื่อเป็นใหญ่เป็นโต ที่น่าเป็นห่วงคือเรื่องของสันดานมนุษย์ปุถุชนที่เห็นแก่ตัว มักง่าย พอได้จังหวะก็มักจะฉวยจังหวะตักตวงผลประโยชน์ต่างๆเป็นธรรมดา โดยเฉพาะบรรดาลูกน้อง จึงจ้องใช้ความเด็ดขาดจัดการให้เห็นเป็นตัวอย่างสักรายสองราย อาจจะทำให้เกิดความหวาดหวั่น เกรงกลัวบ้าง ถ้าไม่อย่างนั้นก็จะได้ใจ อย่าง “ผู้พันตึ๋ง” ได้ลดหย่อนเป็นนักโทษชั้นดี แต่กลับไปประพฤติผิดอีกจึงต้องกลับไปเป็นนักโทษชั้นเลวเข้าคุกต่อ

อาตมาขออธิบายเพิ่มเติมว่า ช่วงนี้ไม่รู้เป็นอะไร คนแก่ๆแทนที่จะเดินเข้าวัด กลับหันหน้าเข้าคุกกันเป็นแถว อายุ 60-70 ปีควรจะได้อยู่กับลูกกับเต้า อยู่กับครอบครัวอย่างอบอุ่น ไม่น่าจะติดคุกตอนแก่ เพราะใช้ชีวิตแบบละโมบโลภมาก ยังไงก็ฝากว่า ราชการก็อย่าเกียร์ว่าง อย่าสร้างความทุกข์ให้ประชาชน ประชาชนมาติดต่ออะไร จะโอน จะซื้อ จะขาย ก็ให้บอกความจริงให้เขารู้บ้าง มีโบรชัวร์ มีข้อมูลต่างๆว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง คือมาติดต่อแล้วเที่ยวเดียวจบ อย่าทำตัวเหมือนแมงมุมกับตาข่าย ถ้าเป็นสัตว์ใหญ่เดินชนก็ทะลุผ่านได้เร็วได้ไว ถ้าตัวเล็กเดินชนก็ติดขัด นี่เป็นข้าราชการที่ไม่ได้ทำให้ประชาชนชื่นใจ

ถ้าท่านนายกรัฐมนตรีจริงใจอยากจะนั่งต่อ ท่านก็ต้องขึ้นแบล็กลิสต์กระทรวง กรม กองไหนที่โกง 1 ถึง 5 จัดการอย่างไร โกงอันดับ 9 จะให้ลดลงอย่างไร ถ้าไม่ลดลงอย่างกรมที่ดินที่ติดอันดับ 1 มาปีสองปีแล้วและอาจจะครองแชมป์เป็นปีที่ 4 และ 5 อีก ท่านจะเอายังไง ถ้าไม่จัดการอย่างเด็ดขาด ก็เชื่อว่าถ้าจะมีอำนาจต่อก็อาจลุกเป็นไฟได้

ถ้าจะนั่งต่อก็อย่านั่งนาน 5 ปี 8 ปีเลย ขอระยะสั้นๆ ผ่อนความกระหายของอีกฝ่ายหนึ่งบ้าง อย่านึกว่าทำดีแล้วมันจะดีตามที่เราต้องการ อย่างหลวงพ่อพุทธทาสท่านเคยพูดว่า “ทั้งชั่ว ทั้งดี อัปรีย์ทั้งเพ”

เรื่องดีๆนี่แหละบางทีก็พลิกผันให้เป็นเรื่องร้ายได้ ท่านปรีดี พนมยงค์ ดร.ป๋วย อึ้งภากรณ์ ที่เป็นคนดีๆ จึงถูกขับไล่ไสส่ง เพราะฉะนั้นก็อยากให้หวนคิดที่ว่าความดีนั้น ดีแบบไหน ดีแบบจีรังยั่งยืน มั่นคง หรือดีแบบชั่วครู่ชั่วยาม

จะเลียนแบบฮุนเซนหรือเปล่า เห็นเขานั่งได้หลายปี เขาก็มาจากทหาร เลยนึกว่าทหารไทยก็คงจะทำได้เหมือน แต่พอเหลียวไปดูอีกประเทศหนึ่งกลับตรงกันข้าม อย่างทหารพม่าเขายอดเยี่ยม เต็งเส่งยอมลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้วบวช บวชแล้วไม่มีแซะซ้ายแซะขวา ไม่ก่อปัญหาให้กับรัฐบาลเลย

แต่ของเราไม่ใช่อย่างนั้น คนมีอำนาจมาก่อน พอมาแล้วก็มีเรื่องกระเซาะกระแซะ กระเตาะกระแตะกันอยู่เรื่อย เลยทำให้เห็นไม่รู้ว่าชะตาชาติบ้านเมืองจะอยู่ดีและสงบสุขหรือเปล่า ทำให้นึกถึงคำสอนของหลวงพ่อพุทธทาสที่ว่า คนสมัยโบราณเขาไม่รู้หนังสือแต่เขามีศีลธรรม กับคนรู้หนังสือแต่ไม่มีศีลธรรม อย่างไหนจะน่าปรารถนามากกว่ากัน

ท่านจะเป็นคนเรียนดีเรียนเก่งยังไงก็ตามเถอะ ถ้าศีลธรรมมั่นคงแน่วแน่ก็พอจะอาศัยกันได้ แต่ถ้าศีลธรรมตกต่ำ เสื่อมถอยก็อันตราย

ดังนั้นโลกมนุษย์เรานี่รอดได้ก็ด้วยศีลธรรม ถ้าใครมาปกครองบริหารบ้านเมืองก็ขอให้ใช้อำนาจและทรัพย์รับใช้ธรรมแล้วทุกอย่างจะดี แต่ถ้าเอาอำนาจและทรัพย์ บริวารเพื่อนพ้องไปรับใช้กิเลสตัณหา มันจะไม่ใช่เผด็จการโดยธรรม ไม่เป็นประชาธิปไตยที่จะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง ก็ขอให้นักการเมืองเล่นการเมืองเพื่อประโยชน์บ้านเมือง อย่าเล่นการเมืองเพราะแสวงหาผลประโยชน์ให้พรรคพวก ทุกอย่างจะดีหมดแน่นอน

เจริญพร


You must be logged in to post a comment Login